นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง เปิดเผยว่า การขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มฟองละ 20 สตางค์ อยู่ที่ราคาฟองละ 3.60 บาท ตามที่เครือข่ายสหกรณ์ไข่ไก่ประกาศไปเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมานั้น เป็นผลจากภาวะอากาศร้อน – แล้ง ที่ทำให้แม่ไก่ไข่เกิดความเครียด กินอาหารได้น้อยลง กินน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย เนื่องจากไก่ไม่มีต่อมเหงื่อ ทั้งยังมีขนปกคลุม เป็นอุปสรรคต่อการระบายความร้อนออกจากร่างกาย เมื่อมีความเครียดสะสมและสารอาหารที่ได้ไม่เพียงพอกับการสร้างฟองไข่ ผลผลิตไข่ไก่จึงลดลง ส่งผลให้ปริมาณไข่ไก่ในตลาดมีจำนวนน้อยลง ขณะที่ขนาดไข่ไก่ก็เล็กลง รายได้ที่เกษตรกรได้รับก็ลดลงด้วย สวนทางต้นทุนค่าน้ำที่สูงขึ้นและค่าไฟฟ้าที่ต้องใช้มากขึ้น เชื่อผู้บริโภคเข้าใจ
“ราคาไข่ไก่มีการปรับขึ้น-ลง ตามกลไกตลาดอุปสงค์-อุปทาน ซึ่งเห็นได้ว่าช่วงอากาศร้อน-แล้ง ปริมาณไข่ไก่จะน้อยลงจากสภาพทางกายภาพของแม่ไก่ กระทบปริมาณผลผลิตไข่ออกสู่ตลาด ทำให้ราคาไข่หน้าฟาร์มขยับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดเช่นนี้ทุกปี หากอากาศเย็นลงปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาก็จะขยับลง เชื่อว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจในกลไกนี้ดี” นางพเยาว์กล่าว
สอดคล้องกับ กรมการค้าภายใน ที่ยืนยันในทิศทางเดียวกันว่า ราคาไข่ไก่เป็นไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนของทุกปี แม่ไก่ไข่จะออกไข่น้อยลงหรือมีขนาดเล็กลง ทำให้ปริมาณไข่ไก่หายไปราว 10% และราคาอาจขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
อนึ่ง ราคาไข่ฟองละ 3.60 บาทไม่ใช่ราคาสูงสุดในปี 2567 เนื่องจากก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมกราคม 2567 ราคาไข่คละหน้าฟาร์มเคยสูงสุดที่ 3.80 บาทมาแล้ว