สัตวแพทย์จุฬาฯ ยืนยัน ประเทศไทยมีมาตรฐานการเลี้ยงและการผลิตสุกรที่ดี มีการควบคุมตามหลักการสากล มีความปลอดภัยสูง มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรอย่างเข้มงวด แนะผู้บริโภครับประทานเนื้อหมูปรุงสุกเท่านั้น โดยเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์
ศ.น.สพ.ดร.เผด็จ ธรรมรักษ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ประเทศไทยมีแนวทางในการป้องกันโรคระบาดสัตว์ตามมาตรฐานสากล มีการตรวจสอบโดยกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด ควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างหลักประกันเนื้อสัตว์ปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อไวรัส กลุ่ม Asfivirus เป็น DNA virus ที่ระบาดเฉพาะในสุกรเท่านั้น โดยไม่ติดต่อสู่คนและไม่ติดต่อหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์ชนิดอื่น
“ขอยืนยันว่า เชื้อโรค ASF ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ ผู้บริโภคสามารถรับประทานเนื้อหมูได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องให้ความร้อนปรุงสุกที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป เพื่อทำลายเชื้อโรค ASF และเชื้ออื่น ๆ ที่อาจติดมาด้วย เช่น โรคไข้หูดับ โรคพยาธิ หรือโรคที่ทำให้เกิดท้องเสีย ที่สำคัญต้องเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิตและจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน มีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ มีการรับรองจากกรมปศุสัตว์” ศ.น.สพ.ดร.เผด็จ กล่าว
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้นำระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมในสุกร (Good Farming Management : GFM) มาส่งเสริมการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายเล็กและเกษตรกรรายย่อย ให้มีการจัดการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เพื่อลดปัญหาจากโรคระบาด และส่งเสริมให้สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย โดยระบบ GFM ประกอบด้วยการจัดการ 8 ด้าน คือ การจัดพื้นที่เลี้ยงและโครงสร้างการจัดการโรงเรือนหรือเล้าและอุปกรณ์ การจัดการยานพาหนะ การจัดการบุคคล การจัดการด้านสุขภาพ การจัดการอาหาร น้ำ และยาสัตว์ การจัดการข้อมูล และการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีขั้นที่ปฏิบัติได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และต้นทุนต่ำ สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด ลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดได้
น.สพ.ดร.เผด็จ กล่าวว่า จากกรณีล่าสุดที่มีการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศไทย อาจทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคกลับมาอีก หากเกิดการติดเชื้อโรค ASF ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงจะทำให้สุกรตายเป็นจำนวนมาก และเกษตรกรจะต้องทำลายสุกรที่มีความเสี่ยงทิ้งทั้งหมด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงควรซื้อเนื้อหมูจากร้านหรือผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเพียงประเทศเวียดนามเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้วัคซีนที่ผลิตขึ้นเองในประเทศเป็นตัวแรกของโลก เพื่อป้องกันโรค ASF ในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ยังไม่มีวัคซีนและวิธีการรักษาที่จำเพาะ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทย ซึ่งเป็นความมั่นคงทางอาหาร หากผู้บริโภคพบเห็นเนื้อหมูต้องสงสัยไม่ทราบแหล่งที่มาให้แจ้งกรมปศุสัตว์เพื่อเข้าควบคุมและตรวจสอบได้ทันที