รายงานข่าวจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเดินหน้าสานต่อ”โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย” ปลูกฝังพนักงานในองค์กรรู้จักกตัญญูรู้คุณ แบ่งปัน ช่วยเหลือและดูแลผู้สูงอายุรอบฟาร์มและโรงงานของบริษัททั่วประเทศที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ขาดคนดูแล ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โครงการดังกล่าว ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัยที่เลี้ยงตัวเองไม่ได้ โดยตลอด 10 ปีของการดำเนินโครงการฯ ให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยไปแล้วรวมมากกว่า 800 ราย และเป็นการให้ความช่วยเหลือไปตลอดชีวิตจนกว่าผู้สูงอายุจะถึงแก่กรรม ซึ่งตัวเลขล่าสุด จนถึงเดือนตุลาคม 2563 มีจำนวนผู้สูงอายุที่ซีพีเอฟรับเข้าโครงการฯอยู่ที่ 357 ราย กระจายในทุกภาคทั่วประเทศ และในทุกๆปี จะมีการพิจารณารับผู้สูงอายุที่เข้าเงื่อนไขเข้าโครงการเพิ่มเติม
โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด 19 ซีพีเอฟประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไปให้แก่ผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอ
“กองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย” จัตตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตนเองไม่ได้ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านสุขภาพ สภาพจิตใจ อารมณ์ และสภาพแวดล้อม โดยใช้เกณฑ์พิจารณารับผู้สูงอายุเข้าร่วมโครงการฯ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อาศัยอยู่ในชุมชนรอบฟาร์มหรือโรงงานของซีพีเอฟในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากเงินช่วยเหลือที่ใช้ในการดำรงชีพ 2,000 บาททุกเดือนแล้ว เจ้าหน้าที่ซีพีเอฟออกเยี่ยมเยียนและติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง
เช่นกรณีของนางทองเทื้อม ช่างประดิษฐ อายุ 84 ปี ที่อ. ท่าเรือ จ พระนครศรีอยุธยา ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งท่อนล่างและหูตึง กินและนอนอยู่ที่ศาลาเล็กๆของทางเทศบาลตำบลท่าหลวงสร้างให้ โดยทุกๆวันจะมีเด็กศูนย์ปฏิบัติธรรมนำอาหารมาให้คุณยายเพื่อไว้รับประทานทั้ง 3 มื้อ คุณยายมีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการ 800 บาทต่อเดือน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บาทต่อเดือน และได้รับเงินช่วยเหลือในโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย เดือนละ 2,000 บาท เป็นเวลา 5 ปีแล้ว
นางบัวผัน มาลัยลิน อายุ 81 ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง มีภาระต้องดูแลบุตรชายซึ่งเป็นอัมพาตนอนติดเตียง รายได้ที่เยียวยาครอบครัวมาจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บาทต่อเดือน และได้รับเงินช่วยเหลือจากซีพีเอฟเดือนละ 2,000 บาท มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ซีพีเอฟช่วยดูแลสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น ซื้อที่นอนใหม่แทนของเดิมซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้
นางผิว ขยายวงศ์ อายุ 90 ปี ที่อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีปัญหาเดินไม่สะดวก เพราะเคยขาหัก ทำให้ขาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน และสายตามองไม่ค่อยเห็น คุณยายอยู่คนเดียว ไม่มีลูกหลานดูแล มีเพื่อนบ้านที่มาช่วยดูแลและให้ความช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว โดยมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 900 บาทต่อเดือน และเงินช่วยเหลือที่ซีพีเอฟมอบให้เพื่อใช้ในการดำรงชีพทุกเดือน