นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีการทำนาปรัง 2564/65 จำนวน 6.52 ล้านไร่ หรือ 101.70% ของแผนทำนาปลูกข้าวทั่วประเทศที่ 6.41 ล้านไร่ ส่วนลุ่มเจ้าพระยา มีการทำนาแล้ว 4.08 ล้านไร่ หรือ 144.9% จากแผนที่กำหนดไว้ 2.81 ล้านไร่ ส่วนภาคเหนือ ทำนาแล้ว 7 แสนไร่ หรือ 155.3% ของแผนที่กำหนดไว้ที่ 4.5 แสนไร่ ภาคตะวันออกทำนาแล้ว 5 แสนไร่ หรือ 102.2% ของแผนที่กำหนดไว้ที่ 4.9 แสนไร่ และภาคอื่นๆ ยังทำนาได้ต่ำกว่าแผนที่กำหนด
ขณะที่เขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ 5 แห่ง จากทั้งหมด 35 แห่งมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่ำกว่า 50% ของความจุ ดังนี้คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำ 41% ของความจุ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำ 34% ของความจุ เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 44% ของความจุ เขื่อนห้วยหลวง มีปริมาณน้ำ 45% ของความจุ และเขื่อนสียัด มีปริมาณน้ำ 34% ของความจุ ส่วนการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน ยังเป็นไปตามแผนโดยปีนี้ปริมาณน้ำใช้การได้มากเกือบ 1 หมื่นล้านลบ.ม.
“ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ บริหารจัดการน้ำด้วยการหมุนเวียนน้ำในพื้นที่ให้ทั่วถึง เพื่อไม่ให้พื้นที่ที่เพาะปลูกข้าวได้รับความเสียหาย รวมทั้งเน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการ อย่างเคร่งครัด พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดน้ำ เพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้”
นายประพิศ กล่าวว่า สำหรับปริมาณน้ำทั่วประเทศ ณ วันที่ 6 ก.พ. 2565 ในเขื่อนทั่วประเทศจำนวน 1,389 แห่ง มีปริมาณน้ำทั้งหมด 54,508 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 71% ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งประเทศ มีปริมาตรน้ำใช้การได้ 30,407 ล้าน ลบ.ม. หรือ 58% ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งประเทศ สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาตรน้ำใน 4 เขื่อนหลักทั้งหมด 12,823 ล้าน ลบ.ม. หรือ 52% ของความจุ และมีปริมาตรน้ำใช้การได้ 6,127 ล้าน ลบ.ม. 34% ของความจุใช้การ แบ่งเป็นแต่ละเขื่อน ดังนี้ เขื่อนภูมิพล มีปริมาตรน้ำ 7,226 ล้าน ลบ.ม. เป็นปริมาตรน้ำใช้การได้ 3,426 ล้าน ลบ.ม. หรือ 35% ของความจุใช้การ เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำ 4,182 ล้าน ลบ.ม. เป็นปริมาตรน้ำใช้การได้ 1,332 ล้าน ลบ.ม. หรือ 20% ของความจุใช้การ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาตรน้ำ 719 ล้าน ลบ.ม. เป็นปริมาตรน้ำใช้การได้ 676 ล้าน ลบ.ม. หรือ 75% ของความจุใช้การ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาตรน้ำ 695 ล้าน ลบ.ม. เป็นปริมาตรน้ำใช้การได้ 692 ล้าน ลบ.ม. หรือ 72% ของความจุใช้การ