สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนมกราคม 2566

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2566 จะเติบโตน้อยกว่าในปี 2565 ที่ 3.4% แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2566 ว่าจะขยายตัวที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจาก 2.7% ตามที่ได้เผยแพร่รายงานเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกคลายความกังวลเกี่ยวกับการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง อีกทั้งเงินเฟ้อที่ลดลงอาจนำไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เร็วกว่าคาด

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2566 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องและมีข่าวดีจากการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติและมูลค่าการส่งออกจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

  • ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566 SET Index ปิดที่ 1,671.46 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และปรับเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบผลตอบแทนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
  • SET Index ในเดือนมกราคมปี 2566 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในไตรมาสสุดท้ายปี 2565 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
  • ในเดือนมกราคม 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 72,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 56,184 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 23.7% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
  • ขณะที่ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ โดยในเดือนมกราคม 2566 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 18,997 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9
  • ในเดือนมกราคม 2566 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) และ บมจ. เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF) โดยมูลค่าระดมทุนรวมในหุ้น IPO ของไทยปี 2566 อยู่ยังในระดับต้นๆ ของเอเชีย
  • Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ระดับ 16.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.8 เท่า
  • อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ระดับ 2.75% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.00%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

  • ในเดือนมกราคม 2566 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 530,429 สัญญา ลดลง 23.1% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures