รายงานข่าว เปิดเผยว่า บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี ได้เปิดอบรมหลักสูตร “สร้างตัวกับเมนูเดลิเวอรี่” ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 63 ที่ศูนย์นวัตกรรมด้านอาหาร Food Innovations Center จ.ปทุมธานี สิงห์อาสา เพื่อช่วยเสริมทักษะให้กับผู้เข้าอบรมนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยมี “เชฟป้อม” ธนรักษ์ ชูโต เชฟกะทะเหล็กอาหารจีน และ “เชฟปิ๊ก” สรมย์เวท ธีระพจน์ ครีเอทีฟเชฟ จากร้าน EST. 33 สอนทักษะการทำอาหารพร้อมให้ความรู้ด้านการเพิ่มมูลค่าของอาหารเดลิเวอรี่เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ปรากฏว่า ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น จนมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างจำนวนมาก และเต็มในทุกคลาสตั้งแต่เปิดกิจกรรมมาในช่วงกลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา
ทั้งนี้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้มีนโยบายเร่งด่วนในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ด้วยการเร่งจ้างงานและสร้างอาชีพ ผ่านโครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ โดยการเปิดอบรมกลุ่มทักษะด้านอาหาร 3 หลักสูตรคือ หลักสูตร 10 เมนูยอดนิยม อร่อยง่ายๆ สำหรับร้านอาหารตามสั่งทั่วไป กับ “เชฟบุ๊ค” บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต, หลักสูตรสร้างตัวกับเมนูเดลิเวอรี่ กับ “เชฟปิ๊ก” สรมย์เวท ธีระพจน์ ครีเอทีฟเชฟ จากร้าน EST. 33 และ หลักสูตรเครื่องดื่มร้อน-เย็น เต็มสูตร โดย ทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทีม R&D จากร้าน Farm Design และทีมบาริสต้า จากสิงห์ปาร์คเชียงราย ทั้งนี้มี เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟรางวัลมิชลิน 2 ดาว จากร้าน R.HAAN และ “เชฟป้อม” ธนรักษ์ ชูโต เชฟกะทะเหล็กอาหารจีน ร่วมวางหลักสูตร ซึ่งการอบรมครั้งนี้นับเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการอบรมกลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านอาหาร โดยตลอดทั้งโครงการมีผู้สมัครเข้ารับการอบรมจำนวนมากและต่างมีความเห็นว่าโครงการสามารถนำไปต่อยอดได้จริง
สำหรับ เดือนสิงหาคมนี้ บุญรอดบริวเวอรี่ เตรียมเปิดอบรมในกลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านงานช่าง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับความร่วมมือกับเครือข่ายของสิงห์อาสาทุกภูมิภาคทั่วประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัย, สถาบันอาชีวศึกษา, หน่วยงานชั้นนำ นำองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการสร้างอาชีพ เปิดคอร์สอบรมฟรีให้กับผู้ที่สนใจ โดยสามารถติดตามได้ที่เฟสบุ๊ค : Singha R-SA สิงห์อาสา นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด บริษัทได้ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศ ในรูปแบบของการจ้างงานและสร้างอาชีพ เป็นมูลค่าการช่วยเหลือรวมกว่า 200 ล้านบาท ทั้งการจ้างงานเร่งด่วนผ่านโครงการสิงห์อาสาในการร่วมเป็นอาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตัวเองทั่วประเทศ คือ โครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่า, โครงการสิงห์อาสาสู้ภัยแล้ง และ โครงการสิงห์อาสาสู้น้ำท่วม และอื่นๆ อีกมากมาย