โดย คุณนายพารวย
ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา “คุณนายพารวย” ได้เข้าไปหาข้อมูลความรู้เรื่องเงินๆทองๆใน เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ www.set.or.th เมื่อกดไปในหัวข้อ “ความรู้การลงทุน” เข้าไปดูเรื่องการวางแผนการเงิน พบหลักการหลักคิดที่น่าสนใจในเส้นทางสู่ความมั่งคั่งที่ทุกคนควรนำมาปฏิบัติ
โดยเรื่อง “เงินทองต้องวางแผน” ได้กำหนดเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง โดยเริ่มต้นจาก การสร้างความมั่งคั่ง-การปกป้องความมั่งคั่ง-การเพิ่มพูนความมั่งคั่งและสุดท้ายคือ การส่งมอบความมั่งคั่ง
“การสร้างความมั่งคั่ง” ถือเป็นด่านแรกที่จะต้องฟันฝ่าไปให้ได้ หากอยากมั่งคั่ง ร่ำรวย หรือมีอิสรภาพทางการเงินอย่างที่ฝันไว้ ซึ่งคนที่จะสร้างความมั่งคั่งได้ต้อง “รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ และรู้ขยายดอกผล” อย่างสม่ำเสมอ เพราะบางคนหาเงินได้เยอะ-ใช้เยอะ ไม่ใส่ใจในการออม ก็คงมีความมั่งคั่งได้ยาก
หากเป็นเช่นนี้ ต้องรีบเปลี่ยนวิธีคิด หันมาสร้างความมั่งคั่งให้ตนเอง เริ่มด้วยการกำหนดเป้าหมายชีวิต เช่น ปีนี้จะออมเงินให้ได้เดือนละ 5,000 บาท หรือตั้งเป้าเก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท เพื่อเป็นเงินดาวน์ซื้อบ้านให้ได้ภายใน 3 ปี หรือลงทุนซื้อกองทุนรวมเพื่อการเกษียณ หรือกองทุนรวมหุ้นให้ได้ทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วก็ต้อง “วางแผนใช้จ่ายและบริหารหนี้สิน” เพื่อให้มี “เงินออม” ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้!!
ขั้นตอนต่อไปคือการ “ปกป้องความมั่งคั่ง” ให้อยู่กับเราไปนานๆ โดยบริหารจัดการความเสี่ยงกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น เกิดอุบัติเหตุ เจ็บไข้ได้ป่วย ดังนั้นจึงต้อง “วางแผนทำประกันภัย” เพื่อเป็นตัวช่วยบรรเทาความสูญเสียที่อาจจะมาทำลายความมั่งคั่งหรือเงินทองที่เราสะสมมาตลอดชีวิต
และที่สำคัญคือต้อง “วางแผนเกษียณ” เพื่อให้มีเงินพอใช้ในบั้นปลายชีวิตอย่างมีคุณภาพ ข้อนี้สำคัญมาก ต้องเริ่มลงมือตั้งแต่วันนี้อย่ามัวรอให้อายุมาก ไม่ว่าจะเป็นการสะสมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ขณะเดียวกันก็ต้อง “เพิ่มพูนความมั่งคั่ง” เพื่อให้เงินงอกเงยออกดอกผล เพราะการลงทุนเปรียบเสมือนทางด่วนสู่ความมั่งคั่ง การตั้งต้นออกตัวได้เร็วและเดินตามแผนจะช่วยให้ถึงเส้นชัยได้เร็วขึ้น
รวมทั้งยังต้อง “วางแผนภาษี” เพื่อช่วยลดภาระภาษีให้น้อยลง เมื่อเสียภาษีน้อยลง ก็จะมีเงินออมและเงินลงทุนมาเพิ่มความมั่งคั่งได้มากขึ้น ปัจจุบันมีช่องทางการออมการลงทุนหลายประเภทที่ให้สิทธิประโยชน์ภาษี ทั้งกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) หรือกองทุนรวม RMF หรือการทำประกันชีวิต เป็นต้น
และสุดท้ายคือการ “ส่งมอบความมั่งคั่ง” ให้กับลูกหลาน เป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการบริหารจัดการความมั่งคั่ง เพราะจะช่วยให้สิ่งที่เราสร้างและเก็บรักษามาตลอดชีวิตถูกจัดสรรให้แก่คนที่เรารัก หัวใจหลักของการส่งมอบความมั่งคั่งก็คือ “การวางแผนมรดก” ที่จะช่วยส่งผ่านความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้มั่นใจได้ว่าทรัพย์สมบัติจะถูกสืบทอดไปตามเจตนารมณ์ของเรา!!
ที่มา คอลัมน์ รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุนสู่ความมั่งคั่ง หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ