ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสและทางเลือกในการกระจายการลงทุนในตลาดทุนที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นและตลาดหุ้นต่างประเทศ ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯในยุคของ “ภากร ปีตธวัชชัย” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯคนปัจจุบัน จึงได้มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการที่เชื่อมโยงต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนได้มีทางเลือกในการลงทุนและเป็นเครื่องมือบริหารพอร์ตลงทุน ตัวอย่างเช่น DW หรือใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants : DW) ที่อ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ Nasdaq 100 index และ Hang Seng Tech Index
และล่าสุด นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้แล้ว หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงเกณฑ์ของ DW โดยเพิ่มหุ้นต่างประเทศให้สามารถเป็นสินทรัพย์อ้างอิงของ DW ได้ จากเดิมที่กำหนดให้เป็นเฉพาะหุ้นและดัชนีหุ้นในประเทศ และดัชนีหุ้นตลาดต่างประเทศเท่านั้น และได้ปรับเกณฑ์ราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) สำหรับ DW ที่อ้างอิงสินทรัพย์ต่างประเทศ รวมทั้งเพิ่มมาตรการการกำกับดูแลการซื้อขาย DW มีผลตั้งแต่ 13 ธ.ค. 64
และเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เปิดให้ซื้อขาย DW โดยอ้างอิงหุ้นต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดย บล.แมคควอรี (ประเทศไทย) ได้ออก DW อ้างอิงบนหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้นฮ่องกง จำนวน 6 หลักทรัพย์ ซึ่งล้วนเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่กำลังเติบโตและคนไทยรู้จักกันดี
ประกอบด้วย หุ้นของ Alibaba (อาลีบาบา) e-commerce ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนที่ครอบคลุมยอดขายออนไลน์แทบจะทั้งหมดของจีน ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บ shopping online ที่ใหญ่ที่สุดในจีน คือ Taobao (เถาเป่า) ในประเทศไทยก็คือ Lazada นั่นเอง
นอกจากนั้น ยังมีหุ้นของ บริษัท Tencent (เทนเซ็นต์) เจ้าของ WeChat, WeTV, เกม PUBG หรือเกม League of Legends รวมทั้งหุ้นของ บริษัท Meituan (เหม่ยถวน) อีกหนึ่งแพลตฟอร์ม e-commerce ชั้นนำของจีน, หุ้น บริษัท Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ผู้ผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะ ที่มียอดขายอันดับ 1 ในจีน รวมทั้งหุ้นบริษัท JD.com ผู้นำด้าน online shopping ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีน ที่ได้เข้ามาร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล เปิดตัวเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเพื่อการ Shopping Online
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และกลุ่มยานยนต์ยักษ์ใหญ่ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด นั่นหมายถึงโอกาสของคนไทยที่จะสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเฉพาะในธุรกิจหรือบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและหลายบริษัทเราอาจเป็นลูกค้าที่ใช้บริการเขาอยู่ โดยนักลงทุนไทยสามารถซื้อขาย DW ที่อ้างอิงหุ้นฮ่องกงนี้ได้ ในกระดานซื้อขายของตลาด หลักทรัพย์ไทย จากบัญชีซื้อขายหุ้นที่เดิมมีอยู่แล้วกับบริษัทหลักทรัพย์ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีใหม่
ซึ่งในอนาคต บล.แมคควอรี (ประเทศไทย) ยังมีแผนจะเพิ่มหลักทรัพย์อ้างอิงที่เป็นหุ้นฮ่องกงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆก็อาจจะออก DW ที่อ้างอิงหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือตลาดหุ้นอื่นๆได้เพิ่มขึ้นอีก
ถือเป็นอีกก้าวของความสำเร็จในการเปิดโลกการลงทุนให้กับนักลงทุนไทย ได้มีโอกาสเข้าถึงการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่หลากหลายและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน!!
คุณนายพารวย
ที่มา คอลัมน์ รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ