พิษโควิด-19 ทำท่องเที่ยวระส่ำ นักเที่ยวแห่ยกเลิก เลื่อน ขอเงินคืน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ในพื้นที่หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ส่งผลกระทบหลักในด้านการท่องเที่ยว อาทิ บริษัททัวร์ สายการบิน ผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม

ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์โดยตรง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการขอเลื่อนการเดินทางและการขอเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนจากบริษัททัวร์ เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะออกเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศจอร์เจีย และอีกหลายประเทศ แต่บริษัททัวร์ปฏิเสธไม่คืนเงินค่าบริการ หรือคืนค่าบริการให้บางส่วน รวมถึงกรณีบริษัททัวร์ไม่ยอมเลื่อนการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว โดยอ้างว่าบริษัททัวร์มีค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมบริการนำเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน ซึ่งแต่ละสายการบินก็มีเงื่อนไขที่ไม่อาจคืนเงินให้ได้ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่พอใจ และเกิดความเสียหายแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวม

นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เป็นสภาวะวิกฤตที่ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้ กรมการท่องเที่ยว หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีส่วนในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศ มีความเห็นใจอย่างยิ่งกับทุกฝ่าย ทั้งนักท่องเที่ยวที่จ่ายค่าบริการนำเที่ยวไปแล้ว และบริษัททัวร์ที่มีค่าใช้จ่ายไปเพื่อเตรียมการจัดนำเที่ยว หรือค่าใช้จ่ายล่วงหน้ากับบริษัทสายการบินซึ่งการประชุมหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้เสนอปัญหาที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกัน รวมถึงร่วมกันหาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ รัดกุม ซึ่งที่ประชุมได้สรุปมาตรการแก้ไขปัญหา 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน และระยะปานกลาง

ระยะเร่งด่วน   บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะมีมาตรการผ่อนผัน กรณีมีการขอเลื่อนกำหนดการบิน สามารถเลื่อนได้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากนักท่องเที่ยวหรือบริษัททัวร์มีความจำเป็นต้องเลื่อนต่อไปอีก จะเลื่อนได้ไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคม 2563 และจะต้องพิจารณาว่า เป็นการเลื่อนในเส้นทางเดียวกันหรือไม่ หากเปลี่ยนเส้นทางอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่ม

ด้าน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้แบ่งกลุ่มบัตรโดยสารเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มบัตรโดยสารแบบซีรีย์ ซึ่งบริษัททัวร์ได้วางมัดจำบัตรโดยสารเครื่องบินตลอดทั้งปี (แบบระยะยาว) ในเส้นทางญี่ปุ่น ทางสายการบินนกแอร์จะยกเลิกค่าธรรมเนียมให้ แต่ยังคงเก็บค่าส่วนต่างที่เกิดขึ้น และกลุ่มบัตรโดยสารแบบกลุ่ม สามารถนำไปใช้ในภายหลังได้ (ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี) เพื่อให้บริษัททัวร์ มีระยะเวลาและความคล่องตัวในการจัดการธุรกิจ รวมถึงนักท่องเที่ยวจะได้มีทางเลือกในการเดินทางและได้รับเงินคืนจากบริษัททัวร์มากที่สุด

กรมท่าอากาศยาน จะเสนอปรับลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยานแก่สายการบินในช่วงภาวะวิกฤตนี้ รวมถึงจะเสนอให้ปรับลดค่าเช่าของผู้ประกอบการรถเช่าที่ใช้พื้นที่ของสนามบิน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

กรมการท่องเที่ยวจะตั้งศูนย์ประสานการแก้ไขปัญหาร่วมกับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว กรณีนักท่องเที่ยวเรียกร้องขอเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนจากบริษัททัวร์ ซึ่งจะกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 รวมทั้งดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างนักท่องเที่ยว บริษัททัวร์ และสายการบิน ให้สามารถตกลงเจรจาหาข้อยุติในส่วนค่าเสียหายกันได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมทุกฝ่าย

 

ระยะปานกลาง – กรมการท่องเที่ยวจะทบทวนกฎระเบียบและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มเติมรายละเอียดการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยให้คุ้มครองการยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวเนื่องจากกรณีภาวะวิกฤตต่าง ๆ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองและลดความเสียหายต่อทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) ดีขึ้น กรมการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมหารือแนวทาง เพื่อเยียวยาและแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มผู้ประกอบการต่อไป

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์ขอยกเลิกการเดินทาง ให้แจ้งขอรับเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2553 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรณีขอยกเลิกการเดินทาง 30 วันขึ้นไป ก่อนวันเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถขอรับเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนได้เต็มจำนวนที่จ่ายไป กรณีขอยกเลิกการเดินทาง 15 – 29 วัน ก่อนวันเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถขอรับเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนได้ 50% ของค่าบริการนำเที่ยวที่จ่ายไป และกรณีขอยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอรับเงินค่าบริการนำเที่ยวคืนได้ ทั้งนี้ การจ่ายค่าบริการนำเที่ยวคืนให้แก่นักท่องเที่ยวดังกล่าว หากบริษัททัวร์มีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อเตรียมการจัดนำเที่ยว ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า ค่ามัดจำของบัตรโดยสารเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ ให้นำมาหักจากเงินค่าบริการนำเที่ยวที่ต้องจ่ายคืนให้กับนักท่องเที่ยวได้ โดยให้บริษัททัวร์แสดงหลักฐานให้นักท่องเที่ยวทราบ แต่หากค่าใช้จ่ายของบริษัททัวร์สูงกว่าเงินค่าบริการนำเที่ยวที่นักท่องเที่ยวได้ชำระไว้ บริษัททัวร์จะไม่สามารถเรียกเก็บเงินเพิ่มจากนักท่องเที่ยวได้