นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในงานเปิดตัว หมูชีวา แบรนด์ ยูฟาร์ม ว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายนำภาคเกษตรสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งหากนำเกษตรกรไปสู่จุดนั้นได้ ประเทศจะเข้มแข็ง ทั้งสังคมและเศรษฐกิจ ตัดปัญหารายได้น้อยของคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ทันที
ในสถานการณ์โควิด-19 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าโลกต้องการอาหารปลอดภัย และการฟื้นตัวของภาคธุรกิจในหลายประเทศต้องใช้เวลานานมาก ไทยต้องพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสให้ได้ และภาคเกษตรมีความสำคัญมากในการพลิกฟื้นประเทศ ใครฟื้นเร็วกว่าคือได้เปรียบ เป็นโอกาสของธุรกิจ และของประเทศ
กระทรวงเกษตร พร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อสร้างรากฐานให้สังคมไทย ถ้าเกษตรกรเข้มแข็ง ชาติเข้มแข็ง เศรษฐกิจเข้มแข็ง และไทยจะเป็นผู้นำจากการผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพ เมื่อผลิตได้แล้ว และทำการเผื่อแผ่ไปสู่เกษตรกร ก็จะสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ
ทั้งนี้ ความมั่นคงทางอาหารเป็นนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ โดยจะร่วมมือกับเอกชนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ออกมา ไม่เพียงรองรับความต้องการของผู้บริโภค แต่เพื่อผลักดันการส่งออกด้วย โดยผลิตภัณฑ์หมูชีวา เป็นสินค้าที่มีความสำคัญที่สามารถทำรายได้ให้ประเทศ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย เชื่อว่าไทยจะต้องติดอันดับผู้ส่งออกอาหารของโลก จากอันดับ 12 เป็น Top Ten ได้ในปีหน้า
ด้าน น.สพ. สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่ากรมฯ มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องสุขภาพสัตว์ให้ปลอดโรค การส่งเสริมการผลิตของเกษตรกรรายย่อย และการผลิตอาหารปลอดภัยซึ่งเป็นเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค ที่กรมฯให้ความสำคัญมากขณะนี้
สำหรับหมูชีวา เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต และเป็นผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกทุกองค์ประกอบเป็นอย่างดี เพื่อสุขภาพและเป็นการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ทั้งยังได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ ‘ปศุสัตว์ OK’ นั่นหมายความว่าเป็นเนื้อหมูที่มาจากสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์มมาตรฐาน GAP แปรรูปจากโรงงานแปรรูปที่ได้รับใบอนุญาตและคุณภาพจากกรมฯ สถานที่จำหน่ายถูกสุขลักษณะและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งมั่นผลักดันมูลค่าการส่งออกปศุสัตว์ไทยสู่เป้าหมาย 2 แสนล้านบาท ในปี 2563 ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคปศุสัตว์ 5.6% ในปีนี้ จากการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์