ทส. ชวนคนไทยท่องเที่ยว วีถีใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สำหรับการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (New Normal ) จะจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับแต่ละขนาดอุทยาน โดยประชาชนสามารถจองคิวล่วงหน้า ผ่านแอพลิเคชั่น QueQ โดยสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น QueQ ได้ในระบบiOS : shorturl.at/mtFJ4 และ Android : shorturl.at/eHVY5
สำหรับใครที่ไม่สะดวกใช้แอพ ไม่ต้องกังวลใจไปว่าจะอดเที่ยวอุทยานฯอีกต่อไป โดยประชาชนยังสามารถโทรจองการท่องเที่ยวล่วงหน้า โดยตรงหรือวอล์คอินเข้ามาได้ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราจะแบ่งสัดส่วนโควต้าให้สำหรับการจองผ่านแอพพลิเคชั่น 70% และเผื่อสำหรับนักท่องเที่ยวที่วอล์คอิน 30%
อย่างไรก็ตามเน้นย้ำประชาชน อย่าลืมเช็คอิน เข้า-ออก อุทยานฯ ผ่านระบบไทยชนะ เพื่อบันทึกข้อมูล สำหรับมาตรการควบคุมโรคระบาด Covid-19 สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น รักษาระยะห่างระหว่างกัน และหมั่นล้างมือ / และเมื่อเข้าไปพักอาศัย หรือท่องเที่ยวในอุทยาน. ยังคงต้องปฎิบัติ ตนเป็นนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว ด้วยวิธีง่ายๆดังนี้
- ไม่ส่งเสียงดัง
- ไม่ด่อกองไฟ
- ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่อุทยาน
- ไม่นำบรรจุภัณฑ์ประเภทโฟมเข้าพื้นที่อุทยาน
- ไม่ให้อาหารสัตว์
- ไม่ตัดไม้มาทำเป็นฝืน
- ไม่ขีด้ขียนในที่ต่างๆ
- ไม่เก็บดอกไม้ หรือพืชชนืดต่างๆ ออดจากพื้นที่อุทยาน
- สูบบุหรี่ ในสถานที่ที่กำหนด
- ไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
- ทิ้งและแยกขยะ ลงถังที่จัดเตรียมไว้
- ช่วยกันนำขยะออกจากพื้นที่อุทยาน
การท่องเที่ยววิถีใหม่ หากทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาด ทิ้งขยะในจุดที่จัดเตรียมให้ อุทยาน จะคงความสวยงาม และไม่กระทบต่อสัตว์ป่า เพราะตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาที่มีการปิดอุทยาน ไม่มีการตรวจพบสัตว์ป่าตายจากการกินขยะพลาสติกเลย จึงขอให้ช่วยกันรักษามาตรฐานดีๆแบบนี้กันไว้
ทั้งนี้การท่องเที่ยวอุทยานฯ แบบ New Normal อาจไม่สะดวกสบายเหมือนแต่ก่อน เพราะมีมาตรการต่างๆ เข้ามาควบคุม อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดการเปิด-ปิดอุทยานแห่งชาติ พร้อมจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองรับในแต่ละแห่ง ได้ที่ https://www.facebook.com/prhotnews02/posts/2215857881893019 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร 1362 ได้อีกช่องทางด้วย
นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือ ประชาชนที่ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ. หรือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทุกแห่งขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง จำกัดความเร็ว ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่อสัตว์ป่า เพราะนอกจากจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังมีความผิดตามกฏหมายด้วย โดยเข้าข่ายความผิด 2 มาตรา ได้แก่
– พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
มาตรา 19 (3) ภายในอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้ผู้ใดล่าหรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
– พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง *** โดยคำว่า “ล่า” หมายรวมถึงทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่สัตว์ป่า หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3-15 ปี ปรับ 300,000 – 1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#ท่องเที่ยววิถีใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
#คุณภาพสิ่งแวดล้อมคือคุณภาพชีวิต
ขอบคุณ ภาพจากสำนักอุทยานแห่งชาติ