รายงานข่าว เปิดเผยว่า สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ บริษัทบุญรอดเอเซียเบเวอเรช จำกัด บริษัทในเครือ, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี, องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลา, องค์การบริหารส่วนตำบลทับยา, โครงการชลประทานสิงห์บุรี กรมชลประทาน, สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารสิงห์บุรี, มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจุดอินทร์บุรี-สิงห์บุรี, สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัย อยุธยา และเครือข่ายสิงห์อาสา 10 สถาบันการศึกษาภาคกลาง พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ ริมลำน้ำแม่ลา วัดแหลมคาง ต.แม่ลา อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี จัดโครงการสิงห์อาสาสู้น้ำท่วม ร่วมกันกำจัดผักตบชวารวมถึงเก็บขยะที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝน ซึ่งลำน้ำดังกล่าวเป็นลำน้ำที่สำคัญของชาวอ.อินทร์บุรี อ.บางระจัน อ.เมืองสิงห์บุรีและเป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง โดยก่อนนี้ได้จัดกิจกรรมที่ต.หลักชัย อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
คุณรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “พื้นที่ภาคกลาง เป็นพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นที่ราบลุ่ม เมื่อเข้าหน้าฝน จะมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำลำคลอง หากการระบายน้ำเป็นไปได้ดีก็จะลดปัญหาเรื่องน้ำท่วมได้ ที่ผ่านมา สิงห์อาสา พร้อมด้วยเครือข่ายฯ ได้ทำกิจกรรมกำจัดผักตบชวาและขยะซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่กีดขวางทางน้ำ ผ่านโครงการสิงห์อาสาสู้น้ำท่วม ซึ่งในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับเครือข่ายสิงห์อาสาชวนชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่ลา จ.สิงห์บุรี ช่วยกันเก็บผักตบชวา ซึ่งผักตบชวาที่เก็บได้จะนำไปแปรรูปให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างรายได้ให้ชุมชนต่อไป”
คุณบุญเลิศ นาคอุไร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญรอดเอเซียเบเวอเรช จำกัด กล่าวว่า “สิงห์บุรี คือ บ้านหลังใหญ่ของบริษัท บุญรอดเอเซียเบเวอเรช จำกัด ที่เราทุกคนควรมีส่วนร่วมในการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้นำศักยภาพที่มีทั้งองค์ความรู้ ทรัพยากร เครือข่าย รวมไปถึงผลผลิตต่างๆ เข้าไปสร้างความสุขและดูแลคุณชีวิตความเป็นอยู่ของคนสิงห์บุรีให้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น การจัดรถพุ่มพวงบรรทุกผักผลไม้จากแปลงเกษตรปลอดสารพิษที่ปลูกภายในบริษัทฯ ออกไปแบ่งปันคนในชุมชนรอบๆ, การแก้ไขปัญหาและดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับชาวสิงห์บุรีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในทุกๆปี เราก็ได้ผนึกกำลังกับเครือข่ายสิงห์อาสาลงพื้นที่กำจัดผักตบชวาและขยะที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เราตั้งใจเข้าไปช่วยเหลือ ดูแลพี่น้องชาวสิงห์บุรี ตามแนวคิดและวิถีปฎิบัติที่เราได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อ“องค์กร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน”
นายอนันยช จันทร์หอม นักศึกษาปวศ.ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสิงห์บุรี กล่าวว่า “ผมเกิดและโตที่จ.สิงห์บุรี ปัญหาที่พบมาตั้งแต่เด็กคือปัญหาน้ำท่วม ซึ่งผักตบชวาและขยะก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไม่ระบายจนเกิดน้ำท่วม วันนี้รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลบ้านเกิดตัวเอง ทำให้สภาพแวดล้อมของชุมชนน่าอยู่มากยิ่งขึ้น และยังป้องกันน้ำท่วมได้อีกด้วย ต้องขอบคุณสิงห์อาสาที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมา ทำให้ผมและเพื่อนๆ ทั้งในวิทยาลัยและสถาบันอื่นๆ ได้มีโอกาสดูแลท้องถิ่นของตนเอง ”
ทั้งนี้ เครือข่ายสิงห์อาสา 10 สถาบันการศึกษาภาคกลาง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี, วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสิงห์บุรี, วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี, วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี, วิทยาลัยเทคนิคชัยนาท, วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง และวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา โดยผักตบชวาที่เก็บขึ้นมา สิงห์อาสา ได้ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สอนวิธีการแปรรูปผักตบชวาเป็นปุ๋ยอินทรีย์ใช้ในการเกษตรให้แก่ชาวบ้าน และร่วมกับ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี สร้างเครื่องตัดย่อยผักตบชวาเพื่อแปรรูปผักตบชวาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
กิจกรรมกำจัดผักตบชวา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สิงห์อาสาสู้น้ำท่วม” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวากีดขวางทางเดินน้ำซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่สร้างผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาสิงห์อาสา พร้อมด้วยบริษัทในเครือบุญรอดฯ ร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคกลาง ทั้งมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษามากกว่า 20 สถาบัน และเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน ร่วมกันผนึกกำลังดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง เช่น นครปฐม, อยุธยา, สิงห์บุรี และปทุมธานี ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี