เครือซีพี คว้ารางวัล “บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก” จากสถาบัน Ethisphere

รายงานข่าว เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร  เข้าร่วมรับโล่เกียรติยศ “ World’s Most Ethical Companies 2021” หรือ “บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2564” จาก Ethisphere สถาบันระดับโลกในด้านการประเมินมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม  ในงาน Virtual WME  Honoree Gala  2021   หลังจากที่ได้ประกาศผลการคัดเลือกบริษัทที่จริยธรรมมากที่สุดในโลกไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้โดยมีผู้บริหารระดับสูงบริษัทชั้นนำใน 22 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน อาทิ  Kellogg, LinkedIn, Sony, L’OREAL, Microsoft, PepsiCo, Prudential เป็นต้น ซึ่งในปีนี้เป็นการจัดงาน Virtual ออนไลน์ครั้งแรก ในรูปแบบ Private Viewing Party เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด- 19  ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งแสดงความยินดีและสัมผัสประสบการณ์การรับชมงานระดับโลก

นายศุภชัย กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินธุรกิจเติบโตมาหนึ่งศตวรรษมีพนักงานกว่า 4 แสนคนทั่วโลก ด้วยการยึดมั่นในหลักจริยธรรมและปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการของเครือฯ ไปพร้อมกับการยืดหลักค่านิยมองค์กรเป็นเข็มทิศสำคัญในการทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรม  ได้แก่ “ปรัชญา 3 ประโยชน์” คือ การดำเนินธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องเกิดประโยชน์ต่อทุกประเทศที่เข้าไปลงทุน  รวมถึงประชาชนในประเทศต้องได้ประโยชน์  และสุดท้ายบริษัทก็จะได้รับประโยชน์  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเครือฯ เติบโตได้อย่างยั่งยืน  นอกจากนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังยึดมั่นในค่านิยม “ซื่อสัตย์และมีคุณธรรม” ซึ่งถือเป็นรากแก้วสำคัญในการทำให้ธุรกิจของเครือฯ จนได้รับความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน  ในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

“เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับการยอมรับจากสถาบัน Ethisphere ให้เป็นบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกในปีนี้  รางวัลนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า เครือฯจะไม่หยุดที่จะพัฒนาองค์กร ผู้บริหารและพนักงานของเครือฯ เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมดั่งเช่นที่เรายึดมั่นในคุณธรรมและความซื่อสัตย์มาตลอด 100 ปี ก้าวต่อไปของเครือฯ เราพร้อมมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมตามหลักมาตรฐานสากล  เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับผู้คนในสังคม”

ด้าน มร.ทิมโมธี เออร์บลิค (Timothy Erblich) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบัน Ethisphere กล่าวว่า ภาคธุรกิจคือกำลังสำคัญในการมีส่วนช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ผ่านกระบวนการการทำธุรกิจ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance: ESG) คือพลังที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกให้ดีขึ้น ซึ่ง Ethiphere มั่นใจว่าผลงานอันน่าภาคภูมิใจของทั้ง 135 บริษัทจากทั่วโลกที่ได้รับพิจารณาให้เป็นบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกจะสร้างแรงบันดาลใจให้ภาคธุรกิจอีกจำนวนมากในทั่วโลกได้นำไปปฏิบัติตาม ภาคธุรกิจควรหันมาให้ความสำคัญกับ ESG ให้มากยิ่งขึ้น