สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดอบรมหลักสูตร Office skills “กราฟิกดีไซน์เบื้องต้น” เป็นโครงการที่ 12 ของโครงการสิงห์อาสาอบรมสร้างอาชีพ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือด้านการผลิตดิจิทัลคอนเทนท์ให้แก่ประชาชนที่สนใจ ให้สามารถประกอบอาชีพที่สอดรับกระแสวิถีปกติใหม่ สร้างรายได้สู่ครอบครัวณ อาคารฝึกอบรม สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เมื่อวันที่ 24 – 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เนื่องจาก กราฟิกดีไซน์เบื้องต้น เป็นวิชาชีพด้านงานช่างที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน สามารถนำมาสร้างอาชีพเพื่อหารายได้ได้ เพราะนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ต้องมีการเว้นระยะห่างตามมาตรการของภาครัฐ ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตไปอยู่บนดิจิทัลแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น กลายเป็นบรรทัดฐานการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ซึ่งวิกฤตในครั้งนี้ได้สร้างโอกาสให้แก่หลายสาขาอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพกราฟิกดีไซน์ ที่จะต้องออกแบบดิจิทัลคอนเทนท์ให้การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มีความน่าสนใจ
ผู้เรียนจะได้รับการอบรมตั้งแต่หลักการออกแบบ การใช้สีและการสื่อความหมาย การเลือกใช้ตัวอักษรสำหรับงานออกแบบ การใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator ตลอดระยะเวลาการอบรมทั้ง 2 วัน ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันทีเมื่อจบหลักสูตร ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริม เนื่องจากภาคธุรกิจมีการปรับตัวไปอยู่ในดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น บุคลากรที่สามารถออกแบบและสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนท์จึงเป็นที่ต้องการมากในยุคปัจจุบัน
ที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริเวอรี่ จำกัด ได้เร่งบรรเทาความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้โครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ ผ่านรูปแบบของการจ้างงาน สร้างรายได้ เป็นอาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตนเอง ได้แก่ โครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่า โครงการสิงห์อาสาสู้ภัยแล้ง และโครงการสิงห์อาสาสู้ภัยน้ำท่วม รวมถึงรูปแบบการสร้างงาน สร้างอาชีพ ได้แก่ กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านอาหาร ต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านงานช่าง และยังได้บริจาคเงินสนับสนุนการทำงานของบุคคลากรการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหลัก 26 แห่งทั่วทั้งประเทศ ที่ทำงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย รวมเป็นมูลค่าการช่วยเหลือกว่า 200 ล้านบาท