นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมีความห่วงใยประชาชนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงได้พัฒนาบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง ซึ่งปัจจุบันรองรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้ทุกอายุการใช้งาน และสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ก่อนวันที่ภาษีรถสิ้นอายุ โดยกรณีเป็นรถที่ค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจและมีผล “ผ่าน” การตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนดำเนินการชำระภาษีรถผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax สามารถเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน
ส่วนการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีช่องทางอื่นๆ ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปกตินั้น กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเข้มงวด ทั้งที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น แอปพลิเคชัน Truemoney Wallet mPAY ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
สำหรับสถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร เดือนมีนาคม 2564 มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น 623,945 คัน จำแนกเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 มากที่สุด จำนวน 485,475 คัน รองลงมาคือการใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 72,103 คัน ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ จำนวน 40,468 คัน ในส่วนของบริการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,802 คัน และบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,891 คัน นอกจากนี้ ยังมีบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านหน่วยงานเครือข่าย อาทิ เคาน์เตอร์เซอร์วิสมีผู้ใช้บริการจำนวน 11,851 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,469 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 659 คัน และผ่านธนาคารที่ร่วมโครงการ จำนวน 1 คัน ทั้งนี้ สำหรับเจ้าของรถที่ต้องการหยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือรถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ทุกกรณี ขอให้แจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ เพื่อไม่ให้มีภาระต้องชำระภาษีประจำปี หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1584