ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ภัยแล้งยังคุกคามในหลายพื้นที่ของประเทศ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาบ้างในระยะนี้ แต่ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์น้อย
กรมชลประทานจึงจัดส่งรถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
- จ.พิจิตร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าบัว ได้ส่งน้ำเข้าไปช่วยเหลือสวนผลไม้ริมคลองข้าวตอก ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยระบายน้ำจากคลองส่งน้ำ C.1 ลงคลองข้าวตอก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกประมาณ 18 กิโลเมตร น้ำจะถึงพื้นที่เป้าหมายในระยะต่อไป และ จ. อ่างทอง โครงการชลประทานอ่างทอง ได้นำรถบรรทุกน้ำเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ตำบลองครักษ์ อำเภอโพธิ์ทอง ช่วยบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้ง
- จ.ฉะเชิงเทรา สำนักงานชลประทานที่ 9 นำเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ไปติดตั้งที่ท่าสูบ หมู่ 3 ตำบลเมืองใหม่ อำเภอราชสาส์น โดยทำการสูบน้ำจากคลองท่าลาดเข้าสู่คลองย่อย ให้ความช่วยเหลือปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่การเกษตร ในเขตโครงการชลประทานฉะเชิงเทรา
- จ.ประจวบคีรีขันธ์ โครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ นำรถบรรทุกน้ำเข้าช่วยเหลือชาวบ้านชาวบ้าน หมู่ 8 บ้านคลองลอย ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และใช้ในการอุปโภคบริโภค จำนวน 10 เที่ยว ปริมาณน้ำรวมกว่า 60,000 ลิตร
- จ.สงขลา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด-กระแสสินธุ์ สำนักงานชลประทานที่ 16 ส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกร บริเวณคลองซอย 4L – MC ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร พร้อมวางแนวทางแก้ไขปัญหาการส่งน้ำในจุดที่ขาดแคลนเพิ่มเติม
กรมชลประทาน ยังคงให้การช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ฤดูฝนปกติ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ จึงขอให้ร่วมใจกันประหยัดน้ำและใช้น้ำอย่างคุ้มค่าที่สุดด้วย
และ หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือเรื่องน้ำ สามารถประสานไปยังโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460