รู้เก็บรู้ออม : ห้องเรียนลงทุนเด็กมัธยม

การส่งเสริมและสนับสนุนด้านความรู้เรื่องการเงินและการลงทุนให้กับคนไทย ทุกเพศ ทุกวัย ถือเป็นบทบาทและหน้าที่สำคัญของ “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” ที่ทำมาต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้น

เพราะเมื่อคนมีความรู้เรื่องการเงินการลงทุน ก็ย่อมเห็นความสำคัญ เกิดความสนใจ นำไปสู่การเริ่มลงมือออมเงิน และลงทุนผ่านเครื่องมือการลงทุนต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ การปูพื้นฐานความรู้จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ยิ่งปลูกฝังได้ตั้งแต่วัยเรียน ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเด็กเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งคนที่มีบทบาทสำคัญก็คือ คุณครู ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอด และส่งต่อความรู้ให้แก่นักเรียน

โครงการ INVESTORY Investment Learning Design Bootcamp โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้เกิดขึ้นในปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมด้านองค์ความรู้และเครื่องมือเกี่ยวกับการลงทุน ให้แก่คุณครูเพื่อนำไปส่งต่อความรู้แก่นักเรียนมัธยมที่เริ่มสนใจเรื่องการลงทุน รวมทั้งสร้างพื้นที่เรียนรู้ของครูในการสร้างสรรค์สื่อการเรียนการสอน และจัดกระบวนการเรียนรู้ที่กระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน โดยมีครูเป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุน

และในปี 2567 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯประกาศเดินหน้าโครงการนี้ต่อเป็นปีที่ 2 สนับสนุนให้ครูระดับมัธยมศึกษาออกแบบโมเดลการเรียนรู้การเงินการลงทุน ส่งต่อความรู้ในรูปแบบ active learning

ตัวโครงการประกอบไปด้วยกิจกรรม 3 ส่วนคือ 1.Workshop ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ครูด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อให้ครูออกแบบหลักสูตรการสอนของตัวเอง 2.Teaching Lab ครูนำหลักสูตรการสอนที่ออกแบบไปทดลองสอน เป็นระยะเวลา 1 ภาคการศึกษา โดยมีตลาดหลักทรัพย์ฯ คอยให้คำแนะนำ และ 3.Show & Share เปิดเวทีให้ครูสาธิตห้องเรียนการลงทุนแก่บุคลากรทางการศึกษาและสาธารณชน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นห้องเรียนตัวอย่างที่สามารถนำกลับไปใช้ได้ในโรงเรียนแต่ละแห่ง

คุณภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ พูดถึงโครงการนี้ว่า ความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยสร้างทักษะในการบริหารจัดการเงินซึ่งเยาวชนจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ครูจึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ เพราะมีความใกล้ชิด รู้จักและเข้าใจนักเรียนของตัวเองเป็นอย่างดี ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงให้พื้นที่เรียนรู้แก่ครูในการนำองค์ความรู้ไปออกแบบการเรียนการสอนด้านการลงทุนให้เหมาะสมสำหรับนักเรียนในแต่ละโรงเรียนต่อไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคอยทำหน้าที่เป็นโค้ชของครู สนับสนุนด้านองค์ความรู้ เครื่องมือ และสื่อความรู้

ที่ผ่านมา โครงการนี้ได้สร้างครูสอนการลงทุนแล้วใน 66 สถาบันการศึกษา จาก 24 จังหวัดทั่วประเทศ ขยายผลสู่นักเรียนรวม 11,422 คน ปัจจุบันมีห้องเรียนลงทุนตัวอย่างแล้ว 19 ห้องเรียน นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯจะพัฒนาชุดความรู้การลงทุนสำหรับนักเรียนมัธยมต่อไป เพื่อให้ความรู้ขยายออกไปในสถานศึกษาต่างๆ ครอบคลุมทั่วประเทศ

“คุณนายพารวย” อยากเห็นโครงการนี้พัฒนาและต่อยอดหลักสูตรการลงทุนสำหรับนักเรียนมัธยมจนสามารถบรรจุเป็นวิชาเรียนในหลักสูตรการศึกษาของทุกโรงเรียน เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับเยาวชนของประเทศต่อไป ครูที่สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://investory.setgroup.or.th

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ