นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ล่าสุด บนทำเลทองย่านรังสิต-คลองหลวง ประกอบด้วยโครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ รังสิต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 117 ยูนิต ในราคา 5.69 – 7 ล้านบาท และโครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ รังสิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 250 ยูนิต ในราคา 2.6 – 3 ล้านบาท ซึ่งเน้นจำนวนยูนิตที่พอเหมาะในสังคมกำลังพอดี เพื่อให้ความส่วนตัวแก่ผู้พักอาศัย โดยมีแผนเปิดขายแก่ลูกค้าในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
สำหรับที่ตั้งทั้ง 2 โครงการอยู่ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, ตลาดไท ฯลฯ เช่นเดียวกับการเดินทางที่สามารถเดินทางเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนพหลโยธิน, ทางด่วน เชียงราก, คลองหลวง ตัดออกถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการใหม่นี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ 2 โครงการบ้านเดี่ยว “พรรณนา พุทธมณฑล สาย 3” และ “พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา” ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยทั้ง 2 โครงการได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นผลจากทำเลที่ตั้งโครงการที่สะดวก คอนเซ็ปต์รูปแบบบ้าน คุณภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า ตลอดจนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัท โดยเฉพาะโครงการพรรณนา พุทธมณฑล สาย 3 บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทลงทุนเองเป็นโครงการแรก ปัจจุบันสามารถปิดการขาย และการโอนกรรมสิทธิ์ไปให้ลูกบ้านแล้วกว่า 70% ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากรูปแบบ ดีไซน์บ้าน และคอนเซ็ปต์โครงการ ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้า ตลอดจนทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสถาบันการศึกษา, คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯ บวกกับการเดินทางสะดวกอยู่ใกล้กับจุดเชื่อมต่อถนนตัดใหม่ พรานนก พุทธมณฑล สาย 4 ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงสามแยกไฟฉาย กับถนนราชพฤกษ์, ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และ ถนนพุทธมณฑล สายน 1 – 4 ทำให้โครงการสามารถปิดการขายได้เร็วกกว่ากำหนดที่วางไว้
สำหรับโครงการพิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา บ้านเดี่ยวระดับราคา 6.7 – 8 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับปานกลาง ปัจจุบันสามารถขายได้แล้วกว่า 50 % ของเฟสที่เปิดขาย และได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ ไปบางส่วนแล้ว มาจากรูปแบบ ดีไซน์บ้านที่มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร รวมถึงคอนเซ็ปต์โครงการที่โดนใจกลับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย บวกกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ หัวใจสำคัญยังเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ ซึ่งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งสถาบันการศึกษา, คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯ การเดินทางสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนศรีนครินทร์, กิ่งแก้ว และบางนา – ตราด, เทพารักษ์
นายวิโรจน์ กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนในการหาที่ดินที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาอีก 2 ทำเล โดยที่ดินผืนแรกตั้งอยู่ในย่านทวีวัฒนา พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ราคา 15 -20 ล้านบาท แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ ธนบุรี, มหาวิทยาลัยมหิดล, เซ็นทรัลศาลายา ใกล้กับจุดเชื่อมต่อ ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และถนนบรมราชชนนี ส่วนที่ดินผืนที่ 2 ตั้งอยู่ในย่านศาลายา พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 50 – 70 ตารางวาขึ้นไป ราคา 5.5 – 7 ล้านบาท อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล, เซ็นทรัลศาลายา เดินทางสะดวก สามารถเข้าออกได้ทั้งถนนบรมราชชนนี และถนนกาญจนาภิเษก พร้อมเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช
สำหรับทิศทางในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ ซึ่งจากความสำเร็จและแผนงานต่างๆ ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้