ในยุคที่มิจฉาชีพออนไลน์ระบาดหนัก กลโกงไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนแปลกหน้าอีกต่อไป แต่กลับแฝงตัวอยู่ในคราบของ “เพื่อน” หรือคนรู้จักที่เราไว้ใจ บทความนี้จะชวนคุณมาเจาะลึกพฤติกรรมของ “เพื่อน” ที่มีรูปแบบไม่ต่างจากมิจฉาชีพ พร้อมเสนอแนวทางป้องกันและวิธีเยียวยาจิตใจหากตัวเองตกเป็นเหยื่อ
🎭 พฤติกรรมเพื่อนที่ “ร้าย” ไม่ต่างจากมิจฉาชีพ
เพื่อนที่ใช้ความสัมพันธ์มาหลอกลวง มักอาศัย “ความไว้ใจ” และ “ความเกรงใจ” เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ ซึ่งคล้ายคลึงกับกลโกงทางออนไลน์หลายรูปแบบ
1. กลโกงลงทุน (Investment Scams) ในหมู่เพื่อน
พฤติกรรมที่พบบ่อยคือการชักชวนลงทุนในธุรกิจที่ฟังดูดีเกินจริง หรือให้ผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น (คล้ายแชร์ลูกโซ่)
- กรณีตัวอย่าง: เพื่อนสนิทสมัยเรียนชวนลงทุน “ธุรกิจนำเข้าสินค้า” หรือ “เทรดหุ้นลับเฉพาะ” โดยอ้างว่าได้ผลตอบแทนดีมากในช่วงแรก ทำให้คุณตัดสินใจลงเงินก้อนใหญ่ สุดท้ายธุรกิจล้มเหลว (หรือไม่มีอยู่จริง) และเพื่อนก็บ่ายเบี่ยงการคืนเงิน หรือขาดการติดต่อไปในที่สุด (อ้างอิงจากกรณีเพื่อนหลอกลงทุนมูลค่าหลายสิบล้าน)
- รูปแบบมิจฉาชีพ: ใช้ความโลภเป็นแรงจูงใจ เสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง (“อะไรที่ฟังดูดีเกินไป มักจะไม่จริง” – หลักการป้องกันภัยทางการเงิน)
2. กลโกงยืมเงินด้วยเรื่องฉุกเฉิน (Emergency Fund Scams)
เพื่อนที่เข้ามาพร้อมเรื่องราวชีวิตสุดรันทด หรือปัญหาเร่งด่วนที่ต้องการเงินก้อนอย่างกะทันหัน
- กรณีตัวอย่าง: เพื่อนโทรมาขอความช่วยเหลือด่วน อ้างว่าพ่อ/แม่ป่วยหนัก ต้องใช้เงินผ่าตัด หรือรถมีอุบัติเหตุร้ายแรง โดยให้สัญญาทั้งน้ำตาว่าจะคืนให้เร็วที่สุด เมื่อให้ยืมไปแล้ว กลับไม่คืนตามกำหนด ผัดผ่อนไปเรื่อย ๆ หรือถึงขั้นเปลี่ยนเบอร์หนี
- รูปแบบมิจฉาชีพ: ใช้การเร้าอารมณ์ (Emotional Manipulation) ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ และความรีบเร่งในการตัดสินใจโอนเงิน โดยไม่ทันได้ตรวจสอบ
3. กลโกงการใช้บัญชี (Mule Accounts)
แม้จะไม่ได้ตั้งใจโกงโดยตรง แต่การยืมบัญชีไปทำธุรกรรมก็อันตรายไม่แพ้กัน
- กรณีตัวอย่าง: เพื่อนขอ “ยืมบัญชีธนาคาร” อ้างว่าบัญชีตัวเองมีปัญหา หรือต้องการรับโอนเงินจากต่างประเทศ เมื่อคุณให้ไป บัญชีนั้นอาจถูกนำไปใช้เป็น “บัญชีม้า” ในการรับโอนเงินจากการฉ้อโกงผู้อื่น ซึ่งทำให้คุณมีความผิดทางกฎหมายและถูกอายัดบัญชีได้ (อ้างอิงจากกรณีถูกหลอกให้ใช้บัญชี)
🛡️ วิธีป้องกัน: เปลี่ยนความไว้ใจให้เป็นความรอบคอบ
เมื่อต้องเกี่ยวข้องกับการเงินกับเพื่อนหรือคนสนิท ควรมีสติและใช้ความรอบคอบไม่ต่างจากการติดต่อกับคนแปลกหน้า
- ตั้งสติและตั้งคำถาม:อย่าให้ “ความเกรงใจ” นำหน้า “สติ” หากเพื่อนชวนลงทุนหรือขอยืมเงินก้อนใหญ่ ให้ถามตัวเองว่า:
- ข้อเสนอนี้สมเหตุสมผลหรือไม่? (ผลตอบแทนสูงเกินไปไหม?)
- เราสามารถเสียเงินก้อนนี้ได้จริงหรือไม่? (อย่าเป็นพ่อพระแม่พระ กู้ยืมเงินมาให้เพื่อนยืมเด็ดขาด)
- เพื่อนคนนี้มีประวัติทางการเงินอย่างไร? (เช็คประวัติว่า เพื่อนเรามีปัญหาเรื่องการเงินมาก่อนหรือไม่)
- ตรวจสอบข้อมูลเสมอ: หากเป็นการลงทุน ให้ขอเอกสารรายละเอียดทางธุรกิจที่ชัดเจน หรือตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น กลต. หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า) หากเป็นการยืมเงิน ให้ระบุวงเงิน วันที่คืน และทำ “สัญญาเงินกู้” หรือหลักฐานการโอนที่ชัดเจน แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม
- หลีกเลี่ยงการใช้บัญชีแทนกัน: ห้ามให้ บัญชีธนาคาร บัตรประชาชน หรือข้อมูลส่วนตัวไปทำธุรกรรมแทนผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพราะอาจถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้าโดยที่คุณไม่รู้ตัว
- ปรึกษาบุคคลที่สาม: หากรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่แน่ใจในข้อเสนอทางการเงินของเพื่อน ให้ลองปรึกษาสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ไว้ใจ เพื่อรับมุมมองจากภายนอก
🩹 วิธีเยียวยาตัวเอง: เมื่อความเชื่อใจถูกทำลาย
การถูกเพื่อนสนิทโกงเงิน เป็นบาดแผลทางใจที่ลึกซึ้งกว่าการถูกมิจฉาชีพที่ไม่รู้จักโกง เพราะเป็นการสูญเสียทั้งเงินและความสัมพันธ์
1. การดำเนินการทางกฎหมายและทรัพย์สิน
- รวบรวมหลักฐาน: เก็บหลักฐานการโอนเงิน บทสนทนา สัญญาเงินกู้ (ถ้ามี) และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
- แจ้งความดำเนินคดี: หากแน่ใจว่าถูกฉ้อโกง ให้ดำเนินการแจ้งความและปรึกษาทนายความเพื่อฟ้องร้องในคดีอาญา/แพ่ง เพื่อรักษาสิทธิ์ในการได้เงินคืน
- ยอมรับความจริง: ทำใจยอมรับว่าโอกาสได้เงินคืนอาจมีน้อย เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อได้โดยไม่ต้องจมอยู่กับความหวังที่ริบหรี่
2. การเยียวยาจิตใจ (Self-Healing)
- ให้เวลาตัวเองเสียใจ: ความรู้สึกโกรธ ผิดหวัง และเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติ อนุญาตให้ตัวเองได้แสดงความรู้สึกออกมา อย่าเก็บกดไว้
- แยกแยะความผิด: อย่าโทษตัวเองว่า “โง่” หรือ “ไม่ระวัง” แต่ให้มองว่า “ความไว้ใจ” คือสิ่งที่สวยงาม แต่ถูกคนร้ายนำไปใช้ประโยชน์ จงเรียนรู้จากบทเรียนนี้
- จำกัดการติดต่อ: ตัดขาดจากเพื่อนคนนั้นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกหลอกซ้ำหรือถูกปั่นหัวทางอารมณ์
- เชื่อมต่อกับกลุ่มสนับสนุน: พูดคุยกับครอบครัว หรือเพื่อนคนอื่นที่เข้าใจ เพื่อระบายความทุกข์ การได้แบ่งปันประสบการณ์สามารถช่วยให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว
- มูฟออนกับเป้าหมายชีวิตใหม่ : โฟกัสกับการสร้างความมั่นคงทางการเงินและจิตใจขึ้นมาใหม่ ใช้พลังงานไปกับสิ่งที่คุณควบคุมได้ เช่น การทำงาน การดูแลสุขภาพ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่ไว้ใจได้จริง
จงจำไว้ว่า “ความไว้ใจ” ควรมาพร้อมกับ ความรอบคอบ การมีสติ และ หลักฐานที่ชัดเจนในการทำธุรกรรมทางการเงินกับทุกคน คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดในยุคสมัยนี้
ใครที่มีเพื่อนที่ดี จงรักษามิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไว้ อย่าคิดหาประโยชน์จากความเป็นเพื่อน เพราะเมื่อไรที่มีคำว่า ผลประโยชน์ เข้ามาเอี่ยวเมื่อไร มิตรภาพไม่่ว่าจะเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ แก๊งเทวดานางฟ้า คนเดินดิน ก็แตกได้หมด แบบสลายไม่มีชิ้นดีด้วย เพราะหากเจอคนใกล้ตัวทำเราเจ็บ มันจะทั้งเจ็บ ทั้งแค้น หลายเท่า







