นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตเข้าร่วมงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 18 “Money Expo 2023 Chiangmai” ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2566 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยบริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการและโปรโมชันที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอย่างครบถ้วน พร้อมด้วยกิจกรรมมากมาย โดยผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นไฮไลท์ในงาน ดังนี้
แบบประกันภัยเมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ โปร 10/1 (Global) และ เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ 15/3 (Global) เหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากเริ่มลงทุนผ่านประกันชีวิตชูจุดเด่นมีเงินคืนทุกปี และเปิดโอกาสรับผลตอบแทน (Upside gain) ผ่านดัชนีที่ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า อีกทั้งยัง การันตีเงินที่จ่ายไม่สูญหาย ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายจะยังอยู่ครบเมื่อครบกำหนดสัญญา จ่ายเบี้ยสั้น และสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 100,000 บาท(1) สมัครได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน ถึง 80 ปี โดยไม่ต้องตรวจ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ(2)
แบบประกันโครงการเมืองไทย ยูแอล พลัส มีจุดเด่นในเรื่องของการการันตีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 4% ต่อปี ในปีกรมธรรม์แรก และ 1% ต่อปี ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 2 เป็นต้นไป สำหรับมูลค่าการลงทุน ลูกค้ายังสามารถเลือกความคุ้มครองชีวิตได้สูงโดยกำหนดสัดส่วนความคุ้มครองชีวิตเอง และการลงทุนได้ตามต้องการ เพิ่มเบี้ยประกันภัยส่วนออมเพิ่มเติม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ อีกทั้ง สามารถถอนเงินลงทุนออกบางส่วนจากกรมธรรม์ เพื่อตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิต เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 100,000 บาท(1)
สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) เหมาจ่ายตามจริง 1-5 ล้านบาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ คุ้มครองตอนแอทมิท รวมถึงการรักษาฟื้นฟูต่อเนื่องกรณีผู้ป่วยนอก ทั้งค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน ค่าห้อง ไอ.ซี.ยู ค่าหมอ ค่ายา ค่าตรวจ ค่าผ่าตัด ค่ากายภาพบำบัด อีกทั้งจะผ่าตัดเล็กหรือใหญ่ หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องนอนก็คุ้มครอง เบี้ยประกันภัยยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(1)
สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus) ความคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่าย สามารถเลือกวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงถึง 20 -100 ล้านบาทต่อปี คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ ครอบคลุมการรักษาทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ที่คุ้มครองห้องเดี่ยวมาตรฐานได้ทุกโรงพยาบาล(3) และห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) เหมาจ่ายตามจริงรวมสูงสุด 365 วัน หรือ ถ้านอนห้องเดี่ยวพิเศษ คุ้มครอง 10,000 -25,000 บาทต่อวัน และการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD)(4) ตามแผนความคุ้มครองที่ลูกค้าเลือก รวมถึงการฟอกไต การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการเคมีบำบัด และแบบ Targeted Therapy รวมถึงการรักษาแบบนวัตกรรมใหม่ Immunotherapy ให้คุณมั่นใจในการเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การวินิจฉัยโรคแบบ CT Scan และ MRI โดยไม่ต้องแอดมิท นอกจากนี้ยังสามารถเลือกประเทศที่ต้องการรักษาได้ และเบี้ยประกันภัยยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(1)
ทั้งนี้ อีลิท เฮลท์ พลัส และ ดี เฮลท์ พลัส สมัครได้ตั้งแต่อายุ 11 ปี – 90 ปี คุ้มครองยาว ๆ ถึงอายุ 99 ปี และสามารถเลือกพลัสความคุ้มครองเพิ่มได้ตามความต้องการ เช่น ความคุ้มครองการคลอดบุตร พลัส (Maternity Plus) หรือ สุขภาพดี พลัส (Well-Being Plus) ที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่าฉีดวัคซีน ค่ารักษาทางทันตกรรม และค่ารักษาทางสายตา
บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในงานไว้มากมาย โดยมีโปรโมชันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป ที่ชำระเบี้ยประกันภัยงวดแรกต่อกรมธรรม์ตั้งแต่ 50,000 บาท จนถึง 4,000,000 บาทขึ้นไป (ยกเว้น mDesign และ mGrow615) สำหรับแบบประกันเมืองไทย ยูแอล พลัส ไม่นับรวมเบี้ย Top Up รวมทั้งมี Special Promotion สำหรับผลิตภัณฑ์เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ โปร 10/1 (Global) เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ 15/3 (Global) โครงการเมืองไทยยูแอล พลัส สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส และ อีลิท เฮลท์ พลัส ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดโปรโมชันได้ ภายในบูธเมืองไทยประกันชีวิต
สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ที่มาร่วมกิจกรรมภายในบูธสามารถเช็คสิทธิพิเศษ เช็คข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ เช็คข้อมูลสไมล์พ้อย เพื่อแลกรับสินค้าหรือบัตรกำนัลภายในบูธกิจกรรม และหากยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สามารถสอบถามและสมัครสมาชิกฯ ได้ที่จุดบริการสไมล์คลับโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยสมาชิกฯ สามารถแลกคะแนนลุ้นโชคง่าย ๆ เพียง 2 Smile Points ต่อ 1 คูปอง ลุ้นสร้อยคอทองคำ และ บัตรแทนเงินสดโลตัส ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – 31 มกราคม 2567 (จับรางวัลวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567)
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สามารถเปลี่ยน Smile Point เป็นกองทุนรวม เพียงใช้คะแนนสะสมแลกรับส่วนลดแทนเงินสดในการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม โดยใช้คะแนนสะสมจำนวน 160 Smile Points แลกรับส่วนลดซื้อกองทุนรวมผ่าน MTL MyFund มูลค่า 500 บาท หรือใช้คะแนนสะสมจำนวน 320 Smile Points แลกรับส่วนลดซื้อกองทุนรวมผ่าน MTL MyFund มูลค่า 1,000 บาท พิเศษ… สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ที่เปิดบัญชีกองทุนและแลกคะแนนเพื่อซื้อหน่วยลงทุน ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – 29 ธันวาคม 2566 รับ Starbucks e-Coupon มูลค่า 200 บาท จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (สำหรับผู้เข้าร่วมรายการสูงสุด 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ตลอดรายการ)
นอกจากนี้ยังแลกคะแนนเข้าร่วมกิจกรรม Smile Morning Check up ณ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ เข้ารับการตรวจสุขภาพ ใช้คะแนนสะสมจำนวน 450 Smile Points และ กิจกรรมสุด Exclusive เมืองไทย Smile Exclusive Dining : ร้านหลังบ้านเชฟ X อันจะกินวิลล่า” ครั้งแรกกับการคอลแลปส์กันระหว่างร้านอาหารชื่อ ดัง 2 ร้านในเชียงใหม่ ที่จะมารังสรรค์มื้อพิเศษต้อนรับเดือนแห่งความรัก ร้านหลังบ้านเชฟ ร้านเชฟส์เทเบิลชื่อดังย่านสันกำแพง โดยเชฟนิว ธัญญะ ผลธัญญา ร่วมกับ อันจะกินวิลล่า ร้านอาหารในบ้าน ที่มีคอนเซปต์ ‘วันละโต๊ะ’ โดยพี่ก้อย (กนิษฐกา ลิมังกูร) สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับใช้คะแนนสะสม 2,000 คะแนน ต่อ 1 สิทธิ์ (2 ท่าน)
ภายในบูธ สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ยังสามารถใช้คะแนนสะสม แลกของที่ระลึก และบัตรกำนัลต่างๆ อีกมากมายอีกด้วย แล้วพบกันที่ บูธเมืองไทยประกันชีวิต มหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 18 “Money Expo 2023 Chiangmai”