Home Blog Page 117

เมืองไทยประกันชีวิต – ช้อปปี้ ส่งมอบ “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวได้อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” เพิ่มความอุ่นใจช่วงเทศกาลปีใหม่

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และนางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ร่วมมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวได้อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มที่ให้ความคุ้มครองเพื่อความอุ่นใจ ครอบคลุมทั้งด้านชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ  นับเป็นการส่งมอบความสุขและความห่วงใยให้กับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต และ ช้อปปี้ เพียงเข้าไปซื้อความคุ้มครองที่ร้าน “Muang Thai Life Official” บน  Shopee Mall หรือ คลิกที่ www.shopee.co.th/muangthailife

นายสาระ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัว สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบการประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น  พร้อมเพิ่มความอุ่นใจในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2567 โดยความคุ้มครองที่ลูกค้าจะได้รับประกอบด้วย

– ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท 

– ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

– ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสาธารณะ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท 

– ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างพยาบาลพิเศษ อุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ (ยกเว้นไม้ค้ำยัน) รถเข็นผู้ป่วย อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย ค่ารักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine) การฝังเข็ม จำนวนเงินเอาประกันภัย 5,000 บาท

โดย “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวได้อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน   นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาเอาประกันภัย ซึ่งผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น และมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย  ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 – วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567

ด้านนางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ” ช้อปปี้ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมอบประสบการณ์บนโลกออนไลน์ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายให้กับคนไทยร่วมกับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตในฐานะพันธมิตรที่แน่นแฟ้น ด้วยการส่งเสริมกรมธรรม์ผ่านแพลตฟอร์มช้อปปี้กับ “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวได้อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” เพิ่มความอุ่นใจตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ ถูกชัวร์ พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ แบบมีครบ ซื้อได้ที่ช้อปปี้ เพื่อให้ทุกท่านอุ่นใจ และได้รับความสะดวกสบายใจ ซื้อง่าย สบายใจตลอดเทศกาลท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองส่งท้ายปี โดย ช้อปปี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถส่งความสุขในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้กับคนไทยทุกท่าน ได้เดินทางอย่างสนุกสนานและปลอดภัย”

เมืองไทยประกันชีวิต จัดรายการวิ่ง “เมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน 2023 ครั้งที่ 18” ส่งเสริมการสร้างสังคมสุขภาพดี

0
เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมส่งเสริมการสร้างสังคมสุขภาพดีและแข็งแรง สนับสนุนการจัดการแข่งขัน “เมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน 2023 ครั้งที่ 18” พร้อมส่ง “MTL Fit” แอปพลิเคชันด้านสุขภาพเพื่อสร้างสังคมแห่งการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร โดยงานจัดขึ้น ณ ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ประกาศความเป็นผู้นำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพคนไทยมาตลอด

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของการรับมือกับปัญหาสุขภาพ ที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวันของทุกคน และมองว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อสุขภาพที่ดีและความแข็งแรงของร่างกาย ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้สนับสนุนการแข่งขันการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนประเพณีนานาชาติเพื่อการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ “เมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน 2023” ครั้งที่ 18 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย และนำมาซึ่งการมีสุขภาพดีให้กับทุกคน และยังเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมากว่า 17 ปี รายการวิ่งมาราธอนประเพณีนานาชาติ “เมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน” เป็นรายการวิ่งมาราธอนที่ดึงดูดนักวิ่งที่เป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันมากมายเป็นระดับต้นๆของประเทศ ทั้งจำนวนนักวิ่งนานาชาติ และจำนวนประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน

ทั้งนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการแข่งขันวิ่ง และร่วมปล่อยตัวนักวิ่งในงานดังกล่าวอีกด้วย โดยจังหวัดเชียงใหม่ นับว่าเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของนักท่องที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ตลอดจนวิถีชุมชนที่เป็นธรรมชาติ

สำหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,246 คน ซึ่งแบ่งประเภทเป็น ระยะมาราธอน 42 กิโลเมตร จำนวน 1,131 คน, ระยะ 21 กิโลเมตร จำนวน 1,241 คน,
ระยะ 10 กิโลเมตร จำนวน 1,325 คน และกลุ่มเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ (Smile Run) 3 กิโลเมตร จำนวน 549 คน โดยมีต่างชาติเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ จำนวน 52 ประเทศ รวม 1,577 คน โดยภายในงานผู้สมัครวิ่งยังอุ่นใจด้วยประกันอุบัติเหตุ ที่ให้ความคุ้มครองโดยเมืองไทยประกันชีวิต (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด)

นอกจากนี้ ภายในงาน เมืองไทยประกันชีวิต ได้ร่วมออกบูธกิจกรรม “MTL Fit” แอปพลิเคชันด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสุขภาพตัวเองได้ดีและทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่อง ‘ง่าย’ และ ‘สนุก’ มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้ามาสร้างสังคมแห่งการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร (Wellness Society) และยั่งยืนแก่ลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตและบุคคลทั่วไปได้เป็นอย่างดี โดยในกิจกรรม เมืองไทยเชียงใหม่มาราธอนยังสามารถชวนผู้สนใจร่วมดาวน์โหลดเพิ่มกว่า 500 คน ซึ่ง MTL Fit มีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจและรักการออกกำลังกาย โดยสมาชิกสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ ได้ตลอด และพิเศษสุดๆในช่วงนี้มีกิจกรรมให้ทุกคนได้ร่วมกันสะสมก้าวเดิน โดยเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดซื้อรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ มูลค่า 8 ล้านบาท มอบให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพียงร่วมสะสมก้าวเดินผ่านแอปพลิเคชัน MTL Fit 200 ก้าวเดิน มีค่าเท่ากับ 1 บาท (สูงสุด 7,500,000 บาท) ระยะเวลากิจกรรม ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 หรือจนกว่าจะครบสิทธิ์ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด)

“กิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกายที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการตลอดมานั้น จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมของคนสุขภาพแข็งแรงและผู้คนที่มีความสุข ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย อีกทั้งส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านการรักษาสุขภาพมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค เราหวังว่าจะทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยสุขภาพที่แข็งแรงเพิ่มขื้น” นายสาระกล่าวสรุป

AIS ยืนยันความพร้อมโครงข่ายมือถือและบรอดแบนด์ ดูแลการใช้งานตลอด 24 ชม. ร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2024

0
AIS ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาแห่งความสุขกับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ให้ลูกค้าสามารถใช้งานดิจิทัลบนโครงข่ายอัจฉริยะในทุกการสื่อสาร โพสต์ โหลด แชร์ ชม และส่งต่อความสุขฉลองปีใหม่รับปี 2024 ได้อย่างราบรื่นอุ่นใจ โดยยืนยันความพร้อมของระบบโครงข่ายสัญญาณทั้งเครือข่ายมือถือและบรอดแบนด์ ให้รองรับปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในช่วงปีใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมนำเทคโนโลยี AI และ Autonomous Network Monitoring มาช่วยเสริมการทำงานของทีมวิศวกรเพื่อ Proactive การใช้งานเน็ตบ้าน พร้อมตรวจจับปริมาณการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ แบบ Realtime ทั้งพื้นที่จัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่พื้นที่ระบบขนส่งมวลชนทั่วประเทศ รวมถึงยังเตรียมยกขบวนสิทธิพิเศษเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2024 แบบจัดเต็ม

เทศกาลปีใหม่เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขในการพักผ่อนท่องเที่ยว หรือแม้แต่การเดินทางกลับบ้านและภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัดของลูกค้าและคนไทย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และความตั้งใจของ AIS ในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานดิจิทัลที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าและคนไทย จึงได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มกำลังของบุคลากร ทั้ง ทีมวิศวกร ทีมช่างของ AIS Fibre และ 3BB รวมถึงเปิดศูนย์ปฏิบัติการ (War Room) เพื่อเฝ้าระวัง อำนวยความสะดวกลูกค้าในการเสริมประสิทธิภาพโครงข่ายสื่อสารในทุกพื้นที่ทั่วประเทศทั้ง AIS 5G / 4G / AIS Super WiFi และ AIS Broadband ทั้ง AIS Fibre และ 3BB

โดยสำหรับบริการ Broadband นั้น ได้มีการใช้ AI มาช่วยบริหารจัดการเครือข่ายในกรณีหากพบว่า อาจจะเกิดปัญหา ทีมช่างก็จะพร้อมติดต่อลูกค้าเพื่อแก้ปัญหาหรือ ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้อย่างทันท่วงที สำหรับส่วนของ Mobile นั้น ได้เพิ่มขีดความสามารถและความครอบคลุมการให้บริการจากสถานีฐานเดิม การติดตั้งสถานีฐานชั่วคราว (Mini Tower) การระดมรถสถานีฐานเคลื่อนที่ (Mobile Base Station Car) และรถโมบายล์ชุมสาย COW (Cell-On-Wheel) ในพื้นที่สำคัญ อาทิ พื้นที่จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองการจัดงานเคาท์ดาวน์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงจุดบริการขนส่งสาธารณะ หรือแม้แต่เส้นทางการเดินทางของลูกค้าตามถนนสายหลักของประเทศที่มีความหนาแน่น ประกอบกับนำเทคโนโลยี AI และ Autonomous Network Monitoring ที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ ปริมาณการใช้งานได้แบบ Realtime ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถเพิ่ม Capacity และแก้ไขปัญหาได้ในทันที

นอกจากนี้ AIS ยังจัดเตรียมความสุขและความอุ่นใจให้กับลูกค้า ด้วยของขวัญและสิทธิพิเศษที่ยกขบวนมาร่วมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับใหม่กันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น

  • อุ่นใจให้เน็ต ฟรี! มอบให้ลูกค้า AIS Mobile รับชม AIS Play ตลอด 24 ชม. สามารถกดรับสิทธิ์ผ่านทางแอป myAIS ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567
  • อุ่นใจให้จอย ฟรี! มอบให้ลูกค้า AIS Mobile และ AIS Fibre สนุกกับคอนเทนต์ความบันเทิงระดับโลก รับชม HBO 5 ช่อง แบบฉ่ำๆ ไม่ว่าจะเป็น HBO, HBO Signature, HBO Hits, HBO Family และ Cinemax บนแอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX เริ่ม 25 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567
  • อุ่นใจให้มู ฟรี! มอบให้ลูกค้า AIS Mobile กับวอลล์เปเปอร์เสริมพลังมั่งคั่ง ร่ำรวย รับปีมังกร โดยกูรูชื่อดังด้านศาสตร์แห่งตัวเลข คุณแมน การิน โดยสามารถสแกน QR Code จากสื่อที่ AIS Shop, Telewiz และทุกช่องทางจำหน่ายของ AIS ตั้งแต่ 25 ธันวาคม 2566 – 31 มกราคม 2567
  • อุ่นใจให้ส่วนลด มอบให้ลูกค้า AIS Mobile (เติมเงิน) สายเกมเล่นเกมกันแบบจุใจข้ามปี รับส่วนลด 11% เมื่อใช้โค้ด “NYGAMEON24” และเติมเกมขั้นต่ำ 300 บาทขึ้นไป บน Gameon แพลตฟอร์มที่รวมรวมทุกไลฟ์สไตล์ของการเล่นเกมทั้งการเติมเงิน ชำระเงิน และโปรโมชันมากมาย ตั้งแต่ 25 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567
  • อุ่นใจให้แลกประกัน มอบให้ลูกค้า AIS Mobile และ ลูกค้า AIS Fibre ใช้เอไอเอสพอยท์เพียง 10 คะแนน แลกประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวได้อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) ปี 2567 คุ้มครองนาน 30 วันคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท จากเมืองไทยประกันชีวิต กดรับสิทธิ์ง่ายๆ เพียงกด 5503374# ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 – 15 กุมภาพันธ์ 2567
  • อุ่นใจให้แลกรับส่วนลดซื้อมือถือ มอบให้ลูกค้า AIS Mobile และ ลูกค้า AIS Fibre เพียงใช้เอไอเอสพอยท์ 10 คะแนน แลกรับสิทธิ์ซื้อมือถือเครื่องเปล่าในราคาลดพิเศษแบบไม่ต้องสมัครใช้แพ็กเกจและไม่ต้องติดสัญญา รับสิทธิ์ผ่านแอป myAIS และสามารถซื้อได้ที่ AIS Shop และ Telewiz Shop ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 15 มกราคม 2567
  • อุ่นใจแลกสติกเกอร์ไลน์สุดน่ารัก ให้ลูกค้า AIS Fibre ใช้เอไอเอสพอยท์ 1 คะแนน และลูกค้า 3BB ใช้เพียง 3 คะแนน แลก คอลเลคชันอุ่นใจไฟเบอร์ X ส้มจี๊ด ที่แอป myAIS และ 3BB ตั้งแต่วันที่่ 22 ธันวาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567

AIS ขอส่งความปรารถนาดีไปยังลูกค้าและคนไทย ให้เดินทางท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า และร่วมกันนับถอยหลังเข้าสู่ปีมังกร 2024 อย่างมีความสุขและอุ่นใจในทุกการใช้งาน ด้วยเครือข่ายสัญญาณและงานบริการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด เพื่อให้คนไทยสามารถใช้งานเครือข่ายสัญญาณทุกรูปแบบอย่างไม่ติดขัด ราบรื่น ทั้งเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้าน

เมืองไทยประกันชีวิต แคมเปญ “ZYndromes”คว้ารางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาดแห่งปี “MAT AWARD 2023”

0

เมืองไทยประกันชีวิต ปลื้มรับรางวัลสุดยอดผู้นำการตลาดแห่งปี  “MAT AWARD 2023” ในหมวดแคมเปญการตลาดที่มีความเป็นเลิศด้านกลยุทธ์ ระดับ  Bronze ตอกย้ำความแรงของแคมเปญ “ZYndromes”  ตอบโจทย์ความคุ้มครองสุขภาพสำหรับคนเจนใหม่อย่างเข้าใจและเข้าถึงได้  

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า “บริษัทฯ รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล “MARKETING AWARD OF THAILAND 2023  จากงานประกวดแคมเปญการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในหมวดการแข่งขัน Strategic Marketing แคมเปญการตลาดที่มีความเป็นเลิศด้านกลยุทธ์  ที่สะท้อนแนวคิดทางการตลาดเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย และมีการนำกลยุทธ์มาแปรเป็นแผนปฏิบัติการที่สอดคล้อง ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางธุรกิจท่ามกลางการแข่งขัน และสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับแบรนด์ จากแคมเปญ  ZYndromes(แซด วาย ซินโดรม) ความคุ้มครองสุขภาพสำหรับคนเจนใหม่โดยดึงแนวร่วม บิวกิ้นพุฒิพงศ์  อัสสรัตนกุล  และพีพี  กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ตัวแทนคนเจนใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ เพราะอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยอาจกลายเป็นโรคร้ายแรงได้ จึงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาสุขภาพไว้  พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มคนเจนใหม่เข้าถึงและเข้าใจการบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ถูกต้อง   

โดย “บิวกิ้น-พีพี” ถือเป็นตัวแทนของคนเจนใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน ซึ่งรวมไปถึงการเลือกความคุ้มครองสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกความคุ้มครองสุขภาพจาก “เมืองไทยประกันชีวิต” ในการสร้างความอุ่นใจและปิดความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ ทำให้สามารถทำงานและดูแลสุขภาพไปพร้อมกันได้อย่างเต็มที่ 

สำหรับความคุ้มครองสุขภาพที่เหมาะสำหรับคนเจนใหม่ อาทิ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) คุ้มครองเหมาจ่ายค่ารักษาสูงสุดถึง 5 ล้านบาท* ครอบคลุมตั้งแต่โรคเล็ก โรคร้ายแรง โรคทั่วไป อุบัติเหตุ  เบี้ยไม่แพง แอดมิตก็เหมาจ่ายในวงเงินเดียว นอนห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาลทั่วไทย ดูแลยาวถึงอายุ 99 ปี ปรับเปลี่ยนแผนได้ ถ้ามีสวัสดิการเลือกแผนมีความรับผิดส่วนแรก เบี้ยถูกลงอีก และเมื่อถึงวัยเกษียณ ยังเลือกปรับเปลี่ยนแผนได้ เพื่อให้ตรงความต้องการ และสอดรับกับสวัสดิการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้สิทธิ์เลือกปรับลดความรับผิดส่วนแรก (Convertible Option) ตอนเกษียณ  โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่ และหากกังวลกับค่ารักษากรณีเป็นโรคร้ายแรง ยังสามารถพลัสความคุ้มครอง แคร์ พลัส (Care Plus) หรือจะซื้อเพิ่มความคุ้มครองเสริมพิเศษ อาทิ ค่าตรวจสุขภาพ ทำฟัน และดูแลสายตา เป็นต้น

รางวัล MAT AWARD ดังกล่าวเป็นการมอบรางวัลแคมเปญด้านการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ  ซึ่งจัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสนับสนุนและ      ยกย่องผลงานซึ่งเป็นฝีมือของนักการตลาดในประเทศไทยที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครในด้านความคิดสร้างสรรค์ มีการนำนวัตกรรมการตลาดหรือแนวคิดด้านการตลาดต่างๆ มาเป็นเครื่องมือในการตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับองค์กรได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม สามารถวัดได้เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จ พร้อมสร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างยั่งยืน ผู้ชนะรางวัลนี้จึงนับเป็นเกียรติภูมิขององค์กรและของประเทศ อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างและกรณีศึกษาในการยกระดับการตลาดของประเทศไทยอีกด้วย

ทั้งนี้บริษัทฯ สามารถผ่านเกณฑ์การตัดสินและวัดผลจากการให้คะแนนตามดัชนีสำคัญ กล่าวคือ 

1. Customer Insight  ผลงานมีความเข้าใจลูกค้าเชิงลึกในหลากหลายมิติ  บริษัทฯ ได้ทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียดเพื่อเข้าใจความต้องการและความชอบของกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อความคุ้มครองสุขภาพ   วิเคราะห์รูปแบบการดำเนินชีวิต ความสามารถทางการเงิน และทัศนคติต่อการดูแลสุขภาพของกลุ่มเป้าหมายใช้การสำรวจและกลุ่มประชากรเพื่อเข้าใจความคาดหวังและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความคุ้มครองสุขภาพ

2. Objective & Strategy  ผลงานมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอนชัดเจน (Powerful Goal) และมีการวางกลยุทธ์การตลาดที่ตอบรับกับโจทย์ที่วางไว้ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่โดดเด่นทางธุรกิจ (Winning Strategy) พร้อมมีส่วนผสมทางการตลาดที่ตอบโจทย์อย่างลงตัว  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เน้นสร้างกลยุทธ์ด้านแคมเปญการศึกษา พัฒนาเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เน้นที่ความสำคัญของความคุ้มครองสุขภาพสำหรับคนรุ่นใหม่  เน้นที่ประโยชน์ระยะยาวและความมั่งคั่งทางการเงินที่ได้รับ   การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีเสถียรภาพผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายใช้การโฆษณาดิจิทัลที่เป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย พร้อมนำเสนอแผนความคุ้มครองสุขภาพที่ยืดหยุ่นและสามารถเลือกความคุ้มครอง เองได้ตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ให้ส่วนลดและสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่รักษาสุขภาพได้

3. Concept & Originality ผลงานมีแนวความคิดทางการตลาดที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และมีการนำเสนออย่างลงตัว ทั้งคุณค่าของผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ผ่านเครื่องมือทางการตลาด โดยบริษัทฯ ได้นำเสนอแคมเปญที่น่าสนใจและมีนวัตกรรมทางการตลาดนำเสนอแนวคิดใหม่ที่ไม่ได้เห็นในวงการ โดยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแนวคิดการตลาดที่สร้างสรรค์ ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องเพื่อสร้างเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับความสำคัญของสุขภาพให้เข้ากับกลุ่มคนเจนใหม่

4. Implementation & Execution   ผลงานแคมเปญสามารถนำกลยุทธ์ทางการตลาดที่กำหนดไว้มาส่งเสริมคุณค่าของผลิตภัณฑ์ทางด้านการตลาดและการขายได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างแรงจูงใจ และ มีความน่าสนใจได้  ซึ่งบริษัทฯ ได้กำหนดตารางการทำงานและกำหนดเวลาสำหรับแต่ละขั้นตอนของแคมเปญ เพื่อให้มีการดำเนินงานที่เป็นระเบียบและไม่คาดเคลื่อน   ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเพื่อการตลาด นำเสนอกิจกรรมทางการตลาดแบบหลายช่องทาง การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ส่งเสริมการขายอย่างเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย   

5. Effectiveness & Business Results  ผลงานต้องมีการวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม มีผลลัพธ์ชัดเจน ตรงตามวัตถุประสงค์ของแผนงานที่วางไว้  โดยบริษัทฯ กำหนดให้มีการวัดปริมาณลูกค้าที่ลงทะเบียนซื้อความคุ้มครองสุขภาพในระยะเวลาที่กำหนด เพิ่มวัดยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ วัดผลด้านการรับรู้ของแคมเปญในกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย  สื่อมวลชน

6. Purpose, Integrity & Positive Effect   ผลงานต้องสะท้อนการตลาดที่ส่งผลเชิงบวก บริษัทฯ นำเสนอผลงานที่ตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เข้ากันไปกับค่านิยมของกลุ่ม  อีกทั้งการสร้างความโปร่งใสในการตลาดโดยการสื่อสารเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง  ตลอดจนการสร้างผลเชิงบวกให้กับกลุ่มเจนใหม่ที่มีความเข้าใจในความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพอย่างถูกต้อง  โดยเห็นประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างแท้จริง

“อีกหนึ่งของความภูมิใจของบริษัทฯ กับรางวัล MAT AWARD อันทรงเกียรตินี้  ทำให้พิสูจน์ได้ว่าบริษัทฯ มีแนวทางนโยบายการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งจะเป็นกำลังใจในการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ให้สามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย และตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละช่วงชีวิตได้ เพื่อให้เป็นความคุ้มครองและเป็นหลักประกันในอนาคต”  นายสาระ กล่าวสรุป

CPF คว้าสุดยอดรางวัล Investors in People Awards 2023 องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นเลิศ

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งสู่การเป็นต้นแบบองค์กรแห่งการเรียนรู้มีความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากร ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนธุรกิจที่คำนึงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน คว้ารางวัลระดับนานาชาติ The Investors in People Awards 2023 ในสาขา The Award for Learning and Development ประเภทองค์กรขนาดใหญ่ จากสถาบัน Investors in People ประเทศอังกฤษ

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาบุคลากร รางวัลนี้จึงสะท้อนถึงความเป็นต้นแบบองค์กรขนาดใหญ่ที่มีแนวปฏิบัติที่ดีในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับขีดความสามารถบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการองค์ความรู้ในองค์กร ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน และสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารโลกตามวิสัยทัศน์ “ครัวของโลกที่ยั่งยืน”

ซีพีเอฟ มีกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศ ส่งเสริมนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กร และสร้างองค์กรให้มีรากฐานมั่นคงโดยสนับสนุน “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” ให้กับพนักงานในองค์กรทั่วโลก และ มุ่งฝึกอบรมบุคลากรจำนวน 3 ล้านชั่วโมงภายในปี 2030 โดยมีหลายโครงการที่พัฒนาและจัดการการเรียนรู้รูปแบบใหม่ ขับเคลื่อนหน่วยธุรกิจให้มีการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่าน “Technical Academy in Action Program” ซึ่ง ทุกหน่วยธุรกิจจัดตั้งศูนย์การพัฒนาพนักงานตามกลุ่มวิชาชีพของหน่วยงาน (Technical Academy) เพื่อพัฒนา องค์ความรู้เฉพาะในแต่ละหน่วยงานให้เป็นระบบได้มาตรฐาน พัฒนาขีดความสามารถและทักษะใหม่ๆ ของพนักงานให้ตอบโจทย์ธุรกิจในปัจจุบันและอนาคตเพื่อพร้อมต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการจัดการ องค์ความรู้ (Knowledge Management) รูปแบบใหม่ โดยส่งเสริมให้พนักงานสามารถเรียนรู้ตามความต้องการ สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งผลักดันให้หน่วยธุรกิจมีการสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านกระบวนการจัดการองค์ความรู้ ส่งผลให้พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติงานได้ตาม กลยุทธ์และเป้าหมายของธุรกิจ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดเวลา ผ่านระบบ “อิ่มรู้” สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเรียนรู้ของพนักงานที่สามารถค้นหาและนำเนื้อหาไปใช้อย่างรวดเร็ว พร้อมต่อยอดนำ องค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกร คู่ค้าธุรกิจ และผู้มีส่วนได้เสีย

ที่ผ่านมาซีพีเอฟ ได้จัดงาน “CPF KM Excellence Awards 2023” โดยมีโครงการจากหน่วยงานบริการวิชาการสุกร ได้รับรางวัลสูงสุด จากความสำเร็จที่ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแนวปฏิบัติการป้องกันโรคในฟาร์มสุกรให้แก่หน่วยงานรวมถึงเกษตรกรผ่านการใช้แอปพลิเคชัน สามารถยกระดับการป้องกันโรค และช่วยป้องกันความเสียหายให้กับฟาร์มของบริษัทและคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งต่อความสำเร็จไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ

“การพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรและองค์กร ขณะเดียวกันยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในการบ่มเพาะบุคลากรที่มีคุณภาพ “คนดี คนเก่ง” ให้กับอุตสาหกรรมอาหาร สอดคล้องกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือซีพี ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนและองค์กร” นางสาวพิมลรัตน์กล่าว

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส เปิดตัวบริการ “รับชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต” ที่ 7-Eleven เจ้าแรกของวงการประกันชีวิต

0
เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าพัฒนาด้านบริการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส สร้างประสบการณ์ใหม่เป็นแห่งแรกของวงการประกันชีวิต เปิดตัวบริการ “รับชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต” ที่ 7-Eleven เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าที่ชำระเบี้ยประกันภัยปีต่อ พร้อมมอบความพิเศษ...ฟรีค่าธรรมเนียมการชำระเงิน!

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำนโยบายที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ ด้วยนวัตกรรม อีกทั้งเน้นการสร้างความแตกต่าง และสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเข้าถึง เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรม และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์

ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการที่ 7-Eleven ทุกสาขา เปิดตัวบริการ “รับชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต” ที่ 7-Eleven  เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ ในการชำระเบี้ยประกันภัยปีต่อได้สะดวกสบายและง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านช่องทางดังกล่าวได้ (สำหรับแบบประกันภัยที่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตได้เท่านั้น)

นอกจากนี้ ลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิต ที่ทำการชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต ที่ 7-Eleven  ยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการ เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตทุกธนาคารประเภท บัตรที่รับชำระเฉพาะ Visa และ Master Card  วงเงินที่รับชำระไม่เกิน 49,000 บาท/ครั้ง

ด้านนายวีรเดช อัครผลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด  กล่าวว่า             เราคำนึงถึงลูกค้าเป็นอันดับแรกเสมอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด จึงร่วมเปิดบริการรับชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต กับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สำหรับผู้ถือบัตร Visa และ Master Card เราพร้อมส่งเสริม Cashless Society รองรับสังคมที่ผู้คนชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์     กันมากขึ้น มั่นใจได้ด้วยเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลบัตรชำระเงิน PCI DSS ด้วย Version 4.0 Level 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด รับชำระได้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องถือเงินสด ลดความเสี่ยงต่อการโจรกรรม ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven กว่า 14,500 สาขา ทั่วประเทศ ทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ซีพีเอฟ กวาด 3 รางวัล Thailand Energy Award 2023 หนุนใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่ผลิตอาหาร

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ความก้าวหน้ากระบวนการผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่ผลิตอาหาร การันตีรับ 3 รางวัล Thailand Energy Award 2023 รางวัลดีเด่น ด้านพลังงานทดแทน ของกระทรวงพลังงาน จาก “โครงการก๊าซชีวภาพจากมูลไก่สู่พลังงานทดแทน” ของฟาร์มคอมเพล็กซ์ไก่ไข่จะนะ จ.สงขลา และฟาร์มคอมเพล็กซ์ไก่ไข่วังทอง จ.พิษณุโลก และ “โครงการพลังงานสะอาดจากระบบบำบัดน้ำเสีย” ของโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จ.นครราชสีมา ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลิตอาหารคุณภาพ มีคุณค่าโภชนาการ ช่วยลดการสูญเสียจากกระบวนการผลิตและนำกลับมาใช้ประโยชน์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Thailand Energy Award 2023 สุดยอดพลังงานไทยระดับสากล ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพ

นายสมคิด วรรณลุกขี ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีทันสมัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมในการผลิตอาหารปลอดภัย มีการบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ร่วมดูแลชุมชนรอบข้าง บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฟาร์มคอมเพล็กซ์ไก่ไข่จะนะ และฟาร์มคอมเพล็กซ์ไก่ไข่วังทอง เป็นต้นแบบฟาร์มไก่ไข่ที่ดำเนินโครงการก๊าซชีวภาพจากมูลไก่สู่พลังงานทดแทน โดยนำมูลไก่มาหมักในระบบได้ก๊าซเพื่อมาใช้ปั่นกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในฟาร์ม สามารถทดแทนไฟฟ้าจากสายส่ง ขณะเดียวกัน ช่วยป้องกันกลิ่นและไม่ปล่อยน้ำเสียออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ นอกจากนี้ ฟาร์มยังนำกากของเหลือที่เกิดจากการหมักใช้เป็นปุ๋ยปรับปรุงคุณภาพดินให้ดีขึ้น และแบ่งปันให้กับเกษตรกรที่อยู่รอบๆ ฟาร์มอีกด้วย

“การที่ฟาร์มคอมเพล็กซ์ไก่ไข่ทั้งสองแห่งที่ได้รับรางวัลดังกล่าว เป็นการยืนยันถึงกระบวนการผลิตไข่ไก่มีการบริหารจัดการด้านพลังงานและมูลสัตว์จากฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ลดการพึ่งพาพลังงานจากภายนอก และ ซีพีเอฟกำลังพัฒนาฟาร์มไก่ไข่เป็น ฟาร์มที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (RE100 Layer Farm) นับเป็นการส่งเสริมผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมลดโลกร้อน” นายสมคิดกล่าว

ปัจจุบัน ฟาร์มคอมเพล็กซ์ไก่ไข่จะนะ และวังทอง มีการติดตั้งระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลไก่และน้ำเสียแบบบ่อหมักไร้อากาศ (Anaerobic Covered Lagoon) เปลี่ยนมูลไก่เป็นพลังงานไฟฟ้าใช้ในการดำเนินงานภายในฟาร์มได้ประมาณร้อยละ 70-80 ของการใช้พลังงานในฟาร์มทั้งหมด ช่วยลดค่าใช้จ่ายการซื้อไฟฟ้าจากภายนอกได้ โดยผลดำเนินงานโครงการก๊าซชีวภาพของฟาร์ม 2 แห่งสามารถผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้ารวมปีละกว่า 10 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4,725 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

ด้านนายปิโยรส ธรรมจารึก ผู้อำนวยการ ธุรกิจไก่เนื้อ 1 ซีพีเอฟ กล่าวว่า โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จ.นครราชสีมา ให้ความสำคัญการพัฒนากระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพลังงาน และส่งเสริมการนำของเสียมาใช้ประโยชน์ (Waste to Value) ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับ “โครงการพลังงานสะอาดจากระบบบำบัดน้ำเสีย” โรงงานนำน้ำเสียจากกระบวนการแปรรูปเนื้อไก่ซึ่งประกอบด้วยไขมันจากสัตว์ จึงได้นำระบบไบโอแก๊สขั้นสูง (Continuous Stirred Tank Reactor: CSTR) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียที่สามารถจัดการไขมันที่มีอยู่ในน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเปลี่ยนน้ำเสียเป็นก๊าซชีวภาพและนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในหม้อต้มไอน้ำสามารถทดแทนน้ำมันเตาได้ 610,170 ลิตรต่อปี ช่วยลดค่าใช้จ่ายพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 2,482 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

นอกจากนี้ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ นครราชสีมา มีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนอาคารโรงงาน (โซลาร์รูฟท็อป) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ลดการใช้ไฟฟ้าจากสายส่ง และในปี 2567 เตรียมติดตั้ง “โซลาร์ลอยน้ำ” (Floating Solar Farm) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของซีพีเอฟเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนในห่วงโซ่การผลิตอาหาร เพื่อโลกที่น่าอยู่ในระยะยาว

GULF จับมือ AIS ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ พร้อมเชื่อมต่อเสาสัญญาณให้ชุมชนห่างไกล ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

0
GULF และ AIS ประสานความร่วมมือ ผนึกกำลังมอบโอกาสการเข้าถึงพลังงาน และเทคโนโลยีดิจิทัล มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสทางการศึกษา เพิ่มการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข  ตลอดจนการเติบโตของเศรษฐกิจชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยในพื้นที่ห่างไกล  ผ่านโครงการ Gulf x AIS Solar Synergy: A Spark of Green Energy Network เดินหน้าติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ให้แสงสว่างแก่ชุมชนพร้อมติดตั้งระบบสื่อสารจากสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้แก่ชุมชนห่างไกล นำร่องที่บ้านดอกไม้สด ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ 

นายธนญ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจระบบโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  ร่วมกันกล่าวว่า “เป้าหมายสูงสุดในการทำงานของ GULF และ AIS คือ ใช้ขีดความสามารถทางธุรกิจของแต่ละบริษัท ในการยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทย ให้เท่าเทียม และทั่วถึง พร้อมสนับสนุนภารกิจของภาครัฐในการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการประสานความร่วมมือกัน โดยใช้องค์ความรู้และประสบการณ์จาก GULF ที่เชี่ยวชาญการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนจากเทคโนโลยีทันสมัย และ AIS ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสื่อสารและดิจิทัล ส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและสื่อสาร อย่างระบบไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้แก่คนไทยในพื้นที่ซึ่งยากแก่การที่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานจะเข้าถึง”  

GULF จะส่งมอบระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ ให้แก่ชุมชนแต่ละแห่งตามสภาพปัญหาของชุมชนนั้นๆ  เช่น ปัญหาด้านสาธารณสุข รวมทั้งการป้องกันและรักษาโรคในเบื้องต้น ระบบไฟฟ้าเพื่อการเรียนการสอน ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบกรองน้ำดื่ม ระบบสูบน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค เป็นต้น รวมไปถึงการให้ความรู้พื้นฐานเรื่องพลังงานสะอาด การบำรุงรักษาแผงโซลาร์เซลล์ และการดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ส่วน AIS จะนำระบบสื่อสารโทรคมนาคมด้วยพลังงานโซลาร์เซลล์ เพื่อให้ชุมชนนั้น ๆ ได้ใช้ประโยชน์ด้านการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆบนโลกออนไลน์  พร้อมเติมเต็มโอกาสในการเข้าถึงระบบการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแบบ “แพทย์ทางไกล” ผ่านเทคโนโลยี Telemedicine รวมทั้งใช้เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชนผ่านเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งจะช่วยสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้ โดยได้เริ่มโครงการนำร่องแห่งแรกที่บ้านดอกไม้สด ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่บนภูเขา ขาดแคลนไฟฟ้า มีประชากรประมาณ 700 คน รวม 160 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรทำไร่ข้าวโพด

แม้บ้านดอกไม้สดจะอยู่ห่างจากตัวอำเภอท่าสองยางเพียง 40 กิโลเมตร แต่ด้วยสภาพเส้นทางดินลูกรังและเส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยว ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก ใช้เวลาเดินทางเข้าสู่พื้นที่กว่า 3 ชั่วโมง ยิ่งในช่วงฤดูฝน เส้นทางสัญจรแทบจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ประชาชนในพื้นที่จึงไม่สามารถเข้าถึงระบบสาธารณูปโภค และระบบการสื่อสารต่างๆ ยังรวมถึงการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที เราจึงเลือกที่นี่เป็นพื้นที่นำร่อง ก่อนที่จะขยายผลไปในพื้นที่อื่นๆ ทุกภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

“เพราะเราทั้งสององค์กรต่างตระหนักดีว่า ระบบไฟฟ้า และ ระบบสื่อสาร คือ สาธารณูปโภคที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง ดังนั้นประชาชนในทุกพื้นที่ ควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงถือเป็นแรงบันดาลใจที่ส่งต่อมาสู่พนักงานทุกคนที่ต่างสนับสนุนภารกิจนี้อย่างเต็มที่ ภายใต้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในแต่ละส่วนงาน  โดยโครงการนี้ยังถือว่าสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาด้านความยั่งยืน ที่เกิดจากการบริหารจัดการพลังงานหมุนเวียนและการพัฒนาโครงข่ายพร้อมบริการดิจิทัล ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์ ครอบคลุมทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Economy) สังคม (Social) และการยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม (Environment)  นั่นเอง” นายธนญ และ นางสายชล ร่วมกันย้ำในตอนท้าย

ซีพีเอฟ สร้างเครือข่ายเยาวชนร่วมดูแลลำน้ำมูลยั่งยืน “โครงการนักสืบสายน้ำ” ปีที่ 12

0

“แม่น้ำมูล” เป็นลำน้ำที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชาวอีสานตอนล่าง หล่อเลี้ยงทุกชีวิตตลอดลำน้ำให้ได้ใช้ประโยชน์ทั้งบริโภค-อุปโภคมาหลายชั่วอายุคน จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาลำน้ำแห่งนี้ให้คงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังของเยาวชนมีความสำคัญในการขับเคลื่อนในการอนุรักษ์ดูแลให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคงอยู่ต่อไป

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เดินหน้า “โครงการนักสืบสายน้ำ” ให้ความรู้และเปิดโอกาสแก่เยาวชนจากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้เรียนรู้เทคนิคการดูแลรักษาลำน้ำ และร่วมกันเฝ้าระวังรักษาลำน้ำมูล ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของชุมชน เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนในการช่วยกันเฝ้าระวังลำน้ำมูลให้คงความสะอาด ล่าสุดจัดโครงการครั้งที่ 12 ด้วยการเชิญชวนน้องๆ นักเรียน 140 คน จากโรงเรียนชลประทานบ้านกอโจด ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ร่วมดูแลรักษาลำน้ำมูล โดยมีพี่ๆจิตอาสาชาวซีพีเอฟ ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมลงพื้นที่ปฏิบัติจริงภาคสนาม ผ่านกิจกรรมส่องหาสัตว์น้ำ กรองน้ำสะอาดง่ายๆด้วยวัสดุธรรมชาติ และตรวจลักษณะทางกายภาพของน้ำ โดยหวังให้เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมโครงการจะถ่ายทอดความรู้ให้กับเพื่อนๆ เป็นแนวร่วมในการป้องกันรักษาลำน้ำ ก่อเกิดความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำประโยชน์ให้กับชุมชนของตนเอง

“นักสืบสายน้ำ” เป็นโครงการที่ซีพีเอฟดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยเน้นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการ ร่วมกันรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จ “โครงการรักษ์ลำน้ำมูล ปีที่ 15” ที่เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของซีพีเอฟ ในด้าน “ดินน้ำป่าคงอยู่” ที่มุ่งอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติรอบสถานประกอบการ ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนและคนไทยได้มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ตลอดไป

เอไอเอส หนุนรัฐบาล มอบของขวัญปีใหม่คนไทย รับปี 2567

0

เอไอเอส เดินหน้ามอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทย รับปี 2567 หนุนนโยบายรัฐบาล ส่งมอบความพิเศษ แทนความสุขรับปีมะโรง จัดเต็มส่วนลดมือถือ แก็ดเจ็ทล้ำๆ พร้อมซิมเบอร์สวย ราคาพิเศษ ที่มากับโปรโดนใจ ให้ร่ำรวย โชคดีรับปีใหม่

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบของขวัญและการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ผ่านโครงการ 4 Days 4 Gifts For You ที่รัฐบาลตั้งใจมอบให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะถึงนี้ โดยในส่วนของเอไอเอสนั้น ในฐานะผู้ให้บริการระบบสื่อสาร นอกเหนือจากการดูแลคุณภาพเครือข่ายให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในจุดท่องเที่ยว หรือ จุดจัดเทศกาลปีใหม่แล้ว ยังพร้อมมอบสุดยอดความพิเศษให้แก่ลูกค้าเอไอเอสและคนไทย ให้ได้รับสิทธิ์ซื้อโทรศัพท์มือถือและแก็ดเจ็ทเป็นของขวัญของฝากแทนใจ หรือเปลี่ยนมือถือรับปีใหม่ให้สดใสกว่าเดิม ประกอบด้วย

  1. แคมเปญ AIS Amazing 10 point จัดมือถือราคาพิเศษหลากหลายรุ่น (ที่ร่วมรายการ) ให้ เพียงใช้ AIS Points เพียง 10 คะแนนเท่านั้น แลกรับสิทธิ์ซื้อมือถือเครื่องเปล่าในราคาลดพิเศษแบบไม่ต้องสมัครใช้แพ็กเกจและไม่ต้องติดสัญญา โดยรับสิทธิ์ได้ง่ายๆ ผ่านแอป myAIS และสามารถซื้อได้ที่ AIS Shop และ Telewiz Shop ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2566 – 15 ม.ค. 2567
  2. แคมเปญ AIS HOT DEAL โปรโมชั่นสุดว้าว เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ที่จัดให้สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่, ย้ายค่ายเบอร์เดิม, เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน และลูกค้าปัจจุบัน โดยเลือกซื้อได้ที่ AIS Shop, Telewiz Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2566 – 2 ม.ค. 2567
  3. จับมือ ซัมซุง ให้เลือกซื้อแก็ดเจ็ทราคาพิเศษ Galaxy Watch และ Galaxy Buds (เฉพาะรุ่นที่กำหนด) ที่ AIS Shop และ Telewiz Shop ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 ม.ค. 2567

นอกจากนี้ในงาน New Year Mega Sale 2024 โดยกระทรวงพาณิชย์ นั้น เอไอเอส ยังได้ร่วมออกบูธ เพื่อส่งมอบแพ็กเกจสุดพิเศษเป็นของขวัญให้ลูกค้าวัยทีน เพียงเปิด AIS ZEED 5G SIM วันนี้ รับทันที อินเทอร์เน็ต 5G จำนวน 2GB พร้อมใช้งาน AIS SUPER WiFi ฟรีตลอดเดือน และพิเศษยิ่งกว่า สำหรับวัยทีนที่เติมเงินสะสมเพิ่ม 150 บาท รับเพิ่มทันที อินเทอร์เน็ต 12 GB ตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค. 2567