AIS เปิดภารกิจแห่งชาติ ‘JUMP THAILAND 2021’

นายอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม เอไอเอส​ เปิดเผยว่า​ AIS NEXT หน่วยงานขับเคลื่อนนวัตกรรมของเอไอเอส เดินหน้าโครงการ “JUMP THAILAND 2021” ชวนคนไทยกระโดดเข้าแก้ไขปัญหาและวิกฤตรอบตัวด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้างบิ๊กอิมแพคต่อสังคมและโลกอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการเฟ้นหาสุดยอดไอเดียแบบสตาร์ทอัพ พร้อมกิจกรรมOnline Hackathon ครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้มีส่วนร่วมระดมไอเดียกู้โลก ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับAIS NEXT และพาร์ทเนอร์ พร้อมงบประมาณสนับสนุนสูงสุดถึง 100 ล้านบาท

ท่ามกลางกระแส Digital Disruption และสภาวการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทำให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาและความเสี่ยงต่างๆ มากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งปัญหาสภาวะโลกร้อน การขาดแคลนทรัพยากร การเปลี่ยนแปลงอำนาจทางเศรษฐกิจ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ได้สร้างแรงกระตุ้นให้มนุษย์เร่งนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาแก้ปัญหาแทบทุกรูปแบบ ให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในยุคนิวนอร์มััล ตัวอย่างของปัญหาระดับ Global ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างมาถึงชีวิตของเราทุกคนในวันนี้ และต้องการพลังในการร่วมกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ฝุ่น​ pm 2.5 , ปัญหาสุขภาพและบริการด้านสาธารณสุข การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19,​ปัญหาความเท่าเทียม, การว่างงาน, ปัญหายาเสพติด​ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายเทรนด์ที่ท้าทาย​ เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทจากการมาถึงของดิจิทัล (Digital Disruption) ซึ่ง AIS NEXT ได้คัดสรรเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกระทบทั้งในระดับบุคคล, องค์กร และประเทศ มาไว้ เพื่อย้ำเตือนให้เห็นถึงความท้าทายและการเตรียมความพร้อมรับมือพร้อมเปลี่ยนความท้าทายมาเป็นโอกาสสำหรับการก้าวกระโดดไปข้างหน้า ประกอบด้วย

1.   Digital Identity Foundation Initiative: ภาพรวมของความเป็นตัวตนของตัวบุคคลในแพลตฟอร์มต่างๆ ความเป็นเจ้าของของตัวตน และความง่ายในการอนุญาติ รวมทั้งการควบคุมความเป็นตัวตนในยุคดิจิทัล ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานราชการไทย

2.   Digital Archive & Intelligence Initiative: การเก็บข้อมูลด้วยเซนเซอร์และอุปกรณ์ไอโอที การนำเอาข้อมูลไปเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อการสร้างข้อมูลเชิงลึก รวมถึงรากฐานของการจัดเก็บกระบวนการในกลุ่มเมฆเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในสากล

3.   Phygital Exchange Market Initiative: การรวมกันของสิ่งของในโลกความเป็นจริงและโลกเสมือน การสร้างและควบคุมตลาดซื้อขายระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์จริง และการสร้างการระบบการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ระหว่างสินทรัพย์ในโลกจริงและโลกเสมือนที่เป็นรากฐานให้กับประเทศไทย

4.   Future Workforce Platform Initiative: ภาพรวมของความสามารถและสกิลของกลุ่มคนในสังคมต่างๆจากภาวะสังคมผู้สูงอายุ การแยกกันทางวิชาความรู้ระหว่างกลุ่มดิจิทัลโดยกำเนิด (Digital Natives) และกลุ่มผู้อพยพทางดิจิทัล (Digital Immigrants) เทรนด์ของการเรียนรู้แบบทีละเล็กละน้อย (Micro-Learning) หลักการเรียน และการอัพเดทความรู้ในยุคดิจิทัล รวมทั้งโครงสร้างของสังคมการทำงานแบบฟรีแลนซ์ของไทย

5.   Digital Police Initiative: การบังคับใช้กฎหมายในโลกดิจิทัลในประเทศไทย รวมถึงการใช้กฎหมายดิจิทัลกับโลกของอุปกรณ์ไอโอทีในยุค 5G ความปลอดภัยและอาชญากรรมไซเบอร์ที่ควรระวัง

เอไอเอส ขออาสาเป็นแกนกลางในการเปิดรับฟังมุมมองปัญหาจากทุกคน และชวนคนไทยทั้งชาติ ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นิสิต นักศึกษา คณาจารย์ นักวิจัย นวัตกร ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา มาร่วมระดมสรรพกำลัง ระดมความคิด สร้างสรรค์โซลูชันในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ด้วยกระบวนการแบบสตาร์ตอัพ ที่มุ่งหาโซลูชั่นส์ในการแก้ Pain point พร้อมจัด Online Hackathon ครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในโครงการ JUMP THAILAND by AIS NEXT  เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยมีรายละเอียดโครงการดังนี้

1Problem Submission: ส่งโจทย์ปัญหาเพื่อโหวตหัวข้อที่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 ก.พ. 2564 ที่เฟซุบ๊กเพจ: JumpThailand และเว็บไซต์ jumpthailand.earth

2.Team Registration: รับสมัครทีม ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 15 มี.ค.2564 ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจJumpThailand และเว็บไซต์jumpthailand.earth และประกาศรายชื่อทีมที่ได้เข้าแข่งในวันที่ 27 มี.ค. 2564

3Online Hackathon: ช่วงการแข่งขันHackathon ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม

4Incubation: ภายหลังจากโครงการจะมีการรับโครงการที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อนำมาบ่มเพาะนวัตกรรมกับ AIS NEXT

โดยทีมที่เข้าร่วม JUMP THAILAND Online Hackathon ครั้งนี้ นอกจาก จะมีโอกาสเข้าถึงกระบวนการทำงานและเทคโนโลยีของเอไอเอส อาทิ 5G, AI, Blockchain, Cloud, XR, Big Data รวมถึงได้ใช้พื้นที่ AIS PLAYGROUND ในการทดลองทดสอบนวัตกรรมต้นแบบบนเครือข่ายและสภาพแวดล้อมจริงแล้ว ทีมผู้ชนะยังมีโอกาสได้รับเงินรางวัลสูงสุดรวมกว่า 1 ล้านบาทนอกจากนี้โครงการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสามารถพัฒนาต่อยอด ขยาย Scale ได้  ก็จะได้โอกาสในการเข้าร่วมการบ่มเพาะนวัตกรรมร่วมกับทีม AIS NEXT เพื่อทดลองทดสอบโซลูชันในตลาดจริง ด้วยงบประมาณสนับสนุนที่มากที่สุดถึง 100 ล้านบาทอีกด้วย

ผู้สนใจโครงการ JUMP THAILANDสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมส่งหัวข้อปัญหาที่คิดว่าควรเร่งแก้ไขที่สุดได้ตั้งแต่วันนี้  ถึง 14 .2564 ที่เฟซบุ๊กเพจJumpThailand และเว็บไซต์jumpthailand.earth