นาย ปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า “สิงห์อาสา” โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ประกาศเดินหน้าภารกิจดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนในวาระครบรอบ 10 ปีสิงห์อาสา ประสานความร่วมมือเครือข่ายสิงห์อาสาทั้งหมดที่กระจายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลงมือทำจริง 4 โครงการ ทั้งต้นน้ำ แหล่งน้ำ สายน้ำ และ ความยั่งยืน โดยครอบคลุมภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก และใต้ เริ่มต้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ระดมพลังเครือข่ายปกป้องผืนป่าต้นน้ำ
“ทุกวันนี้ปัญหาทรัพยากรน้ำไม่ได้เป็นปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของโลกที่ทุกคนต้องช่วยกัน สำหรับในประเทศไทยแล้วปัญหา ”น้ำ” ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก ทั้งน้ำที่ใช้เพื่อการเกษตร น้ำที่ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ด้วยเหตุนี้ในโอกาส 10 ปีสิงห์อาสา เรามีความตั้งใจที่จะรวมพลังเครือข่ายทั้งหมดที่เรามี ทั้งเครือข่ายบริษัทในเครือบุญรอดฯ และเครือข่ายภายนอกทั้งกลุ่มของสถาบันการศึกษา อาสากู้ภัย และส่วนราชการต่างๆ ช่วยผลักดันภารกิจดูแลทรัพยากรน้ำผ่าน 4 โครงการ โดยทั้งหมดจะลงมือทำในปีนี้ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้งการดูแลป่าต้นน้ำในเขตจังหวัดภาคเหนือ การดูแลแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคในจังหวัดภาคอีสาน การดูแลสายน้ำในจังหวัดภาคกลาง และการลดปัญหาขยะลงสู่ทะเลในจังหวัดภาคตะวันออกและภาคใต้เพื่อสร้างความยั่งยืน ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้จะทำคู่ขนานกันกับภารกิจหลักที่กลุ่มสิงห์อาสาดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติเร่งด่วนต่างๆ รวมทั้งโครงการสร้างงานสร้างอาชีพบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหา Covid-19 ตามที่บริษัทฯได้ประกาศไว้”
นายปิติ กล่าวว่า โครงการ 10 ปี สิงห์อาสา กับการดูแลทรัพยากรน้ำ จะเริ่มด้วยการดูแลพื้นที่ “ต้นน้ำ” ในเขตภาคเหนือ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า รักษาต้นน้ำ” โดยร่วมกับ บริษัท เชียงใหม่ เบเวอเรช จำกัด, บริษัท สิงห์ปาร์คเชียงราย จำกัด และเครือข่ายสถาบันการศึกษาภาคเหนือ 10 สถาบัน พร้อมด้วย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดูแลป่าต้นน้ำ ป้องกันการเกิดไฟป่า โดยจะจัดกิจกรรมทำแนวกันไฟป่า อบรมให้ความรู้กับชาวบ้านในพื้นในการเตรียมรับมือกับปัญหาไฟป่า และสร้างฝายต้นน้ำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของป่าต้นน้ำ ให้มีน้ำใช้ตลอดปี
ต่อด้วยโครงการ “สิงห์อาสา แหล่งน้ำชุมชน” ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยร่วมกับ บริษัท ขอนแก่น บริวเวอรี่ จำกัด, บริษัท มหาสารคาม เบเวอเรช จำกัด และเครือข่ายสถาบันการศึกษาภาคอีสาน 16 สถาบัน ร่วมบริหารจัดการน้ำในชุมชนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงใช้ในการเกษตร ในช่วงประสบปัญหาภัยแล้ง สร้างธนาคารน้ำสิงห์แก้ปัญหาเรื่องน้ำบริโภค และนำองค์ความรู้เรื่องการขุดบ่อน้ำชุมชน สร้างธนาคารน้ำใต้ดินมาถ่ายทอดให้ประชาชน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้อย่างยั่งยืน
ด้านการดูแล “สายน้ำ” ในเขตภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ร่วมกับ บริษัท วังน้อย เบเวอเรช จำกัด, บริษัท ปทุมธานี บริวเวอรี่ จำกัด บริษัท บุญรอดเอเซีย เบเวอเรชจำกัด, บริษัท สิงห์ เบเวอเรช จำกัด, บริษัท สามเสน บริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานกู้ภัย และเครือข่ายสถาบันการศึกษาภาคกลาง 10 สถาบัน ทำโครงการ “สิงห์อาสา ฟื้นฟูสายน้ำ” แก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการปล่อยน้ำเสียและทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ ทำให้ไม่สามารถนำน้ำมาใช้อุปโภคได้ และส่งผลกระทบต่อปัญหาน้ำท่วม เป็นโครงการที่มุ่งเน้นในการปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ โดยจะมีกิจกรรมเก็บขยะร่วมกับคนในท้องถิ่น รักษาความสะอาดของแม่น้ำลำคลองก่อนไหลลงสู่ทะเล
และปิดท้ายด้วยโครงการ “สิงห์อาสา ซี ยู สตรอง” สร้างความยั่งยืนให้ทะเลไทยในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ร่วมกับ บริษัท สุราษฎร์ธานี เบเวอเรช จำกัด, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ และเครือข่ายสถาบันการศึกษาภาคใต้และตะวันออก 12 สถาบัน ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ตลอดจนระบบนิเวศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยจะมีกิจกรรมเก็บขยะ สร้างแนวปะการังเทียม ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนในท้องถิ่นตนเองเพื่อการพัฒนาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ สิงห์อาสา เริ่มต้นจากการรวมตัวกันของพนักงานบุญรอดฯ เมื่อปี 2554 ในช่วงเกิดมหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดของประเทศไทยในรอบ 70 ปี จากปณิธานการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมของ “พระยาภิรมย์ภักดี” จนปัจจุบันขยายสู่กลุ่มนิสิตนักศึกษาทั้งคนไทยและต่างชาติ เครือข่ายสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมถึงมูลนิธิอาสา หน่วยงานราชการต่างๆ โดยถือเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่พร้อมทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง