เดินป่า ขึ้นเขา ไหว้พระธาตุ
ทันทีที่รู้ว่า จะได้เดินทางไปที่มูลาอิ ก็นั่งค้นหาข้อมูลว่า ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทไหนกัน จะได้เตรียมตัวถูก
มูลาอิ อยู่ในจังหวัดเมียวดี ของประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมาร์ เราเดินทางข้ามเขตแดนจากฝั่งไทย ตรง ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยนั่งรถกระบะยกสูง มุ่งหน้ามายังมูลาอิ ใช้เวลาเดินทางด้วยรถ อีกประมาณ 4 ชม. ตลอดทางขรุขระ และฝุ่นเยอะมาก พกหน้ากากอนามัย หรือผ้าคาดปิดหน้าปิดจมูกไว้เป็นอันดีที่สุด
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/Untitled-3-300x200.jpg)
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/แม่ทิน_200315_0162-300x225.jpg)
หลังจากนั่งรถโยกไปโยกมาเพราะทางวิบากมาก จะมีจุดแวะพักรถให้เราได้พักยืดเส้นยืดสาย พักทานข้าวกัน
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/Untitled-2-1024x683.jpg)
หลังจากนั้น ขึ้นรถเดินทางต่อ และแล้วก็ถึงจุดหมายปลายทาง บริเวณหน้าวัด ทางขึ้นพระธาตุ แต่ตามแผนการเดินทาง เราต้องเดินทางขึ้นเขาไปที่จุดกางเต้นท์ก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมงได้ จะมีลูกหาบจ้างให้แบกสัมภาระขึ้นไปข้างบน หรือใครอยากจ้างให้แบกกระเป๋า ข้าวของส่วนตัว ก็แล้วแต่ตกลงราคากัน
เดินเท้าขึ้นเขา ทางเดินก็ไม่ได้ยากลำบากนัก แต่ร่างกายควรต้องฟิตพอสมควร
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/IMG_20200307_113443-300x224.jpg)
เดินไปเรื่อยๆ จนถึงเจดีย์บนยอดเขา ก็สบายใจได้ เพราะแสดงว่า ถัดจากนี้ไปจะเป็นทางเดินทอดลงไปถึงบริเวณจุดกางเต้นท์
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/IMG_20200308_065302-1024x766.jpg)
และแล้วเราก็มาถึงจุดกางเต้นท์ หลังจากเก็บข้าวของ นั่งพักให้หายเหนื่อยแล้ว ก็เตรียมเดินย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อกลับไปที่จุดทางขึ้นพระธาตุ
อาหารตรงโรงทานที่แจกให้คนมาทานฟรี เป็นแป้งขาวปั้นกลมนึ่ง
ช่วงเวลาที่เรามา ตรงกับงานบุญใหญ่ประจำปีพอดี จึงพบเห็นภาพทั้งคนพม่า คนกะเหรี่ยง ที่ศรัทธา เดินเท้าขึ้นไปสักการะพระธาตุ เต็มตลอดทางเดิน
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/Untitled-7-1024x683.jpg)
ด้านบนจะมีพระธาตุสององค์ ก่อนถึงบันไดทางขึ้น ทุกคนต้องถอดรองเท้า เดินขึ้นบันไดไป ผู้หญิงสามารถเดินไปถึงพระธาตุองค์แรกเท่านั้น ส่วนด้านบน อนุญาตให้ผู้ชายเท่านั้นที่เดินขึ้นไปได้
ตลอดทาง มีคนท้องถิ่นเดินเต็มทางเป็นแถวยาวเพื่อไปไหว้พระธาตุ พระธาตุองค์แรกที่เดินขึ้นมาถึงก่อน ผู้หญิงจะเดินมาได้ถึงแค่นี้ พระธาตุด้านบนสุด อนุญาตให้ผู้ชายเท่านั้นเดินขึ้นไปไได้
ด้านหลังพระธาตุบนสุด จะมีทางเดินเท้าลงไปดูวิวสวย เราจะเจอโขดหินก้อนใหญ่ที่ผู้เดินทางมานิยมไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือนั่งทอดอารมณ์พักเหนื่อย และชมวิวความงามของธรรมชาติ
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/11-1024x683.jpg)
ไหว้พระธาตุครบทั้งสององค์แล้ว ก็ได้เวลาเดินเท้ากลับลงไป เพื่อเดินขึ้นเขากลับไปยังจุดกางเต้นท์นอน เพราะเรานัดกินอาหารมื้อเย็นกันที่นั่น ตอนนี้แหละที่ร่างกายเริ่มฟ้องว่า ใช้งานเยอะไปแล้ว เพราะเดินเท้าเปล่าลงจากพระธาตุ แล้วกลับมาถึงบริเวณหน้าวัด จากนั้นก็ต้องเดินขึ้นเขากลับไป เพราะกลัวว่า หากมืดกว่านี้ จะเดินลำบากกัน แต่ในที่สุด เราก็กลับมาถึงจุดกางเต้นท์ หลังจากกินมื้อเย็น ซึ่งเป็นอาหารมังสาวิรัติเสร็จ ด้วยอากาศเริ่มเย็น หนาวมาก ต่างคนก็ต่างแยกย้ายเข้าเต้นท์ใครเต้นท์มัน นอนขดตัวในถุงนอน บางเวลายามค่ำคืน ต้องลุกมาใส่แจ็กเก็ตคลุมตัวนอนทับอีกทีนึง เพราะอากาศตอนดึกที่นี่ หนาวมาก
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/88295549_10158403183309551_5061783537187815424_o-300x224.jpg)
หลังจากผ่านพ้นไปหนึ่งวัน เราตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น อยากบอกว่า สวยมาก อากาศเย็นสบาย ช่วงเช้า ต่างคนต่างแยกย้่ายมามุมสงบ เก็บเกี่ยวความประทับใจ ก่อนเตรียมตัวเก็บข้าวของกลับบ้าน
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2020/03/12-1024x683.jpg)
เก็บข้าวของ สะพายเป้ เดินย้อนกลับมาทางเดิม แต่ขากลับครั้งนี้ รู้สึกเหนื่อยกว่าตอนขามา อาจเพราะร่างกายสะสมความเหนื่อยล้าจากวันก่อน แต่ยังไม่จบ เรายังต้องเผชิญกับการนั่งรถโขยกไปตลอดทางอีกร่วม 4 ชม. แต่สุดท้าย ทริปนี้ เป็นทริปสุดประทับใจ ทั้งความสวยงามของสถานที่ ความศรัทธาที่พบเห็นตลอดทางเดินเท้า