ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TIPH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด TIPH มีมติจัดตั้ง บริษัท ทิพย ไอบี จำกัด หรือ TIP IB (TIP Insurance Business) เป็นบริษัทเรือธง (Flagship Company) แห่งใหม่ เพื่อประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจประกันภัย (Insurance Business) โดยจะซื้อบริษัทประกันภัย เพื่อจัดตั้งบริษัทประกันภัยดิจิทัล และบริษัทประกันภัยตะกาฟุล เต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย
โดย TIP IB จะมี TIPH ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ซึ่งแหล่งเงินทุนที่จะใช้สำหรับการลงทุนของ TIP IB ในอนาคต จะมาจากเงินเพิ่มทุนจาก TIP พร้อมเดินหน้าผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี
สำหรับบริษัทประกันภัยดิจิทัลแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นบริษัทประกันภัยดิจิทัล 100% ที่มีรูปแบบการทำธุรกิจแตกต่างจากรูปแบบของธุรกิจประกันภัยแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยจะขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านช่องทาง Digital Platform เท่านั้น และให้บริการแบบ High-Tech and Low-Touch โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนบุคคล (Personal Line) เป็นหลัก ซึ่งจะเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่าย ไม่มีความซับซ้อน และลูกค้าสามารถเลือกซื้อและออกแบบได้อย่างสะดวกสบายด้วยตนเองบนแพลตฟอร์มทันที รวมทั้งไม่ผ่านตัวแทนนายหน้าหรือคนกลาง ทำให้สามารถที่จะขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง
ขณะที่บริษัทประกันภัยตะกาฟุล ที่ TIP IB มีแผนที่จะตั้งขึ้นนั้น จะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามหลักทางศาสนาอิสลาม 100% แห่งแรกของประเทศไทย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ และให้บริการแก่พี่น้องชาวมุสลิมโดยเฉพาะ โดยมีเป้าหมายที่จะครองส่วนแบ่งการตลาดการประกันภัยให้กับพี่น้องมุสลิมสูงที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีบริษัทประกันภัยที่ดำเนินธุรกิจตามหลักทางศาสนาอิสลาม 100% อย่างแท้จริง ขณะที่ตลาดประกันภัยสำหรับพี่น้องชาวมุสลิมมีขนาดใหญ่มากในประเทศไทย โดยประเมินว่าอาจจะสูงถึง 11% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมในประเทศไทย
TIP IB ถือเป็นบริษัทเรือธง ลำดับที่ 2 ของ TIPH หลังจากที่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา TIPH ได้มีการจัดตั้งบริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด หรือ TIP ISB (TIP Insurance Supported Business) ขึ้น และ TIP ISB ได้เริ่มภาระกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการรวดเดียว 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์ จำกัด หรือ Amity และ บริษัท ดีพี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด หรือ DP Survey โดยที่ล่าสุดทั้ง 2 บริษัทได้เดินหน้าตามแผนธุรกิจที่ TIPH วางไว้แล้ว ภายใต้การขับเคลื่อนของผู้บริหารชุดใหม่ที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ TIPH ยังมีแผนที่จะตั้งบริษัทเรือธงแห่งใหม่ขึ้นอีก เพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย ที่มีโอกาสในการเติบโต และความสามารถในการทำกำไรสูง โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจเทคโนโลยี การเงิน และ สุขภาพ เป็นต้น
“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทลูกต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ TIP ISB (TIP Insurance Supported Business) และ TIP IB (TIP Insurance Business) นอกจากจะสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับวงการประกันภัยในประเทศไทยได้อย่างแน่นอนแล้ว จะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นของ TIPH ในระยะยาวได้ จากการที่บริษัทลูกทุกบริษัทภายใต้ TIPH มีเป้าหมายร่วมกันคือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี ภายใต้การบริหารงานของผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในธุรกิจนั้นๆ อย่างแท้จริง” ดร.สมพร กล่าว