ดัชนีหุ้นปันผล (SETHD Index) มุมมองเลือกลงทุนในหุ้นปันผล

0

ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยแพร่บทความ SET NOTE เรื่อง “SETHD Index: ดัชนีหุ้นปันผลอีกหนึ่งมุมมองในการเลือกลงทุนในหุ้นปันผล” นำเสนอมุมมองในการลงทุนหุ้นกลุ่มปันผล โดยใช้ SETHD Index มีเนื้อหาว่า ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ในระดับต่ำ การเลือกลงทุนในหุ้นปันผลที่ขณะนี้ที่ราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนโดยอาจเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของ SETHD Index

ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ สิ้นปี 2567 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนฯ ส่วนใหญ่ปรับลดลงจากสิ้นปี 2566 มาอยู่ที่ระดับ 1.30% ถึง 2.35% ขณะที่ระดับเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ระดับ 0.4% และเมื่อพิจารณาผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ณ สิ้นปี 2561 – 2567 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย พบว่า ในทุกปีที่ทำการศึกษาผลตอบแทนจากเงินปันผลของบจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน และสูงประมาณ 1.37 – 2.48 เท่าของอัตราที่สูงที่สุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนของธนาคารพาณิชย์ และพบว่า สิ้นปี 2567 บางอุตสาหกรรมให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเกือบ 2 เท่าของอัตราที่สูงที่สุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ดังนั้น การลงทุนระยะยาวโดยการเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่จ่ายเงินปันผล อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการโยกย้ายเงินออม โดยนักลงทุนต้องพิจารณาจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม

SETHD Index เป็นดัชนีสะท้อนความเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดและมีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งมุมมองในการเลือกลงทุนในหุ้นปันผล

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มหุ้นปันผลโดยเผยแพร่ดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index (SETHD) ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2554 ซึ่ง SETHD Index เป็นดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งมุมมองในการเลือกลงทุนในหุ้นปันผล

มีการประเมินผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงดัชนีของ SETHD Index เทียบกับ SET Index และ SET100 Index ในช่วง 5 ปีย้อนหลัง ที่ผ่านช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส (COVID-19) ตามตารางที่ 3 และภาพที่ 1 พบว่า SETHD Index ให้ผลตอบแทนดีกว่าทั้ง SET Index และ SET100 Index และหากพิจารณาผลตอบแทนของการเปลี่ยนแปลงดัชนีในช่วง 10 ปีย้อนหลัง พบว่า SETHD Index ลดลงน้อยกว่า Index และ SET100 Index

นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนจากเงินปันผลในช่วง 3 ปีล่าสุดของทุกหลักทรัพย์ที่องค์ประกอบ SETHD Index อยู่ที่ 5.58% โดยค่าเฉลี่ยฯ อยู่ในช่วง 2.45% ถึง 17.03% พบว่า 16 หลักทรัพย์จากทั้งหมด 30 หลักทรัพย์ มี Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปี สูงกว่า 5% ต่อปี โดยมี Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปีอยู่ในช่วง 5.43% ถึง 17.03%

หากนักลงทุนไม่ต้องการเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวในองค์ประกอบของ SETHD Index อาจพิจารณาเลือกลงทุนใน “1DIV” ได้ โดยกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF (1DIV) เป็นหน่วยลงทุนของกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลดีและสม่ำเสมอ ซึ่งจะลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (ดัชนี SET High Dividend 30 Index)

สรุปได้ว่า ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ในระดับต่ำ การเลือกลงทุนในหุ้นปันผลที่ขณะนี้ที่ราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนโดยอาจเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของ SETHD Index ที่เป็นหลักทรัพย์ที่สภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง หรือเลือกลงทุนใน “1DIV” ที่เป็นหน่วยลงทุนของกองทุนที่เน้นการลงทุนในองค์ประกอบของ SETHD Index

อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย อาทิ ราคาตลาดของหลักทรัพย์ในขณะนั้นเมื่อเทียบกับราคาที่แท้จริง  ความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ภาวะเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน สภาพคล่องในการซื้อขาย จังหวะเวลาในการเข้าลงทุนในหุ้นปันผลนั้น ๆ เป็นต้น