“ประเทศไทย” ทิ้งขยะลงทะเลเป็นอันดับต้นๆของโลก แม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แต่ปัญหาขยะทะเลเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยที่ทุกภาคส่วนต้องมีความตระหนักและลงมือทำ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ และดูแลความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง
ภายใต้ความมุ่งมั่นปกป้องทะเลโลก ( Restore the Ocean) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ในฐานะบริษัทผลิตอาหารระดับโลก ที่ส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 4 พันล้านคน ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ดูแลและใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทางแหล่งวัตถุดิบในการผลิตอาหารอย่างรู้คุณค่า
ซีพีเอฟ นำร่อง“โครงการกับดักขยะทะเล” (Trap the sea Trash) โดยร่วมมือกับ ชุมชนต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 และเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรกสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน ลดการทิ้งขยะ เก็บ ดักขยะ ในคลองสาธารณะ ของตำบลบางหญ้าแพรก ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำบริเวณปากอ่าวและทะเลอ่าวไทยตอนบน เพื่อช่วยลดปริมาณขยะที่ไหลลงสู่ทะเล ควบคู่ไปกับส่งเสริมการบริหารจัดการขยะทะเล ตามแนวทาง 3R คือ ลดการใช้ (Reduce) นำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) สนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ให้ชุมชนมีรายได้ จากการนำขยะไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นและถูกวิธี
สมบูรณ์ สินทะเกิด หรือ ป้าติ๋ม อายุ 65 ปี ประธานคณะทำงานโครงการกับดักขยะทะเล ชุมชนบางหญ้าแพรก กล่าวว่า ปัจจุบันคณะทำงานโครงการกับดักขยะทะเลมีสมาชิก 17 คน เป็นคนในพื้นที่หมู่ 4 หมู่ 5 และ หมู่ 6 ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเดิมชุมชน และจิตอาสาช่วยกันดูแลเรื่องขยะกันอยู่แล้ว เพราะมีปริมาณขยะในคลองค่อนข้างเยอะ เราอยากสร้างความตระหนักให้ทุกครัวเรือนในชุมชนร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขยะที่ไหลออกสู่ทะเล ทำให้ระบบนิเวศทะเลเสื่อมโทรมลง ถ้าปล่อยให้อยู่ในสภาพแบบนี้ไปเรื่อยๆ รุ่นลูกหลานของเราก็จะลำบาก คณะทำงานฯ ของเราจึงพยายามสร้างความเข้าใจกับคนในชุมชนจัดการขยะให้ เป็นที่เป็นทาง
โดยมีซีพีเอฟให้การสนับสนุนอุปกรณ์การเก็บขยะ ที่ดักขยะ การแยกขยะ เป็นขยะที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อไได้ เช่น ขวดพลาสติก ฝาพลาสติก ซึ่งสามารถสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนได้ หรือเป็นรายได้เสริมให้กับผู้ที่ว่างงาน ผู้สูงอายุ เป็นต้น มีการติดตามว่าชุมชนได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ส่วนขยะที่ไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้ เช่น ที่นอน ถุงพลาสติก ก็จะส่งต่อให้เทศบาลฯนำไปกำจัด
“หลังจากที่เราร่วมกันทำกิจกรรมเก็บขยะมาหลายครั้ง เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ คนที่เคยทิ้งขยะลงคลองมีจำนวนน้อยลง ปริมาณขยะในคลองก็น้อยลง น้ำในคลองสะอาดขึ้น มีปลาตัวเล็ก ตัวน้อยที่เข้ามามากขึ้น เราคาดหวังว่าโครงการกับดักขยะทะเล จะสามารถต่อยอดต่อไปได้ ส่งเสริมคนในชุมชนเห็นคุณค่าและเห็นประโยชน์ของการเก็บขยะ การแยกขยะ” ประธานคณะทำงานโครงการกับดักขยะทะเล ชุมชนบางหญ้าแพรก กล่าว
ด้านนางประทุม ชาวสมุทร อาชีพรับจ้าง เป็นหนึ่งในสมาชิกของ โครงการกับดักขยะทะเล ชุมชนบางหญ้าแพรก เล่าว่า ขอขอบคุณซีพีเอฟที่เข้ามาสนับสนุนการทำกิจกรรมของชุมชนในพื้นที่ จากที่เข้ามาร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าชายเลนในพื้นที่ต.บางหญ้าแพรก ส่งเสริมการเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนบางหญ้าแพรก เพื่อให้ชุมชนมีรายได้และพึ่งพาตนเองได้ และเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมโครงการกับดักขยะทะเล บริเวณคลองฮะบ๊วย ท่าเทียบเรือบางหญ้าแพรก และคลองนาเกลือมณีรัตน์ ทำให้สภาพน้ำในคลองสะอาดขึ้น ปริมาณขยะน้อยลง คนในชุมชนที่เคยทิ้งขยะลงคลอง เห็นเพื่อนๆ ออกมาช่วยกันเก็บขยะในคลอง เดือนละ2-3 ครั้ง ก็มีความตระหนักมากขึ้น ช่วยกันดูแลปัญหาขยะในคลอง ไม่ทิ้งขยะลงคลอง คณะทำงานฯ คิดกันว่าจะเชื่อมโยงเรื่องการบริหารจัดการขยะไปสู่สถานศึกษาในพื้นที่ต่อไป เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกจากรุ่นสู่รุ่น
“โครงการกับดักขยะทะเล” ขับเคลื่อนภายใต้ยุทธศาสตร์ป่าชายเลนของซีพีเอฟ ซึ่งที่ผ่านมา ซีพีเอฟจับมือชุมชนชาวบางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร และชุมชนชาวปากน้ำประแส จ.ระยอง โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565 มีปริมาณขยะที่เก็บได้ในพื้นที่บางหญ้าแพรก 2,850 กิโลกรัม ทั้งขยะพลาสติกและขวดแก้ว ที่สามารถนำไปขายให้กับคนรับซื้อขยะ และนำเงินมาใช้สนับสนุนการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในชุมชน ส่วนขยะทั่วไป ทางเทศบาลนำไปกำจัดตามแนวทางที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมเก็บขยะบริเวณพื้นที่ปาชายเลน ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งดำเนินการปีละ 2 ครั้ง โดยบริษัทฯ สร้างเครือข่ายร่วมทำกิจกรรม อาทิ กลุ่มวิสาหกิจท่องเที่ยววิถีชุมชนปากน้ำประแส กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลปากน้ำประแส อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม. ) โรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม เป็นต้น โดยกิจกรรมครั้งล่าสุด ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาสามารถเก็บขยะได้ 1,537 กิโลกรัม
ทั้งนี้ กิจกรรมเก็บขยะในโครงการกับดักขยะทะเล เป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน” ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557- 2561 เป็นระยะที่หนึ่งสามารถอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนไปรวม 2,388 ไร่ พื้นที่ยุทธศาสตร์ จ.ระยอง สมุทรสาคร ชุมพร พังงา และสงขลา และปัจจุบันอยู่ในระยะที่สองของโครงการ (ปี 2562 – 2566 ) มีเป้าหมายอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าเพิ่มเติม ในพื้นที่ป่าชายเลน จ.ระยอง จ.สมุทรสาคร และจ.ตราด มากกว่า 10,000 ไร่ ซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำชนิดต่างๆ เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน และยังพบปริมาณ กุ้ง หอย ปู ปลา เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวบ้านที่มีอาชีพประมงมีรายได้มากขึ้นด้วย โดยปัจจุบัน ซีพีเอฟ ได้สนับสนุนสู่การเป็นเส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชน ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร และ เส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชน ต. ปากน้ำประแส จ.ระยอง เพื่อให้ชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมปกป้องและดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า และท้องทะเล ซึ่งสอดรับกับแนวทางที่สหประชาติกำหนดแนวคิดสำหรับ”วันทะเลโลก” ปีนี้ 8 มิถุนายน 2022 การฟื้นฟู : ลงมือทำร่วมกันเพื่อท้องทะเล อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลเพื่อคนรุ่นต่อๆ ไป