การนั่งเรือเที่ยวคลอง ชมวิถีความเป็นอยู่ของผู้คนสองริมฟากฝั่ง เป็นการท่องเที่ยวอีกแบบที่หากมีโอกาสแล้ว ควรจะหาเวลามาสัมผัสการเดินทางท่องเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้ง รับรองว่าจะติดใจ เพราะเป็นการเดินทางที่ไม่ต้องเร่งรีบ ทอดเวลาและอารมณ์ไปกับนั่งเรือ เลาะไปตามคลองต่างๆ แวะขึ้นเที่ยวตามสถานที่สำคัญของแต่ละย่านพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น วัด ตลาดริมคลอง ด้วยแล้ว เชื่อได้ว่า จะเป็นวันเวลาแห่งความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว
“เกรียนพาเที่ยว” มีโอกาสได้ร่วมทริปนั่งเรือชมคลอง เส้นทางเจ้าพระยาสายเก่า รอบเกาะธนบุรี ของคุณ “อาณัติ ปลอดโปร่ง” โดยหาข้อมูลจากเพจ รักษ์คลองฝั่งธนฯ จริงๆแล้ว การนั่งเรือเที่ยวคลอง มีหลายเส้นทางให้เลือก และมีการจัดเที่ยวกันหลายกลุ่ม หลายเส้นทาง และจัดเป็นประจำทุกวันหยุดเสาร์และอาทิตย์
สำหรับการท่องเที่ยววันเดย์ทริปครั้งนี้ แอดมินเลือกเส้นทางนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไร ประกอบกับ แม้ว่าแอดฯ จะอยู่ในพื้นที่ย่านนี้มานาน แต่ก็ไม่เคยได้ลองสัมผัสการนั่งรือเที่ยวไปตามลำคลองมาก่อนเลย บางสถานที่ บางเส้นทาง ถึงแม้เราจะเคยสัญจร เดินทางไปมาแล้วทางรถยนต์ก็ตาม แต่ประสบการณ์การโดยสารเรือไปยังสถานที่เดียวกัน โดยใช้คลองเป็นเส้นทางสัญจร กลับมีสเน่ห์ และแตกต่างกันอย่างมาก
ตลอดการเดินทาง เวลานั่งเรือลอดใต้ผ่านสะพานที่เป็นทางรถยนต์ แอดฯ ก็จะนึกภาพตามว่า เป็นถนนเส้นนั้นเส้นนี้ที่เราเคยนั่งรถวิ่งบนสะพานข้ามคลอง หรือเวลากลับรถใต้สะพาน ก็จะมีแท่งปูนซิเมนต์ที่กั้นขวางทางคลอง ซึ่งเป็นเส้นทางล่องเรือที่เรากำลังเดินทางอยู่ตอนนี้นั่นเอง
เป็นการเปิดมุมมองเที่ยวอีกแบบให้กับชีวิตตัวเอง เปิดประสบการณ์ต่อสถานที่ เส้นทาง ในมุมมองแต่แตกต่างไปจากเดิม
ทริปครั้งนี้ เราขึ้นเรือกันที่ท่าเรือในวัดใหม่ยายนุ้ย ย่านวุฒากาศ ใช้เรือแท็กซี่ ซึ่งเป็นเรือพื้นบ้าน ลักษณะหัวเรือแบนกว้าง เชิดขึ้นเล็กน้อย ท้องเรือกลม มีเก๋งคลุมกลางลำเว้นดาดฟ้า หัว-ท้าย ทราบว่า เรือแท็กซี่ที่ใช้งานอยู่ปัจจุบัน ทุกลำต่างมีอายุการใช้งานนานหลายสิบปี และต้องผ่านการปรับปรุง ซ่อมแซม มาตลอดระยะเวลาใช้งาน
เส้นทางล่องเรือจากจุดเริ่มต้นจะแล่นเรือไปตามคลองบางกอกใหญ่ ผ่านบริเวณวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และวัดขุนจันทร์ ทำให้เห็นภาพความงานของด้านหลังองค์พระใหญ่ของสองวัด ตั้งอยู่คนฟากฝั่งคลอง เป็นจุดที่เราจะเห็นเรือท่องเที่ยว ชะลอและหยุดเรือเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเก็บภาพความงดงามนี้
จากนั้นเรือแท็กซี่พาเราล่องผ่านบ้านศิลปิน คลองบางหลวง มุ่งหน้าต่อไปตามลำคลอง ชะลอความเร็วเรือลงตอนแผ่นผ่านแยกคลองชักพระ ตลอดทางเราจะได้เห็นภาพบ้านที่อยู่ของผู้คนตามริมคลอง บ้างก็ผุพังไปตามกาลเวลา บ้างก็ปรับปรุงสวยงามน่าอยู่
แล้วก็มาถึงจุดแวะที่แรก คือ วัดเกาะ ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่โอบล้อมไปด้วยคลอง ไม่มีทางรถยนต์ไปถึงวัดได้ หากนำรถมาก็ต้องไปจอดที่วัดใกล้เคียงอย่างวัดปากน้ำฝั่งใต้ แล้วเดินเข้ามา เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่บนจุดบรรจบของคลองบางน้อยกับคลองบางเชือกหนัง จึงทำให้ดูเหมือนว่าวัดนี้ตั้งอยู่บนเกาะ และเป็นที่มาของชื่อวัดเกาะ แวะไหว้สักการะหลวงพ่อดำ และชมความงามของจิตรกรรมฝาผนังที่เป็นแบบกราฟฟิตี้ ฝีมือของศิลปินชาวฝรั่งเศส เล่ากันว่า ศิลปินคนนี้ ขออนุญาตกับวัดหลายแห่งเพื่อวาดภาพบนฝาผนัง แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต จนกระทั่งมาถึงวัดเกาะ และเจ้าอาวาสสมัยนั้นอนุญาตให้วาดกราฟฟิตี้บนผนังโบสถ์ของวัดได้
จากนั้นเราเดินทางต่อโดยย้อนกลับมาเส้นทางคลองเดิม เพืื่อแวะเติมพลัง ทานมื้อกลางวันที่ตลาดน้ำวัดตลิ่งชัน พร้อมกับชมหน้าบันศาลาการเปรียญ ที่ทำเป็นรูปเทวดาเทินพานรัฐธรรมนูญ สร้างขึ้นสมัยคณะราษฎร
หลังจากนั้น เราล่องเรือต่อไปยังคลองบางระมาด เพื่อไปตามหาจระเข้บนหลังคาวัดจำปา ก่อนถึงวัดจำปา เราจะผ่านชุมชนเกาะศาลเจ้า และศาลเจ้าพ่อจุ้ย ซึ่งมีเรื่องเล่านมนานว่า ใต้ศาลเจ้าจะมีโพรงใต้น้ำเป็นที่อาศัยของจระเข้ จึงเป็นที่มาของรูปปั้นจระเข้ในศาล และจระเข้บนหลังคาในวัดจำปาแห่งนี้
คลองบางหลวง 
วัดกำแพงบางจาก
เสร็จจากภารกิจตามหาจระเข้เรียบร้อยแล้ว คณะเดินทางนั่งเรือย้อนกลับมายังเส้นทางเดิม เพื่อแวะที่วัดกำแพงบางจาก ดูการแสดงหุ่นเชิด พร้อมกับเดินชมความเป็นอยู่ของวิถีชาวบ้านริมคลองบางระมาด จากจุดนี้สามารถเดินเลียบไปตามแนวคลองข้ามสะพานไปยังบ้านศิลปิน สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิกอีกแห่ง
ก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเรือเพื่อเดินทางกลับไปยังท่าเรือวัดใหม่ยายนุ้ย เป็นอันจบทริปนั่งเรือชมคลอง 1 วันที่แสนสงบ เหมาะสำหรับช่วงอากาศปลายปีที่อากาศกำลังเย็นสบาย อยากแนะนำให้ลองมานั่งเรือเที่ยวคลองแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ กันครับ ใครสนใจอยากลองนั่งเรือเที่ยวคลองฝั่งธนฯ แบบสโลว์ไลฟ์ ลองติดต่อ สอบถามรายละเอียดกับทางคุณอาณัติได้เลยที่ไลน์ https://line.me/ti/p/L261IH1nbf
