ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม ASEAN Exchanges CEOs Meeting ครั้งที่ 36 โดยตลาดหลักทรัพย์อาเซียนทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย ร่วมกำหนดตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติในระดับสากล รวมถึงหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้าน ESG ในภูมิภาคเพิ่มเติม เพื่อยกระดับตลาดหลักทรัพย์อาเซียนและการลงทุนที่ยั่งยืน เมื่อ 8 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นเจ้าภาพการประชุม ASEAN Exchanges CEOs Meeting ครั้งที่ 36 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 ระหว่างตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 6 แห่ง จาก 6 ประเทศ เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันในด้านต่างๆ อาทิ การขับเคลื่อนความยั่งยืน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงระหว่างกัน เพื่อขยายโอกาสการลงทุน พร้อมยกระดับตลาดหลักทรัพย์อาเซียนและการลงทุนที่ยั่งยืน
“จากการเติบโตของภูมิภาค ตลาดหลักทรัพย์อาเซียนมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสการลงทุนต่อเนื่อง โดยในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์อาเซียนได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงระหว่างกัน (cross-border products) รวมถึงการขยายการรับรู้ถึงศักยภาพของตลาดหลักทรัพย์อาเซียนแก่ผู้ลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ประเด็นด้าน ESG ยังเข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ตลาดหลักทรัพย์อาเซียนจึงได้จัดทำตัวชี้วัดร่วม เพื่อเป็นแนวทางให้บริษัทจดทะเบียนได้เปิดเผยข้อมูล และให้ผู้ลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูล พร้อมช่วยส่งเสริมการไหลเข้าของเงินทุนสู่ภูมิภาค” นายภากรกล่าว
ในการประชุม ตลาดหลักทรัพย์อาเซียนได้ร่วมกำหนด 10 ตัวชี้วัดด้านบรรษัทภิบาล (Governance) เพิ่มเติมจากการประชุมก่อนหน้านี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์อาเซียนได้ประกาศตัวชี้วัดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) และสังคม (Social) ไปแล้ว เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แต่ละแห่งนำไปใช้เป็นแนวปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาเซียน โดยส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ครอบคลุมหัวข้อที่มีความสำคัญ เป็นการสนับสนุนการลงทุนอย่างยั่งยืนในภูมิภาค และสอดคล้องกับเทรนด์สากลที่ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประชุมครั้งนี้ทำให้มีการกำหนดตัวชี้วัดครบถ้วนทั้ง 3 มิติของ ESG ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ
สำหรับ 10 ตัวชี้วัดด้านบรรษัทภิบาลที่กำหนดร่วมกันในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่
ลำดับที่ | ประเด็นด้านบรรษัทภิบาล | ตัวชี้วัด |
1 | ความหลากหลายของคณะกรรมการ | ร้อยละของจำนวนกรรมการชายและกรรมการหญิง |
2 | ความเป็นอิสระของคณะกรรมการ | ร้อยละของจำนวนกรรมการอิสระ |
3 | ความเป็นอิสระของคณะกรรมการ | ประธานกรรมการและผู้บริหารสูงสุดไม่เป็นบุคคลเดียวกัน (ใช่/ไม่ใช่) |
4 | การเลือกตั้งกรรมการใหม่และกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งกลับมาใหม่ | หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกกรรมการใหม่ (มี/ไม่มี) |
5 | การประชุมคณะกรรมการ | ร้อยละการเข้าประชุมคณะกรรมการของกรรมการแต่ละคนในรอบปี |
6 | การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำปีของคณะกรรมการ | การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการและการเปิดเผยหลักเกณฑ์และกระบวนการจัดการภายหลังประเมิน (มี/ไม่มี) |
7 | การพัฒนาและอบรมคณะกรรมการ | นโยบายบริษัทเกี่ยวกับการส่งเสริมให้กรรมการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง (มี/ไม่มี) |
8 | จริยธรรมธุรกิจ | การเปิดเผยรายละเอียดจริยธรรมธุรกิจและ/หรือคู่มือจรรยาบรรณ (มี/ไม่มี) |
9 | การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน | นโยบายบริษัทเกี่ยวกับการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในของกรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน (มี/ไม่มี) |
10 | การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน | นโยบายบริษัทเกี่ยวกับการรายงานการมีส่วนได้เสียและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของกรรมการ (มี/ไม่มี) |
การประชุม ASEAN Exchanges CEOs Meeting ร่วมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 6 แห่ง จาก 6 ประเทศ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย (Bursa Malaysia) ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (Indonesia Stock Exchange) ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ (Philippine Stock Exchange) ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange Group) ตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม (Vietnam Exchange) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand) นอกจากนี้ ยังมีตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (Cambodia Stock Exchange) และ ตลาดหลักทรัพย์ลาว (Lao Securities Exchange) เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลตลาดหลักทรัพย์อาเซียน ข้อมูลการซื้อขาย บริษัทจดทะเบียน ได้ที่ www.aseanexchanges.org