Home Blog Page 12

ห้าดาว คว้ารางวัล ‘Future Trends Corporates Awards’ ขับเคลื่อนแฟรนไชส์อาหารไทย ด้วยแนวคิดความยั่งยืนและนวัตกรรม

0

ห้าดาว (FIVE STAR) คว้ารางวัล Future Trends Corporates Awards สาขา The Most Future Brand จากเวที Future Trends Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งพัฒนาแฟรนไชส์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมนำแนวคิดด้านความยั่งยืนมาปรับใช้ตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด กล่าวว่า รางวัล The Most Future Brand นับเป็นความสำเร็จในการร่วมมือระหว่างลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ประกอบการแฟรนไชส์ทุกท่าน สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของห้าดาว ในการพัฒนาแฟรนไชส์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เรายังให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์อาหารคุณภาพและใส่ใจต่อบรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนาโมเดลแฟรนไชส์ที่ตอบโจทย์แผนธุรกิจยุคใหม่ เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการของแบรนด์ห้าดาวให้แข็งแกร่งและมั่นคง

ห้าดาว เดินหน้าพัฒนาแบรนด์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล โดยเพิ่มศักยภาพของแพลตฟอร์มออนไลน์และขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ลูกค้าและพันธมิตรแฟรนไชส์สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาโมเดลแฟรนไชส์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มธุรกิจยุคใหม่ ปัจจุบันห้าดาวมีจำนวนสาขา 10,000 แห่งทั่วโลก แบ่งเป็นประเทศไทย 5,000 สาขา ต่างประเทศ 5,000 สาขา ครอบคลุม ฟิลิปปินส์, พม่า, อินเดีย, เวียดนาม, กัมพูชา, บังกลาเทศ, ปากีสถาน, มาเลเซีย และลาว ภายใต้แนวคิด ‘Sustainable Franchise Model’ เติบโตอย่างมีจริยธรรมและรับผิดชอบต่อสังคม .

“รอยขัดข้างในพระสมเด็จ”

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

เจอพระอาจารย์บ่อยหน่อยช่วงนี้ อยากแบ่งพระสมเด็จวัดระฆัง มีใบสั่งแต่ยังหวง คุยเรื่องพระสมเด็จ พระอาจารย์บอกเจอพระเห็นรอยขัดลบความคมของขอบพระ เข้ากรอบก่อนปี2500 แท้เลยนะ สมัยก่อนกรอบหายากกว่าพระ แต่มีพระใหม่เห็นรอยขัดข้าง ต้องระวังนะเธอ ดูความเก่าธรรมชาติพระให้เป็น อย่าหยุดเดินหยุดซื้อ ถ้ายังชอบพระอยู่ เดี๋ยวเราตามฝีมือพระเก๊ไม่ทัน พระยังมีหลงให้หยิบ อีกมากมาย เดินเถอะเดี๋ยวก็เจอท่านยิ้มให้อยู่

วันนี้มาดูพระสมเด็จวัดระฆังทรงเจดีย์

องค์นี้กดติดพิมพ์ได้ลึก  เห็นเส้นสังฆาฏิ เส้นขอบจีวร อ่อนช้อยชนรักแร้ขวา (องค์พระ) ผิวแป้งโรยพิมพ์ยังหนา องค์พระที่ถูกสัมผัสเนื้อเหลืองจับเป็นก้อนๆ มวลสารเยอะมากองค์นี้จัดเต็ม ด้านหลังเป็นคลื่นแบบสังฆยา แห้งเหยี่ยวย่น เป็นธรรมชาติ แต่ขอบทั้ง4ด้านถูกขัดไม่ลบมุม ค่อนข้างหนา ดูได้ว่าเจ้าของเดิมขัดเข้ากรอบพระแน่นอน เป็นยุคก่อน2500 เจอแบบนี้อย่าปล่อยให้หลุดมือนะพระอาจารย์บอกไว้ เนื้อจัดพิมพ์ใช่ ข้างถูกขัดได้สมเด็จวัดระฆังแท้ๆใช้คล้องคอ ราคาขายหายไปเยอะเซียนบอกถือเป็นพระชำหรุด แต่ราคาใช้สบายใจ สบายกาย องค์เดียวใช้คุ้มครองไปทั้งชีวิต

เชื่อพระอาจารย์นะมีพระสมเด็จวัดระฆังชีวิตไม่ตกต่ำนะเธอ

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

กอช. จับมือ AIS เซ็น MOU ร่วมสร้างสังคมการออมยุคดิจิทัล ออมง่ายๆ ผ่านแอปฯ myAIS

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การให้บริการหน่วยรับสมัครสมาชิก และช่องทางการชำระเงิน สำหรับความร่วมมือนี้เป็นการนำศักยภาพโครงข่ายดิจิทัลอัจฉริยะสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน ผ่านแอปพลิเคชัน myAIS เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการจากเครือข่ายเอไอเอสที่ประกอบอาชีพอิสระ สามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินได้อย่างทั่วถึงและสะดวกยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณให้กับคนไทย ในงานได้รับเกียรติจาก นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี

โดย นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทย เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ คนไทยส่วนใหญ่ยังขาดเงินออม สำหรับชีวิตในวัยเกษียณ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต โดย กอช. เป็นหน่วยงานหนึ่งในการสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ เป็นการออมภาคสมัครใจ กำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 15 – 60 ปี มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพื่อให้ได้มีเงินบำนาญไว้ใช้ในยามเกษียณ เพียงแค่สมัครเป็นสมาชิกและเริ่มออมเงิน ขั้นต่ำ 50 – 30,000 บาทต่อปี โดยรัฐจะช่วยสมทบเงินเพิ่มให้สูงถึง 50 – 100% หรือไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี (ตามช่วงอายุ) เช่น หากท่านเริ่มออมเงินเมื่ออายุ 30 ปี โดยส่งเงินออมเพียงเดือนละ 2,500 บาทอย่างต่อเนื่อง เมื่อท่านอายุครบ 60 ปี จะมีเงินสะสมในบัญชีกว่า 1.4 ล้านบาท ที่สำคัญจะได้รับบำนาญเดือนละ ไม่ต่ำกว่า 6,000 บาทตลอดชีพ ทั้งนี้ เงินออมยังนำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้สูงสุด 30,000 บาท และยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร ณ วันที่สมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ กอช. เป็นเพื่อนคู่คิดเรื่องออม ให้ความมั่นคงในวัยเกษียณ

“ขอเชิญชวนทุกท่านตรวจสอบสิทธิ เพื่อสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพียงใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ได้หลายช่องทางออนไลน์ อาทิ ไลน์ @nsf.th., แอปพลิเคชัน กอช. และเพื่อเป็นการตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัล กอช. จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เข้ามาสนับสนุนการออมของคนไทยให้เป็นเรื่องง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ผ่านแอปพลิเคชัน myAIS อย่าปล่อยให้อนาคตของท่านไร้หลักประกัน เริ่มออมกับ กอช. ฝากเมื่อพร้อม ออมก่อนใช้ ออมน้อยแต่เริ่มไวจะมีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

ด้าน นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจค้าปลีก AIS กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายอัจฉริยะที่มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยในทุกมิติ เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม ประกอบกับพฤติกรรมการใช้งานบนช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแอปพลิเคชัน myAIS ที่สามารถรองรับการทำธุรกรรมด้านต่างๆ ในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล อาทิ การจ่ายบิล เช็กยอด เติมเงิน ชำระค่าสาธารณูปโภค รวมถึงการซื้อประกัน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ กอช. ด้วยการสนับสนุนช่องทางรับสมัครสมาชิก เช็กยอด และให้บริการออมเงิน ผ่านแอปฯ myAIS อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา และปลอดภัย

โดยเอไอเอสหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือนี้จะสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างสะดวกสบายผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า รวมไปถึงเกษตรกร ให้มีสุขภาพทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ และจะเดินหน้าทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ ประชาชนผู้ใช้เครือข่ายเอไอเอสสามารถเข้าแอปพลิเคชัน myAIS เพื่อออมเงินกับ กอช. ได้แล้ววันนี้ และจะสามารถเปิดบัญชีพร้อมใช้งานบริการ “สมัคร – เช็กยอด – ออมเงิน” กับ กอช. ผ่านในแอปฯ myAIS ได้ง่ายๆ ภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ เพียงดาวน์โหลดแอปฯ myAIS เข้าไปที่เมนู กอช. และเลือกช่องทางการออมเงิน เพื่อเริ่มต้นออมเงินกับ กอช. ขั้นต่ำเพียง 50 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบยอดเงินออมสะสมในบัญชีได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย โดยสมาชิก กอช. จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงถึง 50 – 100% ของเงินออม และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กอช. 02-0499000 ได้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.

“ปิดตาหลวงปู่นาควัดห้วยจระเข้ ”

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

เจอเสี่ยตี๋เกลอเก่า เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข สมัยหนุ่มๆที่ตลาดพงษ์เพชรหลักสี่ แกขายก๋วยเตี๊ยวเนื้อ เราขายผักช่วยแม่ ส่งให้เสี่ยตี๋ ซื้อพระแบบ”ไม่รู้ๆ”เจอเซียนใหญ่หรอกไปหลายองค์ หมดตังค์ไปเยอะ เจอกันใหม่สูงวัยทั้งคู่อยู่ๆเป็นเซียน ปิดตาหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงไปซะแล้ว แต่เซียนเจี๊ยบอยากหาความรู้ปิดตาหลวงปู่นาควัดห้วยจระเข้ เพราะเดินซื้อมาหลายร้อยองค์ เก๊หมด เราว่าเก่าแท้แน่เอาไปให้พระอาจารย์ดูบอกไม่ดีซักองค์ จนเหนื่อย ครั้นจะซื้อก็ไม่มีเงินองค์เป็นล้านๆ โชคดีเจอเสี่ยตี๋ บอกต้องมีตะไบข้างนะ เพราะพระมีตะเข็บช้าง  มีรอยแต่งตะไบออก แล้วหยิบให้ดูองค์ครูของเซียนตี๋ เราจำขึ้นใจ เห็นในรูปสู้สัมผัสองค์เป็นๆไม่ได้ บอกได้ว่าเก่าเป็นธรรมชาติ เงามันดำทึมๆหน้าหลัง จารย์ลายมือลึกชัดมากแต่ความคมไม่มีเมื่อเราสัมผัส กลมเนียนนุ่มมือมาก  สีดำคล้ำ ออกไปทางเทา หน่วงมือ ผิวไม่เรียบ มีหลุมบ่อตื้นๆ บนเนื้อพระ คราบขี้เบ้าดำเทาติดเนื้อแน่น ตามซอกแขนทั้งหน้าหลัง เซียนตี๋ย้ำ”หาลอยตะไบเก่าให้เจอ ถ้าคมใหม่เก๊ ถ้าแท้แทบไม่เห็นลอยตะไบเลย พระอายุเป็นร้อยปี “มีนิดหน่อยแท้เลย”เซียนตี๋ย้ำ
มาดูพระปิดตาหลวงปู่นาควัดห้วยจระเข้ พิมพ์พุงป่อง วันนี้ แจ่มสวยเก่า มีขี้เบ้า ข้างมีตะไบนิดหน่อย ยันต์ลึก ผิวไม่เรียบ เก่าเหยี่ยวย่นตามซอกแขน  เซียนเจี๊ยบซื้อมาเยอะหลายร้อยองค์ ไม่เหมือนองค์นี้ แท้เลยไม่พูดเยอะจบนะครับท่าน

ใครอยากได้ปิดตาหลวงปู่นาควัดห้วยจระเข้ แบบแท้ๆ เซียนเจี๊ยบว่า ไปเช่าพระปิดตารุ่นใหม่ๆที่วัดเลยดีกว่า เซียนเจี๊ยบเจ็บมาเยอะแล้ว ทั้งเดินซื้อ ซื้อในเวปหมดไปเยอะ พระอื่นมีหลงแต่ปิดตาวัดห้วยจระเข้ หาไม่เจอ

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

รู้เก็บรู้ออม : เทคนิคจัดสรรเงินแบบเริ่มต้นใหม่

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ปัญหาใหญ่ที่หลายคนต้องเจอเวลาอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิต คือ การเริ่มต้น ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเมื่อไหร่และอย่างไร คนที่วางเป้าหมายเรื่องวางแผนการเงิน ก็ย่อมจะประสบปัญหานี้เหมือนกัน

“คุณนายพารวย” อ่านเจอบทความในเว็บ SET investnow ที่พูดถึงการเริ่มต้นวางแผนการเงิน โดยใช้เทคนิคการจัดสรรเงินแบบ Zero-Based Budgeting หรือ “การทำงบประมาณแบบเริ่มจากศูนย์” ซึ่งเป็นวิธีจัดสรรเงินที่มีประสิทธิภาพสูง

เทคนิคนี้ใช้แนวคิดการวางแผนการเงินโดยเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ทุกเดือน และพิจารณาทุกรายการใช้จ่ายใหม่ตั้งแต่ต้น โดยจัดสรรรายได้ทั้งหมดให้กับค่าใช้จ่ายต่างๆจนเหลือศูนย์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน เพราะให้ความสำคัญเรื่องการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการเงินแบบชัดเจน สมาคมวางแผนการเงินได้ศึกษา พบว่า การเริ่มจัดสรรงบทันทีที่ได้รับเงินเดือนจะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการบริหารการเงินสูงถึง 80%

ขั้นตอนของการทำงบ Zero-Based ที่เราสามารถลงมือทำได้ทันที เริ่มต้นด้วย 1.การรวบรวมรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน รายได้จากงานพิเศษ โบนัส หรือผลตอบแทนจากการลงทุนต่างๆ เพื่อทำให้เรารู้ตัวเลขรายได้ที่แท้จริง จะได้นำไปใช้วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ

2.การจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย ให้จัดสรรเงินตามหลัก 50/30/20 โดย 50% สำหรับความจำเป็นพื้นฐาน เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ, 30% สำหรับความต้องการ เช่น ท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง และที่เหลือ 20% สำหรับการออมและการลงทุน เช่น เงินออมฉุกเฉิน ชำระหนี้ การลงทุนเพื่อวัยเกษียณ

วิธี Zero-Based ไม่ใช่วางแผนทีเดียวจบแล้วจบเลย แต่ต้องมีการติดตามและปรับแผนอย่างสม่ำเสมอ ต้องทบทวนค่าใช้จ่ายทุกสัปดาห์ว่ามีรายการไหนที่เกินหรือต่ำกว่าแผน เพื่อนำไปปรับแผนใหม่ในเดือนถัดไป รวมทั้งการวิเคราะห์ภาพรวมเป็นรายเดือนและไตรมาส เพื่อปรับกลยุทธ์การเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง นอกจากนี้ ยังต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เช่น แอปฯบริหารจัดการเงิน เพื่อช่วยให้งบ Zero-Based ของเราบรรลุเป้าหมาย

เรายังสามารถนำวิธี Zero-Based มาปรับให้เข้ากับคนไทย เพราะการทำงบใหม่จากศูนย์และพิจารณาทุกรายการใช้จ่ายใหม่ ทำให้เราสามารถวางแผนรับมือค่าใช้จ่ายพิเศษในเทศกาลสำคัญต่างๆ ตลอดจนสามารถจัดสรรงบสำหรับการดูแลพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว

ใครที่ตั้งเป้าหมายอยากมีอิสรภาพทางการเงิน ลองนำเทคนิคการจัดสรรเงินแบบเริ่มต้นใหม่มาใช้บริหารจัดการเงินแบบมีประสิทธิภาพ และช่วยวางรากฐานการเงินที่แข็งแกร่งในอนาคต.


คุณนายพารวย

เมืองไทยประกันชีวิต จัดสัมมนา MUANGTHAI WEALTH MASTER 2025  เปิดมุมมอง “โอกาสและความเสี่ยง ในยุคของการเปลี่ยนแปลง”

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวอุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ  จัดงานสัมมนา MUANGTHAI WEALTH MASTER 2025 หัวข้อ “โอกาสและความเสี่ยง ในยุคของการเปลี่ยนแปลง”  ในรูปแบบออนไลน์ Live Streaming ผ่านทาง Facebook : Muang Thai Life  เพื่ออัปเดต   ภาวะเศรษฐกิจ มุมมองการลงทุนทั่วโลก พร้อมชี้โอกาสและความเสี่ยงการลงทุนในปี 2025 โดยได้รับเกียรติจาก นายวิน พรหมแพทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด และนายชนกานต์ ตั่งธนาพร  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดมุมมองและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุน โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังผ่านระบบออนไลน์อย่างคับคั่ง. 

AIS ผนึกภาคีเครือข่าย จัดระเบียบสายสื่อสารย่านถนนวิทยุ

0

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล พร้อมสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ทุกภาคส่วน อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง, กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่เพื่อดำเนินงานรื้อสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดินบริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่งของถนน ด้วยเล็งเห็นถึงความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุประชาชนเป็นสำคัญและเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างทัศนยภาพที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นโดยรอบ 

CPF – มูลนิธิซีพี เดินหน้าส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน สร้างความมั่นคงทางอาหารให้รร.ในพื้นที่ห่างไกล

0

เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน แก่โรงเรียนบ้านห้วยไม้หก และโรงเรียนบ้านยางครก เพื่อสร้างเสริมภาวะโภชนาการและสุขภาพของเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร หนุนนักเรียนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพติดตัว พร้อมสร้างคลังอาหารยั่งยืนในโรงเรียนและชุมชน โดยมี นายปรีชาพล พูลทวี นายอำเภออมก๋อย เป็นประธานในพิธี ณ โรงเรียนบ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

นายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิซีพี และซีพีเอฟ มุ่งขยายโอกาสให้โรงเรียนทั่วประเทศเข้าถึงแหล่งอาหารโปรตีนที่เพียงพอ เพื่อให้นักเรียนมีโภชนาการที่เหมาะสม อันเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างแข็งแรงและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดหาอาหารกลางวันจากไข่ไก่ที่สดใหม่ มีคุณภาพ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย โดยโครงการฯ ไม่เพียงมุ่งเน้นการจัดหาอาหารกลางวัน ยังเป็นสื่อการเรียนรู้พัฒนาทักษะอาชีพด้านเกษตร ผ่านการเลี้ยงไก่ไข่ การบริหารจัดการฟาร์มขนาดเล็ก และการนำผลผลิตไข่ไก่มาจำหน่ายให้แก่ชุมชนในราคาที่เหมาะสม ไปจนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไก่ไข่เพื่อใช้บริโภคภายในโรงเรียนเพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนกลับคืนสู่โรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน (Social Enterprise)

ทางด้าน นายสมคิด วรรณลุกขี ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ นี้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 37 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร มาถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้แก่นักเรียนและคณะครู เพื่อให้สามารถบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยสนับสนุนงบประมาณและบุคลากรอย่างเต็มที่ในการติดตาม ดูแล และให้คำแนะนำด้านวิชาการ ทั้งการเลี้ยงไก่ไข่ตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงจนถึงปลดแม่ไก่ การจัดการผลผลิต การขายและการตลาดเพื่อให้โรงเรียนสามารถบริหารงานให้มีเงินทุนส่งให้รุ่นต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ดำเนินการก้าวเข้าสู่ปีที่ 37 และยังคงมุ่งผนึกกำลังร่วมกับภาครัฐและเอกชน ขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งโภชนาการโปรตีนคุณภาพกับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือฯ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เจียไต๋ ซีพีเอฟ ซีพี ออลล์ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ทั้ง Makro และ Lotus’s และ ทรู เพื่อส่งต่อคุณค่า สร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 988 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนกว่า 223,000 คน และบุคลากรทางการศึกษากว่า 16,500 คน ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ

ภายในงานมีหน่วยงานร่วมกิจกรรม อาทิ นายประจักษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 5, นายกฤษฎากานต์ จี๋มะลิ ผู้อำนวยการ รร.บ้านห้วยไม้หก, นางสาวปราณี ก๋ายอด ผู้อำนวยการ รร.บ้านยางครก ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานราชการ คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน โดยมีกิจกรรม “CP KIDS CHEF” แข่งขันทำอาหารจากวัตถุดิบไข่ไก่ โดยมี 4 โรงเรียนในพื้นที่ เข้าร่วมแข่งขัน ได้แก่ รร.บ้านห้วยไม้หก รร.บ้านยางครก รร.บ้านห้วยน้ำขาว และ รร.บ้านมูเซอ ทำให้นักเรียนได้คิดสร้างสรรค์เมนูไข่ที่หลากหลาย ช่วยต่อยอดทักษะทางด้านอาชีพแก่นักเรียน.

จ.ชลบุรีปล่อยปลานักล่าพื้นถิ่น เสริมแกร่งปราการป้องกันปลาหมอคางดำ รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

0

สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี ชูจุดแข็งระบบนิเวศตามแนวชายฝั่งของจังหวัดมีความหลากหลายทางชีวภาพ ในแม่น้ำบางปะกงมีปลานักล่าพื้นถิ่นอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งปลาอีกง และปลากะพง ถือเป็นปราการหลักสำคัญทางธรรมชาติที่ช่วยให้จังหวัดชลบุรีพบปลาหมอคางดำในปริมาณน้อยและควบคุมได้ พร้อมเดินหน้าร่วมกับเกษตรกรและชาวประมงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และปล่อยปลาพันธุ์ปลากะพงลงในคลองอ้อมใหญ่เสริมความแข็งแกร่งแนวกันชนคุมปลาหมอคางดำ และรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ

จังหวัดชลบุรี นำโดย นายณัฐพงค์ วรรณพัฒน์ ประมงจังหวัดชลบุรี ประมงอำเภอพานทอง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน รวมทั้งครูและนักเรียนจากโรงเรียนวัดบางหัก และตัวแทนซีพีเอฟ ร่วมกันปล่อยลูกพันธุ์ปลากะพงขาวจำนวน 2,000 ตัวลงในคลองอ้อมใหญ่ ( ณ วัดชลธีบุญญาวาส (บางหัก) ต.บางหัก อ.พานทอง เพื่อเพิ่มประชากรปลานักล่าพื้นถิ่น เป็นแนวกันชนป้องกันปลาหมอคางดำในพื้นที่เสี่ยง และเป็นการช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำของจังหวัดชลบุรีให้คงอยู่ต่อไป

นายณัฐพงค์ กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีพบปลาหมอคางดำอยู่ในเฉพาะอำเภอเมือง แต่พบปลาในปริมาณน้อยและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อย่างไรก็ตาม จังหวัดไม่นิ่งนอนใจยังดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน สำหรับคลองอ้อมใหญ่เป็นคลองเชื่อมกับแม่น้ำบางปะกงติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา และเกษตรกรสูบน้ำจากคลองอ้อมใหญ่ลงนาข้าว เลี้ยงปูทะเล และปลากะพง การเพิ่มจำนวนปลานักล่าในแหล่งน้ำช่วยเสริมสร้างปราการป้องกันปลาหมอคางดำที่อาจจะหลุดเข้าสู่พื้นที่และบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในอำเภอพานทองและอำเภอพนัสนิคมอีกด้วย

จังหวัดชลบุรี ยังดำเนินมาตรการควบคุมประชากรปลาหมอคางดำหลักๆ เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรและชาวประมงช่วยกันติดตามและเฝ้าระวัง ตามแนวทาง “เจอ แจ้ง จับ” ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่พร้อมให้ความร่วมมือแจ้งประมงจังหวัดในทันทีที่พบเห็นปลา และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทรัพยากรทางน้ำและสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์น้ำในถิ่นที่อาศัยของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

เมืองไทยประกันชีวิต มอบผ้าห่มอัพไซคลิงแก่รร.ไทยรัฐวิทยา79 (บ้านหนองอาบช้าง) และรร.บ้านน้ำตกแม่กลาง จ. เชียงใหม่

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวนิรัตน์ บูชาสุข รองกรรมการผู้จัดการ จัดกิจกรรม “โครงการอบอุ่นกับเมืองไทยประกันชีวิต” เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่นักเรียน และอาจารย์ ในโรงเรียน พื้นที่เขตดอยอินทนนท์  โดยได้มอบผ้าห่มอัพไซคลิง (Upcycling) ให้แก่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 79 (บ้านหนองอาบช้าง)  และโรงเรียนบ้านน้ำตกแม่กลาง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่   พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬา  เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพให้แก่นักเรียน  โดยมีนายปณตพงศ์ กุลชนเสถียร ผู้อำนวยการ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 79 (บ้านหนองอาบช้าง) นายประวิทย์  ก้อนสุรินทร์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านน้ำตกแม่กลาง และนายดนัยณัฐ  ธิเขียว ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ เป็นตัวแทนรับมอบ  กิจกรรมจัดขึ้น ณ  โรงเรียนไทยรัฐวิทยา79 (บ้านหนองอาบช้าง)

ทั้งนี้การจัดทำผ้าห่มอัพไซคลิง เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขและรอยยิ้ม ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกก้าว  โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม     และมิติบรรษัทภิบาล (ESG)  รวมถึงเป็นการขานรับนโยบายภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยผ้าห่ม 1 ผืน  ผลิตจากขวดพลาสติกที่ใช้แล้วขนาด 1.5 ลิตร  จำนวน  11 ขวด   ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับการนำวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมามีคุณค่า ในการใช้งานอีกครั้งอย่างมีคุณภาพมากขึ้น และยังสามารถส่งต่อความอบอุ่นให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี