ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28-29 ม.ค. 64 สิงห์อาสา โดยมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ฟู้ด แฟ็คเตอร์ส จำกัด (Food Factors) ลงพื้นที่เติมเสบียงน้ำดื่มสิงห์และข้าวสารพันดี ให้กับ 4 โรงพยาบาลสนามจ.สมุทรสาครอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำอาหารปรุงสุกเมนูสุดพิเศษ ข้าวกะเพราไก่เผ็ดจ๊าก และข้าวกะเพราฮ๊อตฮ๊อตหมูสับแหลกจาก ร้าน EST.33 ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดย 4 โรงพยาบาลสนาม ได้แก่ โรงพยาบาลสนามวัดโกรกกราก โรงพยาบาลสนามสนามกีฬากลาง โรงพยาบาลสนามตลาดกลางกุ้งมหาชัย และโรงพยาบาลสนามวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด -19 ระลอกใหม่ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธ.ค.63 สิงห์อาสา ลงพื้นที่มอบกำลังใจให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 23 ธ.ค. 63 ส่งมอบน้ำดื่มและข้าวสารที่โรงพยาบาลราชวิถี วันที่ 24 ธ.ค. 63 ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมทั้งมอบน้ำดื่มและข้าวสารผ่านเหล่ากาชาด จ.สมุทรสาคร และศูนย์กักกันโรค ที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนและแรงงานในพื้นที่ ต่อมาในวันที่ 13 ม.ค. 64 ที่โรงพยาบาลบางบัวทอง และวันที่ 20 ม.ค.64 ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักที่ทำหน้าที่ในการคัดกรองและดูแลผู้ป่วยโควิด-19
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ซึ่งเริ่มเกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19ครั้งแรกในประเทศไทย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้มีนโยบายช่วยเหลือสังคม พร้อมทั้งให้สนับสนุนการทำงานของบุคลากรการแพทย์อย่างเต็มที่ในโรงพยาบาลหลักทั่วทั้งประเทศ 26 แห่ง พร้อมทั้งสนับสนุน อาหาร น้ำดื่ม ให้กับบุคลากรการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่รับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่อง ทั้งยังประกาศนโยบายเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบในการดำรงชีวิต ผ่านโครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบของการจ้างงานสร้างรายได้ เป็นอาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตนเอง ผ่านโครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่า และโครงการสิงห์อาสาสู้ภัยแล้ง โครงการสิงห์อาสาสู้ภัยน้ำท่วม ทั้งนี้ยังมีโครงการสร้างงาน สร้างอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านอาหาร ต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านงานช่าง และเตรียมจัดอบรมกลุ่มทักษะกิจกรรมทางด้านการเกษตร รวมเป็นมูลค่าในการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมากกว่า 200 ล้านบาท