รายงานข่าว เปิดเผยว่า บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ดำเนินการโครงการช่วยเหลือประชาชนรวมถึงร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ร้านไม่สามารถนั่งทานในร้านได้ โดยสั่งข้าวกล่องเพื่อสร้างรายได้ให้แก่พ่อค้าแม่ค้า และนำไปส่งมอบให้แก่ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ รวมถึงแคมป์คนงานก่อสร้างไปแล้ว 11 เขตทั่วกรุงเทพฯ เพื่อกระจายรายได้และส่งต่อกำลังใจสู่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อใหม่สูงกว่าหมื่นคนต่อวัน และมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ภาครัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรฐการที่จะช่วยลดการสัญจรและการรวมกลุ่มของผู้คน ทำให้มีผู้ประกอบการร้านอาหารได้รับผลกระทบห้ามนั่งรับประทานในร้าน สิงห์อาสา โดยมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เร่งส่งต่อความช่วยเหลือ ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 64 ได้สั่งผลิตข้าวกล่องจากร้านอาหารตามสั่งในพื้นที่เขตดุสิต ส่งให้แก่ชุมชนใกล้เคียง 4 แห่ง ได้แก่ แคมป์พระราม 5, ชุมชนตรอกต้นโพธิ์, ชุมชนพัฒนาซอยสินทรัพย์ และชุมชนวัดจันทร์สโมสร พร้อมน้ำดื่มสิงห์ ซึ่งจะช่วยให้ร้านอาหารมีรายได้จุนเจือครอบครัว และประชาชนที่ได้รับผลกระทบลดภาระค่าครองชีพ เป็นการส่งต่อความช่วยเหลือสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พี่น้องประชาชนอีกด้วย
นับตั้งแต่ ได้มีการประกาศ “ล็อกดาวน์ 14 วัน” รวมถึงประกาศ “เคอร์ฟิว” ในพื้นที่ 10 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) สิงห์อาสาได้เคลื่อนขบวนปรุงสุข-ปันอิ่ม ช่วยสั่งข้าวกล่องจากร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบ ส่งไปให้ประชาชนแล้ว 30 ชุมชน 11 แคมป์ ครอบคลุมพื้นที่ 11 เขต ได้แก่ ดุสิต ปทุมวัน ดอนเมือง คลองสาน ดินแดง บางแค สาธร ยานนาวา ธนบุรี บางรัก และบางกอกใหญ่ ประชาชนที่ต้องกักตัวหรือไม่สามารถประกอบอาชีพได้ต่างได้รับอาหารพร้อมน้ำดื่มสิงห์ มีร้านอาหารขนาดเล็กที่สิงห์อาสาได้สั่งผลิตข้าวกล่องจำนวนมาก ซึ่งในสถานการณ์แพร่ระบาดที่ยังคงรุนแรงเช่นนี้ สิงห์อาสาได้เตรียมแผนให้ความช่วยเหลือประชาชนคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่ออยู่เคียงข้างและเติมเต็มกำลังใจให้คนไทยมีพลังเดินหน้าฝ่าวิกฤติโควิด-19 ต่อไป
โดยนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ไตรมาสแรก บริษัท บุญรอดฯ ได้ให้การสนับสนุนน้ำดื่มสิงห์ กว่า 9 แสนลิตร รวมทั้งอาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมทาน (ข้าวรีทอร์ท) และอาหารปรุงสุก ตลอดจนส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Pulse Oximeter), เครื่องวัดความดัน, เครื่องวัดอุณหภูมิ, ชุดป้องกัน PPE และอุปกรณ์ป้องกันหลายรายการ ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งมอบสิ่งจำเป็นดังกล่าวข้างต้นให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม และศูนย์บริการประชาชนไปแล้วกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งส่งมอบสิ่งจำเป็นทั้งอาหารและน้ำดื่มให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กว่า 100 ชุมชน และยังได้มีการระดมทีมบุคลากรที่ปฏิบัติงานอยู่ใน 10 โรงงานหลักของเครือฯ ช่วยกันจัดทำแปลงเกษตรน้ำใจสร้างฐานทรัพยากรอาหารให้แก่ชุมชนใกล้เคียง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่และประชาชนที่เป็นแรงงานคืนถิ่นอีกทางหนึ่งด้วย