ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง" หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบถึงขั้นวิกฤติต่อชีวิตความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมถึงมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะโลกร้อน, มลพิษ, น้ำท่วม, ภัยแล้ง, สภาพอากาศปรวนแปร และปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัว
หลายฝ่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ต้องให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อม เพื่อหาทางแก้ปัญหา ช่วยโลกให้ผ่านพ้นวิกฤติร้ายแรง ด้านภาคธุรกิจและนักลงทุนก็เริ่มให้ความสนใจกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือที่เรียกว่า “ESG”
ปัจจุบัน ESG ถือเป็นกติกาใหม่ในการทำธุรกิจ นักลงทุนที่รู้จักและเข้าใจ ESG ก่อน ย่อมมีความได้เปรียบในการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง
สำหรับผู้ประกอบการ บริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG ไม่ได้มุ่งหากำไรเป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว ย่อมเป็นหลักประกันสร้างความยั่งยืนและผลดีระยะยาวต่อธุรกิจ
จากการประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่า หากอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 2°C จะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ เป็นมูลค่าสูงถึง 69 ล้านล้านดอลลาร์ฯ และส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจในแถบเอเชียใต้ จะได้รับความเสียหายมากถึง 20-30% ของ GDP หลายประเทศเริ่มกำหนดให้ธนาคาร, บริษัทประกัน ต้องประเมินความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ก่อนปล่อยสินเชื่อ เพื่อวิเคราะห์และหาทางบริหารความเสี่ยงจากพอร์ตสินเชื่อและพอร์ตการลงทุน
ด้านนักลงทุนเอง เริ่มมอง ESG ว่าเป็นกระแสการลงทุนที่น่าจับตาและถูกใช้เป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นยั่งยืน หรือหลักทรัพย์ของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆได้นำ ESG มาเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์และวางแผนการลงทุน
ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยได้กำหนดให้ธุรกิจหรือบริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานด้าน ESG อย่างโปร่งใส เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน
การลงทุนที่คำนึงถึง ESG จึงเป็นเทรนด์ที่มาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้น โลกของการลงทุนสมัยใหม่ นักลงทุนจะมองทั้งเรื่องผลตอบแทนทางการเงิน ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญเรื่อง ESG โดยเห็นว่า ESG สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และสร้างโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาว
จึงทำให้ ESG เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องสนใจติดตาม เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจที่เลือกลงทุน สามารถปรับตัวและรับมือกับประเด็นความเสี่ยงด้าน ESG รวมถึงสามารถพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโตและทำกำไรได้ในระยะยาว
ผู้สนใจสามารถค้นหาความรู้ด้าน ESG เพิ่มเติมได้ที่ : SET ESG Academy แพลตฟอร์มที่ช่วยบ่มเพาะและเผยแพร่ความรู้ด้านความยั่งยืน เพื่อยกระดับ ESG Development ของตลาดทุนไทย และสามารถกดติดตาม Line@ : setsustainability เพื่ออัปเดตความรู้ด้านความยั่งยืนประจำวัน.
คุณนายพารวย