นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าแผนกงานพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจแบบเติบโตไปพร้อมกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในประเด็นของสิ่งแวดล้อม ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้สานต่อภารกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยขยายผลแคมเปญใหญ่ “คนไทยไร้ E-Waste” จับมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนทั่วประเทศ เพื่อสร้างการตระหนักรู้เรื่องภัยอันตรายที่แฝงมากับขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขยายจุดรับทิ้งขยะทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกให้คนไทยสามารถเข้าถึงจุดรับทิ้งขยะ E-Waste ได้ง่าย ใกล้บ้านคุณ”
ทั้งนี้ เอไอเอส จับมือกับ ภาคีเครือข่ายความเพื่อยั่งยืนแห่งประเทศไทย TRBN โดยความร่วมมือของกลุ่มบริษัทจดทะเบียน ภายใต้การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้ง 9 องค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์,บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยออพติคอล, อีสท์ วอเตอร์, การบินไทย, ยูนีซัน, เอสซี แอสเสท, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ สิงห์ เอสเตท ดึงพลังจากพนักงานคนรุ่นใหม่ในองค์กรกว่า 20,000 คน ร่วมรณรงค์และบอกต่อการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ให้แพร่หลายไปยังครอบครัวและคนรอบข้าง ได้ตระหนักรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมทั้งขยายจุดรับทิ้งขยะ E-Waste ไปวางที่สำนักงานของบริษัทต่างๆ รับคลายล็อกดาวน์ ที่พนักงานบริษัทเริ่มทยอยกลับเข้าทำงานตามปกติ และจะได้นำขยะ E-waste มาทิ้งที่ออฟฟิศได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งเชิญชวนคนไทยร่วมใจคัดแยก E-Waste และนำไปทิ้งในจุดรับทิ้งซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,806 จุด
ด้าน นางพิมพรรณ ดิสกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เครือข่าย TRBN มีเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนให้บริษัทเอกชนไทย คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงการมีธรรมาภิบาลที่ดีในการดำเนินธุรกิจหรือเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ เพราะการเข้าใจถึงความเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล จะทำให้บริษัทรู้จักการบริหารจัดการความเสี่ยง และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงร่วมสร้างคุณค่าให้กับสังคมไปพร้อมกันด้วย และสิ่งเหล่านี้คือพันธกิจของ TRBN อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของเครือข่ายคือการสร้างแพลตฟอร์ม หรือ ความร่วมมือของธุรกิจต่างๆ ที่อยากให้บริษัทตนเองมีส่วนในการสร้างสิ่งความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสังคม
“สิ่งที่ เอไอเอสทำอยู่นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากและเป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก และคิดว่าเป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจ ซึ่งเอไอเอสไม่ได้ทำคนเดียว มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ บริษัทเอกชนและหน่วยงานราชการลุกขึ้นมาเก็บคืนเรียกคืน โดยใช้เครือข่ายร่วมกันทำมันก็จะกระจายความตระหนักตรงนี้ออกไปและที่สำคัญคือทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง ง่ายต่อการมีส่วนร่วม และถ้าทุกคนช่วยกันบอกต่อให้ทุกคนเข้าใจว่ามันคือภัยเงียบ คือภัยใกล้ตัวที่เราส่วนมากมักจะมองข้าม”
โดยขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่แคมเปญนี้ มุ่งเน้นมีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต, แบตเตอรี่มือถือ, พาวเวอร์แบงก์, สายชาร์จ หูฟัง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก อาทิ กล้องถ่ายรูป เครื่องเล่น MP3 โดยขยะ E-Waste ทั้งหมดที่เข้าสู่โครงการจะถูกรวบรวมและนำไปกำจัดแบบถูกวิธีด้วยกระบวนการ Zero Landfilled
ปัจจุบัน “คนไทยไร้ E-Waste” มีจุดรับทิ้งขยะ E-waste รวมทั้งสิ้น 1,806 จุด อาทิ ที่ทำการไปรษณีย์ 160 แห่ง, AIS Shop จำนวน 136 สาขาทั่วประเทศ, AIS Telewiz, ศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล 34 แห่ง, มหาวิทยาลัยต่างๆ และอาคารชุด คอนโด ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ