ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ว่า บริษัท มีกำไรสุทธิรวม 2,064.87 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.44 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 กำไรสุทธิ 1,863.19 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.11 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 201.68 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น 10.82%
โดยเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 25,398.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 21,846.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,552.28 ล้านบาท คิดเป็น 16.26% ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับทุกประเภทต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน เบี้ยประกันอัคคีภัย เพิ่มขึ้น 6.53% เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง เพิ่มขึ้น 18.34% เบี้ยประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้น 18.42% และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด เพิ่มขึ้น 16.75%
“ปี 2563 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ บมจ.ทิพยประกันภัย ได้เติบโตอย่างโดดเด่น แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในด้านของรายได้จากการรับประกันภัย ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกประเภท และความสามารถการทำกำไรที่ทะลุ 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์” ดร.สมพร กล่าว
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้น ดร.สมพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากบริษัทฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และพัฒนาการให้บริการ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน
โดยล่าสุด ทิพยประกันภัย ได้มีการออกกรมธรรม์รูปแบบใหม่ “TIP อัพทูไมล์” ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ที่ออกแบบให้สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ตามความต้องการ หรือระยะไมล์ที่ใช้อย่างแท้จริง และยังมีกรมธรรม์ TIP Personal Cyber ประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคลที่เอาใจนักช้อปออนไลน์ จากการซื้อของหรือทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมด้วย TIP SME Cyber สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงหรือความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังมีการจับมือกับแอปพลิเคชัน Gojek (โกเจ็ก) เปิดโครงการ “มั่นใจทุกการส่งกับ GoSend” เพื่อให้ทุกการส่งกับ GoSend ทุกชิ้นได้รับความคุ้มครอง
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2564 นั้น ดร.สมพร กล่าวว่า นโยบายสำคัญที่ต้องเดินหน้าในปีนี้ คือ การปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการดำเนินการยกระดับเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ ภายใต้ชื่อบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการองค์กร
“ทิพยประกันภัย ยังคงยึดกลยุทธ์เพิ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กร รวมถึงสร้างแบรนด์ให้เป็นบริษัทประกันภัยในดวงใจของลูกค้า นึกถึงทิพยประกันภัยเป็นอันดับแรก (Top of Mind) ด้วยการสื่อสารถึงความเป็นตัวตนและบริการที่เป็นเลิศ ผ่านการสื่อสารอย่างครบวงจร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและประชาชนในการใช้บริการของทิพยประกันภัยมากขึ้น”
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ให้ความสำคัญเอาใจใส่กับลูกค้าและช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อาทิ น้ำท่วม เพลิงไหม้ บริษัทฯ จะส่งทีมงานที่เกี่ยวข้องทั้งในภูมิภาค รวมทั้งส่วนกลาง โดยเฉพาะทีม TIP Smart Assist ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถก้าวผ่านวิกฤตและกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็ว