2 สัปดาห์ที่แล้ว เราพูดถึงเส้นทางหลีกหนีจากความจน ด้วยคาถา “ออมก่อนใช้ ” และ “จดแก้จน” ที่ให้พวกเรากลับมาหัดจดรายรับ-รายจ่าย ที่เกิดขึ้นทุกวัน
เพื่อให้รู้นิสัยหรือพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเอง เห็นว่ามี “รูรั่ว” มีการใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็น เพื่อกลับมาทบทวนและ “อุดรูรั่ว” ได้อย่างถูกจุด!!
หลายคนบอกว่า จะให้ออมได้ยังไง รายได้ทุกวันนี้ยังไม่พอกินพอใช้เลย..!!
อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ.. เชื่อมั้ยว่า “คุณนายพารวย” เคยสัมภาษณ์พนักงานเงินเดือนคนนึง ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว เงินเดือนหมื่นกว่า แต่เป็นหนี้เกือบครึ่งล้าน ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ หนี้ที่หยิบยืมเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง โดนเจ้าหนี้รุมเร้าทวงหนี้จนถึงขั้นหนีตายเพื่อหนีชีวิตหนี้!!
แต่ดวงยังไม่ถึงฆาต และโชคดีมีเจ้านายดี ที่รับรู้ปัญหาและนำพาให้เขาเข้าโครงการ Happy Money Happy Retirement ที่บริษัทได้เข้าร่วมโครงการนี้กับตลาดหลักทรัพย์
ที่มีเป้าหมายช่วยแก้ปัญหาลูกจ้างรายวัน มนุษย์รายได้เดือนชนเดือน ให้มีโอกาสเข้าถึงความรู้และเครื่องมือ ในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล เพื่อให้มีหนทางในการปลดแอกจากชีวิตหนี้ มีเงินเก็บออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และมีเงินลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ให้ตัวเองและครอบครัวในยามชรา โดยมีเทรนเนอร์เข้าไปให้คำแนะนำ และช่วยวางแผนปลดหนี้ให้
ซึ่งการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย หรือ “จดแก้จน” นี้ ทำให้พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า รายจ่ายของคนหาเช้ากินค่ำ มักมีค่าใช้จ่าย ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และตัดทิ้งได้ทันที เช่น เงินค่าซื้อหวย(ทั้งหวยบนดินและใต้ดิน) ค่าเหล้าเบียร์-บุหรี่-เครื่องดื่มชูกำลัง คนที่มีรายได้ขยับขึ้นมาอีกหน่อย รายจ่ายฟุ่มเฟือยที่เพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ก็คือ เสื้อผ้า-กระเป๋า-รองเท้า ที่มีเต็มตู้แล้วก็ยังซื้อแล้วซื้ออีก
เช่นเดียวกับคุณพี่มนุษย์เงินเดือนท่านนี้ เมื่อต้องลงมือจดรายรับรายจ่ายก็พบว่า ต้นตอของปัญหา ที่นำพามาสู่ “ชีวิตลูกหนี้” คือซื้อหวยทุกงวด แถมชอบเล่นพนันบอล สุดสัปดาห์ต้องคลายเครียดกินเบียร์กับเพื่อนร่วมงาน!!
เมื่อพบรูรั่ว และต้องตัดใจ ลด-ละ-เลิก ต้นเหตุแห่งความจนได้แล้ว จึงมีเงินทยอยปลดหนี้ โดยเริ่มจากภาระหนี้ที่หนักหนาที่สุดก่อนคือ หนี้นอกระบบดอกเบี้ยแสนโหดร้อยละ10-20% ต่อเดือน ตามด้วยหนี้บัตรเครดิต แต่ยังไม่เพียงพอที่จะปลดหนี้ให้ได้ทันใจ ขณะที่รายจ่ายที่มีล้วนจำเป็น ปรับลดไม่ได้แล้ว
ทางออกก็คือต้องเพิ่มฝั่งรายรับ เขาจึงเริ่มมองหารายได้พิเศษ เขากลับมาหาของใช้ในบ้านที่ซื้อไว้แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือมีเกินจำเป็น แล้วนำออกมาขายแปลงเพื่อเป็นเงินสด!!
หลังจากนั้นในทุกวันหยุด เขากลายเป็นพ่อค้ามือสองที่นำของจากเพื่อนร่วมงานมาขายที่ตลาดนัด และมองหาสินค้าจากแหล่งอื่นๆมาขายร่วมด้วย
สุดท้ายสามารถปลดหนี้ได้ และเริ่มมีเงินออมก้อนแรกในชีวิต โดยเริ่มจากกันเงินออมเพื่อไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินให้ได้ 6เดือนของรายจ่ายแต่ละเดือน และออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่ม จากอดีตไม่ได้ให้ความสำคัญ จึงออมแค่2%ของเงินเดือน เพิ่มเป็น 5 และ 10% โดยตั้งเป้าออมเต็มแม็กที่ 15%
ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ แต่ไม่ยากถ้ามีความมุ่งมั่นตั้งใจ ท่องไว้ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ ช่วงนี้ค้าขายออนไลน์กำลังรุ่งเรือง ลองดูลู่ทาง ว่าเราจะโดดไปหยิบจับเงินที่กำลังสะพัดในตลาดนี้ได้อย่างไร เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเงินในกระเป๋า ลุยลุยลุย!!!
ที่มา คอลัมน์ รู้เก็บรู้ออม รู้ใช้รู้ลงทุน…สู่ความมั่งคั่ง โดย คุณนายพารวย ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ