กรมประมง โดย สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสมุทรสงคราม คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกรมประมง (FC) สมุทรสงคราม น.อ.อชิตะสิน กำมะณี รอง ศรชล.จว.สส. สภ.ลาดใหญ่ กอ.รมน.จว.สส. ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน เดินหน้าต่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ จัดกิจกรรมลงแขกลงคลองต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8/2567 ลงพื้นที่สำรวจความหนาแน่นปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำและจับปลาหมอคางดำ
นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกรมประมง (FC) สมุทรสงคราม หน่วยงานราชการภาคีที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการจับปลาหมอคางดำ ณ คลองลาดใหญ่ (บริเวณหน้าวัดลาดใหญ่) หมู่ที่ 11 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมแรงร่วมใจจับปลาหมอคางดำพร้อมทั้งบูรณาการทำงานร่วมศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสมุทรสงครามเพื่อศึกษาความหนาแน่นของปริมาณปลาในหมอคางดำในแหล่งน้ำเพื่อกำหนดแผนการจัดการปลาชนิดนี้อย่างเป็นระบบ และรวบรวมปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์โครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ของ ศพช.สมุทรสงครามดัดแปลงโครโมโซมปลาหมอคางดำ ทำให้เป็นหมัน แพร่พันธุ์ไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนแห กากชา รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ร่วมงาน จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) อีกด้วย
นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า กิจกรรมลงแขกลงคลอง เป็นหนึ่งในแนวทางการลดและควบคุมประชากรปลาหมอคางด ไม่ให้ทำลายสัตว์น้ำพื้นถิ่นในแหล่งน้ำสาธารณะ รวมถึงบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกร และเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนและเกษตรกรได้มาร่วมมือกันหยุดยั้งการแพร่พันธุ์ของปลาชนิดนี้ ทั้งนี้ สมุทรสงครามจัดกิจกรรม “ลงแขก-ลงคลอง” 7 ครั้งที่ผ่านมา สามารถจับปลาได้มากกว่า 3,300 กิโลกรัม มีการสนับสนุนปลานักล่า (ปลากะพงขาว) ให้กับกลุ่มเกษตรกรเครือข่าย จำนวน 8,000 ตัว เพื่อนำไปอนุบาลหรือเลี้ยงให้มีขนาดโตขึ้น มีความแข็งแรงสามารถไล่ล่าได้ดี จากนั้นนำมาวางแผนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อกำจัดปลาหมอคางดำร่วมกัน พร้อมทั้งติดตามประเมินผลอย่างจริงจัง
การจัดกิจกรรมลงแขก-ลงคลองในครั้งนี้ มีการดำเนินการใน 3 พื้นที่ ดังนี้
- บริเวณคลองย่อยคลองลาดใหญ่ (หน้าวัดลาดใหญ่) ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินการโดยสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกรมประมง (FC) สมุทรสงคราม หน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง สามารถจับสัตว์น้ำได้จำนวน 408.20 กิโลกรัม แบ่งเป็นปลาหมอคางดำ จำนวน 267.10 กิโลกรัม และปลากระบอก จำนวน 141.10 กิโลกรัม
- บริเวณคลองเลียบถนนเอกชัย ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินการโดย สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกรมประมง (FC) สมุทรสงคราม สามารถจับปลาหมอคางดำได้ 100 กิโลกรัม
- บริเวณคลองสาม ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินการโดยผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ตำบลบางแก้ว การดำเนินงานอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ประมง สามารถจับปลาหมอคางดำได้ จำนวน 6,240 กิโลกรัม.
รวมยอดการกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติจากกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ (30 สิงหาคม 2567) ทั้งสิ้น 6,607.10 กิโลกรัม และมีการนำปลาหมอคางดำที่ถูกกำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ 3 ช่องทาง คือ นำไปเป็นเหยื่อเลี้ยงปูทะเล นำไปเป็นอาหารเลี้ยงเป็ด และนำส่งโรงงานปลาป่น
นอกจากนี้ จังหวัดยังได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนเพื่อส่งเสริมให้มีการจับปลาหมอคางดำมากขึ้น ต่อเนื่องจากการดำเนินโครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ของการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งสำนักงานประมงสมุทรสงครามได้ดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำในพื้นที่ได้ครบตามโควต้าที่ได้รับการจัดสรรเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ ประมงสมุทรสงครามได้ประสานกับโรงงานปลาป่น บริษัท ศิริแสงอารำพี จำกัด ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขายปลาหมอคางดำทำปลาป่นในราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม (โดยผู้ขายได้ 12 บาท แพปลาได้ 3 บาท) แพปลาในจังหวัดสมุทรสงครามได้นำส่งปลาหมอคางดำเข้าโรงงานศิริแสงอารำพี ในระหว่างวันที่ 20-29 สิงหาคม 2567 แล้ว 53,070 กิโลกรัม
การแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้ปริมาณปลาในจังหวัดสมุทรสงครามลดลงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ประมงสมุทรสงคราม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันแจ้งเบาะแสการพบปลาหมอคางดำให้กับกรมประมง เพื่อจัดทีมไล่ล่าปลาหมอคางดำในครั้งถัดไป