Home Blog Page 138

เครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาลซีพี ออลล์ ร่วมแสดงพลังต่อต้านคอร์รัปชัน 2566

0

ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทย เป็นปัญหาเชิงระบบที่เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งระบบอุปถัมภ์ที่ฝังลึกอยู่ในสังคมไทย ระบบธรรมาภิบาลที่อ่อนแอ และประเด็นสำคัญคือการที่คนทั่วไปยอมรับว่าการคอร์รัปชันเป็นส่วนหนึ่ง เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ จนนำมาซึ่งพฤติกรรมเลียนแบบจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นกับดักที่กัดกร่อนความมั่นคงของประเทศและกระทบต่อกลไกทุกภาคส่วน

คณะผู้บริหารซีพี ออลล์-เซเว่น อีเลฟเว่น ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว นำทีมพนักงาน พร้อมตัวแทน Mister & Miss Good Governance หรือเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาล (MMGG) ร่วมกิจกรรม “วันต่อต้านคอร์รัปชัน” ประจำปี 2566 ในธีม WHAT THE FACT ? (แค่สงสัยก็เสิร์ช ACT Ai เลย)”  เวทีสำคัญในการแสดงพลังต้านโกง ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและสถาบันการศึกษา ร่วมแสดงพลังคนไทย ตื่นรู้สู้โกง

นางสาวกรณิศ ธนสุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ให้ความสำคัญการกำกับดูแลกิจการที่ดี ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล ซึ่งมีสัดส่วนของกรรมการอิสระที่เป็นบุคคลภายนอก ทำหน้าที่กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการ นโยบายความยั่งยืน และนโยบายด้านการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น กำหนดจริยธรรมธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน รวมทั้งทบทวนนโยบายการกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับหลักบรรษัทภิบาลของหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมายและแนว ปฏิบัติสากลอย่างเหมาะสม

“ซีพี ออลล์ มีคาถาบรรษัทภิบาล ซื่อสัตย์ โปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม เป็นแนวทางให้ผู้บริหารและพนักงานในบริษัททุกคนใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันสร้างค่านิยมในการดำเนินงานที่ปราศจากการคอร์รัปชันให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร เป็นหนึ่งหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของซีพี ออลล์” นางสาวกรณิศย้ำ

การจะขจัดคอร์รัปชันของประเทศไทยไม่สามารถอาศัยกลไกภาครัฐเพียงอย่างเดียวได้ แต่ต้องมีการประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคเอกชน ในการบริหารจัดการสมการคอร์รัปชันให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด ที่ผ่านมาซีพี ออลล์ ได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับการวางมาตรการการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภายในและภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทุกหน่วยงาน ทุกระดับชั้น ตอกย้ำให้พนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกได้รับรู้ถึงช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน ตลอดจนสร้างเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาล  Mister & Miss Good Governance เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกถึงแนวคิดเรื่องธรรมาภิบาลที่ทันยุค ทันสมัย ช่วยส่งเสริมธรรมาภิบาลขององค์กรอย่างยั่งยืน และถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่ผู้บริหาร พนักงาน ผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาลของซีพี ออลล์ ได้มาร่วมแสดงพลังตื่นรู้สู้โกง ในวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2566 นี้ 

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กำหนดให้วันที่ 6 กันยายนของทุกปีเป็น “วันต่อต้านคอร์รัปชัน”  และจัดงานต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นให้คนในสังคมเล็งเห็นถึงปัญหาคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และเพื่อสร้างความร่วมมือในหลากหลายรูปแบบ ที่จะช่วยขจัดปัญหา คอร์รัปชันให้หมดไป

ผู้บริหารและพนง. ซีพีเอฟ ร่วมแสดงพลังในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ปี 2566

0

ผู้บริหารและพนักงาน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมแสดงพลังต่อต้านและจุดยืนต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2566 จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปีนี้มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาร่วมประกาศพันธสัญญาต้านโกง แสดงถึงจุดยืนในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันของรัฐบาล ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ)

งานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด WHAT THE FACT? ค้นหาความจริง-ใจในการต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งผู้บริหารและพนักงานของซีพีเอฟ รวมพลังเดินขบวนพาเหรด และประกาศจุดยืนต่อต้านคอร์รัปชันพร้อมกับตัวแทนจากภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมหลายแห่งทั่วประเทศไทยกันอย่างคึกคัก

นางสาววิภาวรรณ ประมูลความดี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สำนักตรวจสอบภายในและสำนักบริหารความเสี่ยงองค์กร ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ภายใต้กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งสนับสนุนการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร สอดคล้องกับปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือซีพี ที่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ประโยชน์ของประชาชน และประโยชน์ของบริษัทเป็นลำดับสุดท้าย โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการทำธุรกิจที่ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน จะมีส่วนสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ และส่งผลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร

ซีพีเอฟ ในฐานะสมาชิก “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (โครงการ Collective Action Coalition: CAC) มุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนร่วมกันป้องกันความเสี่ยงและโอกาสเกิดการทุจริตคอร์รัปชันในการปฏิบัติงานได้ รวมทั้งสนับสนุนให้ความรู้แก่คู่ค้าผู้ประกอบการ SMEs ในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ได้มาตรฐานสากล และประกาศเจตนารมณ์แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน

“การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจที่ยั่งยืน ยกระดับความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม” นางสาววิภาวรรณ กล่าว

ทุกข์ปัญหา บ้านช่วยได้ กับ “สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน”

0

“บ้าน” คือ ที่อยู่อาศัย สำหรับใช้เป็นแหล่งพำนักพักพิง อาจจะเป็นอาคาร หรือ ห้องพัก   และสำหรับหลายคนแล้ว ให้ความหมายกับบ้านมากกว่า สิ่งปลูกสร้าง, ขนาดพื้นที่  แต่ยังเป็นทั้งความรัก ความผูกพัน และความทรงจำมากมายของคนที่อยู่อาศัยร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน

คนที่เป็นเจ้าของบ้าน  ย่อมมีความรู้สึกรัก ผูกพัน และต้องการรักษา “บ้าน” ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มี ราคา และ มูลค่า สูงที่สุดของตัวเอง 

แม้ว่า การมี “บ้าน”  จะถือเป็นภาระและความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ แต่ในอีกด้านหนึ่ง  สินทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยนี้ สามารถช่วยเหลือและเป็นทางออกของปัญหาเมื่อต้องเผชิญกับภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ถ้าจะพูดว่า “ทุกข์ปัญหา บ้านช่วยได้” ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความจริง  ด้วยเหตุนี้ ธนาคารออมสิน เข้าใจถึงทุกปัญหาทางการเงินที่หลายคนต้องเจอ จึงได้มีผลิตภัณฑ์อย่าง สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน” มาช่วยฮีลใจให้ผ่านทุกปัญหาไปได้

เพราะ สินเชื่อบ้านแลกเงิน เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่ช่วยเคลียร์ทุกปัญหาให้คลี่คลาย เพียงเปลี่ยนบ้านเป็นเงิน ด้วย “สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน” โดยที่บ้านยังอยู่ครบ

เพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายอเนกประสงค์ เช่น เพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น (ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการอุปโภคบริโภค) โดยที่ “บ้านยังอยู่”  เจ้าของและคนที่อยู่อาศัยในบ้าน ยังสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ตามปกติ

ด้วยวงเงินกู้งสุดถึง 10 ล้านบาท  กำหนดระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 30 ปี และพิเศษสุดกับอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 3.99% (MRR-3.005%)

อย่าพลาด!  สินเชื่อที่จะช่วยให้เรา สามารถเผชิญหน้า และผ่านพ้นทุกปัญหา ด้วย สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน  เพราะ “ทุกข์ปัญหา บ้านช่วยได้”   

ผู้สนใจ ตรวจสอบคุณสมบัติตามเงื่อนไข ดังนี้

1. เป็นบุคคลที่มีอาชีพและรายได้แน่นอน

2.มีอายุครบ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 70 ปี  กรณีเป็นผู้มีรายได้ประจำ ต้องมีอายุงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป  ส่วนกรณีผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือเจ้าของกิจการ ต้องมีอายุงาน หรือดำเนินกิจการมาแล้ว ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

และจัดเตรียมเอกสารเพื่อการกู้ยืมให้พร้อม  แล้วยื่นสมัครสินเชื่อได้เลยตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครทางออนไลน์ เพียงคลิก https://bit.ly/3qGnfWh  หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินได้ทุกสาขา

หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือ GSB Contact Center โทร. 1115 และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.gsb.or.th และ Facebook: GSB Society

เมืองไทยประกันชีวิต​ ส่งแคมเปญ “Health จุใจ” คุ้มครองสุขภาพเหมาจ่าย​ เจาะตลาดประกันสุขภาพออนไลน์

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า  เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้ารุกตลาดประกันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง  พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ของประกันสุขภาพออนไลน์ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญซีรีย์ “Health จุใจ” จัดแพ็คความคุ้มครองแบบจุใจ เต็มอิ่มกับความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่าย คุ้ม ครบ ซื้อง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เลือกได้ในแบบที่ เป็นคุณ ทั้งโครงการ “Health จุใจ IPD+OPD”ดูแลครบการรักษาโรคทั่วไป โรคร้าย อุบัติเหตุ แบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน หรือโครงการ “Health จุใจ Combo” ที่พลัสคอมโบเพิ่มค่ารักษาโรคร้ายแรงมะเร็งและไตวายเรื้อรังทุกระยะทั้งแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน เพิ่มเติมจากค่ารักษาโรคทั่วไป โรคร้าย อุบัติเหตุ นอนแอดมิต

โครงการ  “Health จุใจ IPD+OPD”  ดูแลยาวถึงอายุ 99 ปี มีให้เลือกได้จุใจถึง 3 แพ็ค คือ S  M และ L    โดดเด่นด้วยความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายแบบผู้ป่วยใน (IPD) นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล   ทั่วไทย และเลือกคุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ทั้งแบบเหมาจ่ายวงเงินต่อปีหรือแบบจำกัดวงเงินต่อครั้ง ที่คุ้มครองตั้งแต่โรคเล็ก โรคร้ายแรง โรคทั่วไป อุบัติเหตุ แอดมิตก็เหมาจ่ายตั้งแต่บาทแรกในวงเงินเดียวสูงสุด  500,000 บาทต่อครั้ง(1) และดูแลค่ารักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) เหมาจ่ายสูงสุด 30,000 บาทต่อปี เบี้ยประกันภัยแพ็คเล็กเริ่มต้นเดือนละ 999 บาท

โครงการ “Health จุใจ Combo” ดูแลยาวถึงอายุ 99 ปี มีให้เลือกได้จุใจ Combo ถึง 5 แพ็ค คือ XS  S  M  L และ XL โดดเด่นจุใจด้วยคอมโบพลัสค่ารักษาโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรังทุกระยะทั้ง IPD  และ OPD 10 ล้านบาทต่อปี​คุ้มครองการรักษาโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรังที่ทันสมัย เช่น Targeted Therapy, Immunotherapy, การปลูกถ่าย Stem Cell, การล้างไตแบบประสิทธิภาพสูง และการปลูกถ่ายไต เป็นต้น คุ้มครองเพิ่มเติมพิเศษค่าปรึกษาทางจิตเวช ค่าห้อง ค่ายา ค่ารักษา ตั้งแต่เริ่มรักษา หมดกังวล แม้เป็นซ้ำ    ก็คุ้มครอง  และเลือกความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายแบบผู้ป่วยใน (IPD) ได้สูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ ถ้ามีสวัสดิการเลือกแผนมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) จ่ายเบี้ยถูกลง และเมื่อถึงวัยเกษียณยังเลือกปรับเปลี่ยนแผนได้  เพื่อให้ตรงความต้องการ  และสอดรับกับสวัสดิการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้สิทธิ์เลือกปรับลดความรับผิดส่วนแรก (Convertible Option) ตอนเกษียณ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่ เบี้ยประกันภัยแพ็คเล็กเริ่มต้นตกเดือนละ 740 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ “Health จุใจ” จากเมืองไทยประกันชีวิต หรือศึกษารายละเอียดแบบประกันภัย โปรโมชัน และสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์  https://online.muangthai.co.th  ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์ Happiness Reinvented เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต  พร้อมเคียงข้างในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม  พร้อมการพัฒนาช่องทางการขายอย่างรอบด้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัล ซึ่งการรุกตลาดประกันภัยออนไลน์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบบประกันดี ๆ ที่เหมาะสม ได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น เพื่อสร้างหลักประกันและความอุ่นใจกับกับตนเองและครอบครัว” นายสาระ กล่าว

AIS Fibre เสริมแกร่งนวัตกรรม Intelligent Service ติดตามสถานะเดินทางของทีมช่างแบบเรียลไทม์

0

AIS Fibre ตอกย้ำเป้าหมายการทำงานเพื่อยกระดับและสร้างมาตรฐานการให้บริการเน็ตบ้าน ผ่านการให้คำมั่นสัญญาที่พร้อมดูแลและแก้ไขปัญหาการใช้งานให้ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI มาพัฒนาสู่การเป็น Intelligence Service หรือบริการอัจฉริยะเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกบนแอปพลิเคชัน myAIS ด้วยระบบตรวจสอบปัญหา (Smart Diagnostics) ที่มีฟังก์ชันในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้านการใช้งาน นัดหมายช่าง ติดตามสถานะการแก้ปัญหา ล่าสุดได้ยกระดับไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่ AIS Fibre Onsite Tracking สามารถตอบโจทย์และเข้าใจช่วงเวลาสำคัญของลูกค้า โดยเชื่อมต่อเทคโนโลยีการทำงานของทีมช่างหรือ SOA (Service Operation Assistance) มาเข้ากับระบบ GPS เพื่อติดตามเส้นทางการเดินทางของทีมช่าง และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่นัดหมายกับทีมช่างหรือทีมวิศวกรให้เข้ามาดำเนินการที่บ้านทุกเคส อาทิ การติดตั้งใหม่ การย้ายจุดติดตั้ง การซ่อมบำรุง และการติดตั้งอุปกรณ์ AIS PLAYBOX หรือ Mesh WiFi สามารถติดตามสถานะของช่างได้แบบเรียลไทม์ด้วยตัวเองผ่านทางแอปพลิเคชัน myAIS

สุนีย์ โรจนโอฬารรัตน์ หัวหน้าแผนกงานบริหารการตลาดธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ AIS

นางสาวสุนีย์ โรจนโอฬารรัตน์ หัวหน้าแผนกงานบริหารการตลาดธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ AIS กล่าวว่า “นอกเหนือจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งมอบประสบการณ์เน็ตบ้านที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแล้ว AIS Fibre ยังสร้างมาตรฐานการให้บริการและการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยงานบริการอัจฉริยะหรือ Intelligent Service ที่เป็นการใช้ขีดความสามารถด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของ AIS มายกระดับ Customer Journey ของลูกค้าให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประสบการณ์ในช่วงเวลาที่ต้องนัดหมายกับทีมงานในการเข้ามาติดตั้งหรือแก้ไขปัญหา ที่ลูกค้าต้องการทราบวันเวลาที่ชัดเจนในการเข้ามาของทีมช่าง

ทำให้วันนี้เราพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ AIS Fibre Onsite Tracking ระบบแสดงพิกัดแผนที่ GPS Location ที่เชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชันของทีมช่างหรือวิศวกรที่กำลังเดินทางไปให้บริการลูกค้าที่มีการนัดหมาย โดยความสามารถของ AIS Fibre Onsite Tracking จะแจ้งสถานะก่อนถึงเวลานัดหมาย 40 นาที ให้ลูกค้าสามารถวางแผนเวลาที่แน่นอนได้และยังสามารถติดตามสถานะการเดินทางของทีมช่างได้ที่เราได้พัฒนาขึ้นให้มีความเข้าใจง่าย แสดงรายละเอียดของแผนที่ ที่อยู่ลูกค้า คาดการณ์เวลาถึงที่หมาย ข้อมูลของเบื้องต้นทีมช่าง และยังสามารถโทรติดต่อกับทีมช่างผ่านหน้าจอได้อย่างสะดวก สามารถตรวจสอบสถานะได้แบบเรียลไทม์ ผ่านแอปพลิเคชัน myAIS ที่มีการ์ตูนน้องอุ่นใจมาอยู่เป็นเพื่อนระหว่างรอช่างเข้ามาดำเนินการ นอกจากนี้ระบบจะคำนวณระยะทางเมื่อทีมช่างเดินทางใกล้ถึงบ้านลูกค้าภายในรัศมี 500 เมตร จะมีการแจ้งเตือนอีกครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าวางแผนเตรียมตัวก่อนทีมช่างหรือทีมวิศวกรเข้าดำเนินการภายในบ้าน

“เราเข้าใจดีว่าทุกช่วงเวลาของลูกค้ามีความสำคัญ การคิดนำทำก่อนโดยมีลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญคือสิ่งที่พวกเราชาว AIS Fibre ยึดเป็นแนวทางการทำงานมาโดยตลอด โดยเราเชื่อว่า AIS Fibre Onsite Tracking ที่เราพัฒนาขึ้นจะไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมใหม่ที่ยกระดับการให้บริการเท่านั้น แต่ยังเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าสามารถวางแผนการใช้ชีวิต บริหารจัดการเวลาต่างๆ ได้อย่างลงตัว” นางสาวสุนีย์ กล่าวทิ้งท้าย

ซีพีเอฟ จับมือ CAC เดินหน้าหนุนคู่ค้า SMEs ทำธุรกิจโปร่งใส เป็นแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมกับ แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Collective Action Against Corruption: CAC) ภายใต้การสนับสนุนสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สานต่อการดำเนินโครงการ “CAC SME Certification” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยการพัฒนาศักยภาพคู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง SMEs ของซีพีเอฟ มีความรู้และเข้าใจในการกำหนดมาตรการควบคุมภายในป้องกันคอร์รัปชั่น ขยายแนวร่วมองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโปร่งใส เคารพกฎหมาย หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมและเศรษฐกิจ

นายพรหมเมศร์ เบ็ญจรงค์กิจ ผู้อำนวยการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย กล่าวว่า การค้าการลงทุนในปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างไร้พรมแดนและแข่งขันสูงมาก จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการทุจริตเพิ่มขึ้น ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และยังชักชวนและสนับสนุนคู่ค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในห่วงโซ่อุปทาน ตระหนักและสามารถกำหนดนโยบายและมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการละเมิดกฎหมาย รวมถึงการให้สินบนอย่างจริงจัง เป็นอีกกลไกหนึ่งที่จะช่วยให้การจัดการปัญหาคอร์รัปชันมีประสิทธิภาพ และส่งผลดีต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา ผู้บริหารสูงสุด สายงานการจัดซื้อ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทร่วมกับ CAC จัดอบรมแนวทางการป้องกันคอร์รัปชันในองค์กรให้แก่คู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สนับสนุนคู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs จำนวนกว่า 6,000 รายได้ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรการกำกับดูแลภายในองค์กรเพื่อการประกอบกิจการอย่างโปร่งใส และสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กรในการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตที่เข้มแข็ง ได้มาตรฐานสากล และร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการป้องกันคอร์รัปชันในองค์กร โดยซีพีเอฟพร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้คู่ค้าสามารถกำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถ ผ่านการรับรองเป็นองค์กรเป็นสมาชิกโครงการ CAC ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับคู่ค้าได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเพิ่มขึ้น ช่วยสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง

“การเป็นแนวร่วมปฏิบัติต่อต้านการคอร์รัปชันของคู่ค้า SMEs เป็นการแสดงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรม สุจริต โปร่งใส และเชื่อมั่นว่าจะเป็นแรงสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวธิดารัตน์กล่าว

ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายธุรกิจโปร่งใสไปยังบริษัทคู่ค้าธุรกิจ โดยเฉพาะคู่ค้า SMEs เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทคู่ค้าถึงมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่มีจรรยาบรรณ โปร่งใส และมีส่วนร่วมแก้ปัญหาคอร์รัปชัน โดยในปีนี้ มีคู่ค้า SMEs ได้ประกาศเป็นแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันเพิ่มเป็น 40 ราย และบริษัทฯ ให้คำปรึกษาและแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมคู่ค้าธุรกิจผ่านการรับรองเป็นองค์กรเป็นสมาชิกโครงการ CAC ต่อเนื่องนำไปสู่องค์กรดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

AIS PLAY ยิงสดฟุตบอล 2 รายการแห่งศักดิ์ศรี คิงส์คัพ และ ชิงแชมป์เอเชีย U23 ชวนแฟนบอลเชียร์ทัพ ‘ช้างศึก’ คว้าชัย

0

AIS PLAY เดินหน้าส่งมอบประสบการณ์คอนเทนต์กีฬาให้คนไทยได้รับชมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฟุตบอลไทย ที่วันนี้ AIS PLAY ยังคงเป็นศูนย์กลางการรับชมบอลไทยในฐานะแพลตฟอร์มหลักวงการฟุตบอลไทย ล่าสุดเตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย 2 รายการใหญ่ ศึกแห่งศักดิ์ศรี ทั้งการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียอย่าง AFC U23 Asian Cup 2024 รอบคัดเลือก ที่ปีนี้ไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พร้อมชวนแฟนบอลชาวไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพช้างศึก ฟุตบอลทีมชาติไทย คว้าชัยในทุกการแข่งขัน แบบติดขอบจอ ชมฟรีทุกเครือข่ายบนแพลตฟอร์ม AIS PLAY ทุกช่องทาง

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ AIS กล่าวว่า “เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าความเป็นผู้นำการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ที่ครบที่สุด มากที่สุด ในฐานะแพลตฟอร์มหลักวงการฟุตบอลไทย ทำให้เราเดินหน้าทำงานร่วมกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นำสุดยอดรายการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยมาให้แฟนบอลได้รับชมกันอีกครั้งกับศึกการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 และ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียอย่าง AFC U23 Asian Cup 2024 รอบคัดเลือก โดยทั้งสองรายการถือเป็นรายการสำคัญของทีมชาติไทยที่แฟนบอลต่างตั้งตารอ เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมต่อประสบการณ์การรับชม พร้อมส่งความสุขไปยังแฟนบอลทั่วประเทศให้ได้ร่วมเชียร์ทัพช้างศึก นักฟุตบอลทีมชาติไทย ชนิดติดขอบจอได้ฟรีผ่าน AIS PLAY”

สำหรับรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 จัดขึ้นที่ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี 4 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติไทย, ทีมชาติอิรัก, ทีมชาติเลบานอน และทีมชาติอินเดีย งานนี้ทีมชาติไทยเตรียมแผนการแข่งขันอย่างเข้มข้น นำโดย อเล็กซานเดร มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือคนสำคัญ แท็กทีมมาซาทาดะ อิชิอิ ประธานเทคนิค และมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ผู้จัดการทีม พร้อมโชว์ความมั่นใจคว้าแชมป์คิงส์คัพครั้งที่ 49 ได้อย่างแน่นอน โดยทีมชาติไทยจะประเดิมสนามนัดแรก วันที่ 7 กันยายน 2566 พบ เลบานอน เวลา 20.30 น. ส่วนโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 มีดังนี้

วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 17.30 น. อิรัก พบ อินเดีย และ เวลา 20.30 น. ทีมชาติไทย พบ เลบานอน
รอบชิงอันดับ 3 วันที่ 10 กันยายน 2566 เวลา 17.30 น. ผู้แพ้คู่ที่ 1 พบ ผู้แพ้คู่ที่ 2
รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 10 กันยายน 2566 เวลา 20.30 น. ผู้ชนะคู่ที่ 1 พบ ผู้ชนะคู่ที่ 2
ส่วนฟุตบอลทีมชาติไทย U23 รุ่นอายุไม่เกิน 23 เตรียมลงแข่งขันในรายการฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2024 หรือ
เอเอฟซี U23 เอเชียน คัพ 2024 รอบคัดเลือก ปีนี้ประเทศไทยถูกเลือกอยู่ในโถที่ 1 เนื่องจากเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ร่วมกับ เวียดนาม, ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ที่อยู่ในโถแรกเช่นกัน สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกจะแบ่งออกเป็น 11 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เพื่อค้นหาแชมป์กลุ่มละ 1 ทีม และทีมอันดับสองที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม เพื่อเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจะจัดการแข่งขันในช่วงวันที่ 15 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2567 โดยโปรแกรมฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ของทีมชาติไทย U23 มีดังนี้

วันพุธที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 20.30น. ทีมชาติไทย พบ ฟิลิปปินส์ ที่สนามชลบุรี สเตเดียม
วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 เวลา 20.30น. ทีมชาติบังคลาเทศ พบ ทีมชาติไทย ที่สนามชลบุรี สเตเดียม
วันอังคารที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 20.30น. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย ที่สนามชลบุรี สเตเดียม

แฟนบอลชาวไทย ร่วมส่งกำลังใจให้แก่นักกีฬาช้างศึกทีมชาติไทยทั้ง 2 ชุด ผ่านการถ่ายทอดสด ยิงตรงจากสนาม บน AIS PLAY ชมฟรีทุกเครือข่าย ในทุกช่องทาง ทั้งแอปพลิเคชัน, เว็บไซต์ https://aisplay.ais.co.th/portal/screen/SportsWeb/, กล่อง AIS PLAYBOX, SAMSUNG Smart TV, Android TV และ Apple TV

ซีพีเอฟ คว้ารางวัล AsiaStar Packaging Awards บรรจุภัณฑ์อาหารเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอาหารและการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนระดับโลก คว้ารางวัลระดับภูมิภาค AsiaStar Packaging Awards 2022 ประเภทบรรจุภัณฑ์สำหรับขนส่งสินค้า (Transportation Packaging) จัดโดยสมาคมการบรรจุภัณฑ์แห่งเอเชีย (Asian Packaging Federation) จาก นวัตกรรมกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปแช่แข็ง Flamin Chicken Tenders ที่ช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษ 40% ขณะที่ยังคงคุณภาพและความแข็งแรงเท่ากับกล่องรูปแบบเดิม พร้อมเพิ่มคุณสมบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดตอบโจทย์กิจกรรมส่งเสริมการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียอาหารและขยะ

นายกิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์ ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารที่คำนึงถึงผู้บริโภคและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ช่วยปกป้องอาหาร รวมถึงยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น สำหรับกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ Flamin Chicken Tenders ซึ่งเป็นสินค้าอาหารพร้อมทานที่ส่งออกเพื่อวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ออกแบบเป็นกล่องลูกฟูกที่ลดการใช้วัสดุกระดาษ 40% แต่ยังคงมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ฉีกขาดง่ายระหว่างการยกและขนส่งจากโรงงานไปจุดจำหน่าย และสามารถวางเรียงซ้อนกันได้ นอกจากนี้ กล่องยังถูกออกแบบให้สามารถปรับเป็นที่โชว์สินค้า ณ จุดจำหน่าย (Shelf Ready Packaging) ตอบโจทย์ทั้งด้านประโยชน์การใช้งาน ความสวยงาม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม กล่องกระดาษแบบใหม่ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 165.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ยืนต้นจำนวน 2,743 ตันเป็นเวลา 10 ปี เทียบเท่าการประหยัดไฟ 277,225 kWh ส่งผลให้กล่องบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟชนะรางวัลระดับภูมิภาค AsiaStar Packaging ได้

“รางวัลที่ได้รับสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการพัฒนาออกแบบและจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน หาแนวทางใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ช่วยลดปริมาณวัสดุ เพิ่มสัดส่วนบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าและผู้บริโภค” นายกิตติกล่าว

ทั้งนี้ กล่องบรรจุภัณฑ์ไก่แปรรูปแช่แข็ง Flamin Chicken Tenders ยังได้รับรางวัลระดับประเทศ และภูมิภาคจาก ThaiStar Packaging Awards 2022 และ The Asian Export Awards 2021 สะท้อนความสำเร็จการเป็นบริษัทผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากห่วงโซ่การผลิตที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

รู้เก็บรู้ออม : Smart E-commerce Entrepreneur

0

การเป็นเจ้าของธุรกิจในปัจจุบันนี้สามารถเริ่มต้นได้ง่ายกว่าสมัยก่อน เพราะความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่ได้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้การทำธุรกิจออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ มาแรงไม่หยุด เห็นได้จากมีผู้ประกอบการออนไลน์เพิ่มจำนวนขึ้นมาก เพราะเห็นถึงโอกาสในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบผลสำเร็จ อยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ การวางแผนธุรกิจ ช่องทางขาย ตลอดจนฝีมือในการบริหารจัดการไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาด, การขาย, เงินทุน เช่นเดียวกับการทำธุรกิจต่างๆ

เป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการออนไลน์ที่ตอนนี้ “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” ได้ร่วมกับ Sea (ประเทศไทย) ที่เป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ จัดทำวิดีโอซีรีส์สำหรับผู้ประกอบการออนไลน์ ชุด “Smart E–commerce Entrepreneur” ขึ้น สำหรับคนที่สนใจเริ่มธุรกิจออนไลน์ และคนที่เป็นผู้ประกอบการออนไลน์แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อเติมเต็มความรู้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ ผ่านเนื้อหาที่ถูกย่อยให้กระชับ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง ทั้งด้าน “การทำธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ” และ “การเงินเพื่อธุรกิจออนไลน์”

โดยจัดทำวิดีโอที่ทำออกมา 5 ตอน ได้แก่ โอกาสการขายผ่าน E–commerce, ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ E–commerce ประสบความสำเร็จ, ตั้งราคาสินค้าอย่างไรให้เหมาะสมและไม่ขาดทุน, จัดการสต๊อกสินค้าให้ดีทุนไม่จม และขายออนไลน์ต้องรู้ เสียภาษีอย่างไร

“คุณนายพารวย” มีโอกาสเข้าไปดูครบจบทุกตอน เลยอยากชวนให้คนที่สนใจธุรกิจออนไลน์ เข้าไปติดตามรับชมกัน รับรองว่าดูครบทุกตอนแล้ว จะได้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการหาโอกาสและใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่หลากหลายช่องทาง, ทำธุรกิจออนไลน์อย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้รู้เรื่องการจัดการสต๊อกสินค้า ขายยังไงไม่ให้ทุนจม, การดูเรื่องต้นทุนและตั้งราคาขาย รวมถึงวิธีการเสียภาษี และการเลือกหักค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม สำหรับผู้ประกอบการออนไลน์

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และผู้ที่สนใจธุรกิจออนไลน์ สามารถเข้าไปดูซีรีส์วิดีโอชุดนี้ได้ทุกตอนแบบฟรีๆ ผ่านเว็บไซต์ www.live-platforms.com และ seaacademy.co

ไม่มีคำว่า สายเกินไปสำหรับการเรียนรู้ เชื่อว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องถูกใจสิ่งนี้ เตรียมตัวให้พร้อม มีพื้นฐานแน่น เมื่อบวกกับการลงมือทำ และความตั้งใจแล้ว จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของทุกคนประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน “คุณนายพารวย” ขอส่งกำลังใจให้กับคนตั้งใจทำมาหากิน ประกอบอาชีพสุจริตทุกคนค่ะ!!

ก่อนจบวันนี้ ขออนุญาตรบกวนเวลาท่านผู้อ่านสักนิด ช่วยสแกน QR code กรอกแบบ สอบถามสั้นๆ เพื่อให้เรานำมาเป็นแนวทางปรับปรุงเนื้อหาข่าวสารความรู้ ให้ตรงกับความต้องการของท่านให้มากที่สุด กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ https://forms.gle/wfAiY2KUxHDSBxFQA

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

20 ปี “บุญเกิดฟาร์ม” บทพิสูจน์คอนแทรคฟาร์มเลี้ยงหมู พลิกชีวิต สร้างอาชีพมั่นคง

0

ชีวิตของคนหาเข้ากินค่ำอย่าง ‘ไพรัตน์ อยู่อภิบาลรักษ์บัณพร’ และ ‘บัณพร บุญเกิด’ ที่ยึดอาชีพรับจ้างขับรถขนส่งไข่ไก่ในจังหวัดนครราชสีมา เงินเดือนรวมกันเพียง 3,000 บาท สำหรับเลี้ยงลูกอีก 2 และใช้ให้เพียงพอกับทั้ง 4 ชีวิตในครอบครัว แม้จะยากลำบากแต่ทั้งสองไม่เคยท้อแท้ สู้ทนบากบั่นเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ยังโชคดีที่มีคนคอยหยิบยื่นโอกาสให้ เมื่อทีมงานของเครือซีพีเห็นถึงความขยันของพวกเขา จึงให้โควต้ารับส่งไข่ไก่เพิ่มขึ้น ไพรัตน์กับบัณพรไม่ลังเลที่จะรับไว้ ตัดสินใจดาวน์รถขนส่งเป็นของตัวเอง เพื่อรับงานขนส่งไข่ไก่ตรงกับบริษัท

“ตอนนั้นทางทีมงานฝ่ายขายของซีพีเห็นเรากระเตงลูกชายตัวเล็กๆมาขนไข่ไก่ ทำงานหนักเอาเบาสู้ จึงช่วยสนับสนุนให้ได้โควตารับไข่ไก่กับบริษัท ตอนนั้นรับงานเยอะขึ้น เริ่มมีรายได้ดีขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยการต้องตะลอนไปบนท้องถนน วันหนึ่งกลายเป็นจุดพลิกผันเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ลูกชายเจ็บหนักเกือบไม่รอด เราสองคนจึงกลับมาคิดว่า ต้องทำอย่างอื่นที่ดีกว่าการรับจ้างหากินบนท้องถนน จึงเปลี่ยนมาตัวแทนขายไข่ของซีพีแทน ขายไข่อยู่ปีกว่าๆจึงย้ายจากโคราชกลับมาอยู่บ้านแฟนที่ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ยึดอาชีพขายไข่และยังรับงานขนส่งอาหารหมู ส่งไข่ให้บริษัทอยู่ จนกระทั่งผู้จัดการโครงการส่งเสริมเลี้ยงหมู มาชวนเลี้ยงหมูเพราะซีพีเอฟกำลังจะขยายการเลี้ยงในโซนลพบุรี จึงตัดสินใจเลี้ยงหมูขุนมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา” บัณพร เล่า

แม้ว่าช่วงแรกการเลี้ยงหมูของ “บุญเกิดฟาร์ม” จะขลุกขลักไปบ้าง เนื่องจากไม่เคยทำอาชีพนี้มาก่อน แต่ด้วยความมานะพยายาม และได้ทีมงานของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ คอยแนะนำและสู้มาด้วยกันตลอด ทำให้การเลี้ยงหมูพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากวันแรกมีโรงเรือนหลังเดียว เลี้ยงหมู 650 ตัว ทั้งคู่ตัดสินใจขอเพิ่มการเลี้ยงมากขึ้น เพื่อขยายกำลังผลิตมากขึ้น โดยเลือกนำเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุน โดยเฉพาะระบบไบโอแก๊ส เพราะเวลานั้นค่าไฟฟ้าค่อนข้างสูง ไบโอแก๊สนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงได้แล้ว ยังทำให้ฟาร์มอยู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน ภายในระยะเวลา 10 ปี “บุญเกิดฟาร์ม” ขยายการเลี้ยงเพิ่มเป็น 12 โรงเรือน เลี้ยงหมูขุนรวม 10,000 ตัว

“เราคิดตลอดว่าต้องพัฒนาอาชีพเลี้ยงหมูให้ดีขึ้น ที่ผ่านมาทีมงานซีพีเอฟแนะนำสิ่งไหนเราทำหมด เพราะบริษัทคิดค้นมาดีแล้ว เราเปิดรับและลงมือทำอย่างจริงจัง ตอนนี้ฟาร์มทั้งสองโซนที่ลพบุรีและนครสวรรค์ต่างใช้ระบบเดียวกัน ใช้ไบโอแก๊ส ใช้ระบบอัตโนมัติในการควบคุมการปรับอากาศในโรงเรือน ใช้ไซโลอาหารอัตโนมัติ ติดกล้อง CCTV ภายในโรงเรือนและจุดสำคัญรอบฟาร์ม และวางแผนนำระบบสมาร์ทฟาร์มมาใช้อย่างจริงจัง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และสามารถแก้ปัญหาทันท่วงที นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจให้การเลี้ยงหมูของเรามีการพัฒนาต่อเนื่อง จะได้หมูที่มีคุณภาพที่สุดเพื่อผู้บริโภค” ไพรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังต่อยอด “เปลี่ยนขี้หมูเป็นทอง” โดยไพรัตน์ใช้ทักษะด้านงานช่าง คิดค้นสร้างเครื่องอัดเม็ด เพื่อนำกากขี้หมูที่ผ่านการบำบัดในระบบไบโอแก๊สแล้วมาอัดเม็ด กลายเป็น ‘ปุ๋ยขี้หมูอัดเม็ด’ อีกกิจการในครัวเรือนที่สร้างรายได้เสริมอีกประมาณ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน ขณะเดียวกัน น้ำหลังจากการบำบัด หรือที่เรียกว่า “น้ำปุ๋ย” ที่มีแร่ธาตุที่พืชต้องการสูง ยังถูกแบ่งปันให้กับเกษตรกรรอบข้างที่ติดต่อผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอรับน้ำปุ๋ยใช้บำรุงต้นพืช ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และช่วยให้เกษตรกรโดยรอบผ่านพ้นวิกฤติแล้งมาตลอด โดยทางฟาร์มสนับสนุนการต่อท่อ ติดเครื่องปั๊มน้ำ และซื้อน้ำมันเติมเครื่องให้ทั้งหมด

บัณพร บอกอีกว่า ความสำเร็จของบุญเกิดฟาร์มในวันนี้ คือบทพิสูจน์ว่า คอนแทรคฟาร์มเลี้ยงหมูกับซีพีเอฟ เป็นอาชีพที่มั่นคง ตอกย้ำสิ่งที่ซีพีเอฟทำมาตลอด คือ “การส่งเสริมเกษตรยั่งยืน” ให้เกษตรกรมีอาชีพและรายได้ที่ดี ลดความเสี่ยงเรื่องตลาดและราคาผลผลิตที่ผันผวน ด้วยการบริหารจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บนพื้นฐานของมาตรฐานการผลิตเดียวกันกับบริษัท เพื่อยกระดับภาคเกษตรของไทยให้แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี

“คอนแทรคฟาร์มเลี้ยงหมูกับซีพีเอฟ ตอบโจทย์ชีวิตเรามากๆ จากคนที่แทบไม่มีเลย อดๆอยากๆ เคยมีเงินติดตัวทั้งบ้านแค่ 30 บาท ต้องให้ลูกกินก่อน พ่อแม่ยอมอด 20 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันเหนือความคาดหมาย ชีวิตดีขึ้นมาก ลูกๆได้เรียนหนังสือ ทุกคนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ขอบคุณซีพีเอฟ ขอบคุณทีมงานทุกคนตั้งแต่สมัยก่อนที่ให้โอกาส ขอบคุณผู้จัดการและทีมสัตวบาลที่มาคอยดูแลสนับสนุนแนะนำ ถ้าไม่มีเขาและไม่มีโอกาสที่ได้รับ ก็คงไม่มีเราในวันนี้ และขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจคว้าทุกโอกาสไว้อย่างไม่ลังเล และมุ่งมั่นทำมาตลอด ตั้งใจทำให้ดีที่สุด แนะนำอะไรดีๆเราเปิดรับหมด พยายามทำให้ดีที่สุด จนตอนนี้เรามีพื้นฐานที่มั่นคง เป็นรากฐานให้ลูกทั้ง 2 คน ที่ได้มารับช่วงต่อจากพ่อแม่แล้ว” บัณพร กล่าวอย่างภูมิใจ

“บุญเกิดฟาร์ม” คืออีกหนึ่งภาพสะท้อน ความมุ่งมั่นของซีพีเอฟ ในการผลักดันให้โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย หรือคอนแทรคฟาร์ม กลายเป็นอาชีพที่ช่วยสร้างความมั่นคงแก่พี่น้องเกษตรกรไทย โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยยกระดับการเลี้ยง เพื่อจุดหมายปลายทางคือการผลิตหมูคุณภาพเพื่อผู้บริโภคอย่างยั่งยืน