นายมนัส อรุณวัฒนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา การไฟฟ้านครหลวง (MEA) เปิดเผยว่า MEA ได้ดำเนินการตามแผนงานด้านพลังงานของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย และพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ดำเนินนโยบายในด้านรถไฟฟ้า (EV) มาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้ร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เพิ่มจุดติดตั้ง MEA EV Charging Station บริเวณร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จำนวน 2 แห่ง ให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คือ 7-Eleven สาขาบ้านสวนลาซาล (ศรีนครินทร์) และ สาขา สน.บางขุนนนท์ เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้ขับขี่รถ EV ในพื้นที่ ซึ่งมีสถานที่สำคัญทั้งโรงพยาบาล ชุมชน และหน่วยงานราชการ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563
สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MEA เป็นรูปแบบ Normal Charger ขนาด 22 kW หัวชาร์จ Type 2 โดยผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นการชาร์จได้ผ่านการสแกน QR Code ที่จุดติดตั้งผ่านแอปพลิเคชัน MEA EV ได้ทันที สำหรับแอปพลิเคชัน MEA EV มีฟังก์ชันที่โดดเด่นโดยสามารถตรวจสอบสถานีชาร์จ สั่งจองหัวชาร์จ พร้อมแสดงเส้นทางนำทางไปยังสถานีชาร์จด้วยระบบแผนที่ GIS ของ MEA และสั่ง เริ่ม-หยุด การชาร์จ แสดงปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ชาร์จ ชำระค่าชาร์จ ดูประวัติการชาร์จ และแสดงผลการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน MEA EV Application รองรับการใช้งานกับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MEA ที่มีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ทั้ง 13 แห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงยังสามารถใช้งานกับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอกชนทั่วประเทศไทย เช่น บริษัท EA Anywhere (EA) และสถานีทั้งหมดที่ลงทะเบียนกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) นอกจากนี้ MEA มีการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า 22 kW จำนวน 50 เครื่องฟรี เชื่อมต่อระบบบริหารจัดการเครื่องอัดจุไฟฟ้าอัจฉริยะพร้อม Platform วิเคราะห์ข้อมูลการชาร์จ พร้อมเชื่อมต่อกับ MEA EV Application ในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ สมุทรปราการ เพื่ออำนวยความสะดวกแกผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้สนใจ สามารถ Download “MEA EV” Application “แอปเดียวจบ ครบทุกเรื่องควบคุมจัดการยานยนต์ไฟฟ้า” ได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้แล้ววันนี้ที่ https://goo.gl/F6C5bV