นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ AIS เปิดเผยว่า แอปฯ myAIS ก้าวสู่การเป็นไลฟ์สไตล์แอปไทยจากผู้ให้บริการมือถือเพียง 1 เดียว ที่ We Are Social รายงานสถิติ Thailand Digital Stat 2021 ได้จัดอันดับให้อยู่ใน Top10 ของแอปที่คนไทยใช้มากที่สุด (รวมแอป social ยอดนิยมต่างประเทศ) ล่าสุด ชูแนวคิด myAIS รู้ใจไม่รู้จบ ทำได้มากกว่าที่คิด เพิ่มฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลัก สุขภาพ ช้อป กิน/ดื่ม ครบจบในแอปเดียว
“จากการติดตามพฤติกรรมการใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ของลูกค้าและคนไทย ทำให้พบว่า ช่องทาง Online อย่าง myAIS ที่เป็นเหมือนการรวมฟังก์ชั่นทั้ง AIS Shop และ AIS Call Center เข้าด้วยกัน ได้เติบโตอย่างรวดเร็วจนวันนี้เป็นช่องทางอันดับ 1 ที่ลูกค้าและคนไทยเลือกใช้มากที่สุด ถึงกว่า 30 ล้าน Transaction/เดือน จาก 8 ล้านเลขหมายต่อเดือน และมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 50% เทียบจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบถ้วน Real Time จึงเป็นที่มาของการที่เรามุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ myAIS ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา พร้อมประสบการณ์ความสะดวกสบายที่มากยิ่งกว่า ดังนั้น จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่เราพัฒนาฟีเจอร์ล่าสุด เพื่อรวมบริการและสิทธิพิเศษด้านสุขภาพ, ช้อปปิ้ง และกิน/ดื่ม เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานในยุค New Normal ไปอีกขั้นนั่นเอง”
โดยครั้งนี้ myAIS ได้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าครอบคลุม 3 ไลฟ์สไตล์หลัก ดังนี้
• สายสุขภาพ มัดรวมบริการและสิทธิพิเศษในหมวด Well Being ครบทั้งเรื่องสุขภาพไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดบริการ Telemedicine, ประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 และส่วนลด ณ ร้านขายยาชั้นนำกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ ประกอบกับเทรนด์ที่คนให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพและความงามเพิ่มมากขึ้น AIS จึงขยายการดูแลสุขภาพด้วยบริการ “หมอผิวหนังออนไลน์” ที่จับมือกับ Skin X แอปพลิเคชันเจ้าแรกที่ให้บริการหลากหลายในด้านผิวพรรณผ่านออนไลน์แบบครบวงจร โดยลูกค้า AIS และ AIS Fibre รับส่วนลด 100 บาท พิเศษ! ลูกค้า AIS Serenade ใช้บริการฟรี 1 ครั้ง! (มูลค่า 250 บาท)
• สายช้อป นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่ายอดการใช้สิทธิพิเศษด้านออนไลน์ช้อปปิ้งเติบโตขึ้น 2 เท่า เราจึงร่วมมือกับ The Mall ยกห้างมาไว้บนมือถือ ภายใต้แคมเปญ “myAIS Mobile Life Store Powered by M Online” ช้อปง่ายบน myAIS ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งออนไลน์ พร้อมนำเสนอสินค้าที่โดนใจแบบ Personalized ด้วยสินค้าไฮไลท์จำนวนกว่า 250 รายการ พร้อมสิทธิพิเศษจัดเต็มส่วนลดสูงสุดถึง 400 บาท เมื่อซื้อครบ 2,000 บาทขึ้นไป
• สายกิน AIS จัดเต็มส่วนลดฟู้ดเดลิเวอรี่ โดยในช่วง Lockdown ที่ผ่านมา ยอดการใช้สิทธิพิเศษเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าช่วงปกติถึง 6 เท่า โดยล่าสุดตามที่ภาครัฐได้ให้แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 AIS จับมือกับ LINE MAN ให้ลูกค้าอิ่มฟิน ลดมากกว่าครึ่ง! เพียงใช้
AIS Points แลกรับส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 60 บาท เมื่อสั่งคนละครึ่งผ่าน LINE MAN
myAIS ยังได้เตรียมสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับการแลกพอยท์ช่วงปลายปี ทั้งของพรีเมี่ยม ที่เป็นการพบกันครั้งแรกของน้องอุ่นใจ กับ ReenP และ Jay The Rabbit / แลกไลน์สติ๊กเกอร์ คอลเล็กชั่นใหม่ / ลุ้นของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีพ ไม่ว่าจะเป็น PlayStation5, Samsung Galaxy Z Fold 3 5G (512 GB) และทองคำ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เอไอเอสภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนร้านค้าที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา โดย myAIS เป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักที่ช่วยให้ลูกค้าเอไอเอส สามารถตรวจสอบและใช้ AIS Points เป็นส่วนลดแทนเงินสด เพื่อเป็นการอุดหนุนร้านค้ารายเล็กในโครงการ เอไอเอส พารวย โดยปัจจุบันมีร้านค้าพารวยเข้าร่วมโครงการแล้วถึง 10,000 ร้านค้า รวมถึงร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการพอยท์เพย์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย โดยสามารถใช้ AIS Points ได้เต็มจำนวน หรือจะเป็นส่วนลดจ่ายคู่กับเงินสดก็ได้เช่นกัน ซึ่งในขณะนี้มีร้านที่เข้าร่วมกว่า 45,000 ร้านค้า โดยภายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 200,000 ร้านค้า และภายในปีหน้า ร้านค้าถุงเงินจะเข้าร่วมรายการ 700,000 ร้านทั่วประเทศ
“ในทุกช่วงเวลาที่ผ่านไป เราต่างรับรู้กันว่า พฤติกรรมผู้บริโภคจะมีความซับซ้อนมากขึ้น การจะตอบโจทย์ความต้องการเพื่อส่งมอบบริการและประสบการณ์ที่ตรงจุดได้ คือต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ นับเป็นความท้าทายในการสร้างสรรค์งานบริการทั้งในส่วนของ Functional และ Emotional โดยมีเป้าหมายให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากเรา เพราะสินค้าหรือบริการ 1 อย่าง ย่อมไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้ ดังนั้น จึงหมดยุคของการคิดแบบ One Size Fits All อีกต่อไป myAIS จึงยืนยันว่า เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถ มุ่งสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมต่อการใช้งานแบบไร้รอยต่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมก้าวสู่ความเป็น Personalized Super App ในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน”