บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สานต่อโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน พัฒนาสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมชุมชนมีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแลรักษา และฟื้นฟูป่า สร้างความตระหนักในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสากรรมและอาหารครบวงจร ริเริ่มโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน “ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” มาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีเป้าหมายปลูกป่าชายเลนรวมกว่า 5,200 ไร่ ต่อยอดสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ ในพื้นที่จ.ระยอง ซีพีเอฟอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนไปแล้วรวม 614 ไร่ ต่อยอดสู่การเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ปากน้ำประแส” อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการสนับสนุนการรวมตัวของชุมชนยกระดับเป็นวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยววิถีชุมชนตำบลปากน้ำประแส โดยที่ผ่านมา มีหน่วยงานเข้ามาศึกษาดูงาน อาทิ กลุ่มบริษัทในเครือปตท. คณะจากกระทรวงต่างประเทศ(กรมยุโรป) กลุ่ม Eco Green นิคมอุตสาหกรรมอมตะซีตี้ ชลบุรี นักเรียนโรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ คณะครูโรงเรียนวัดสระแก้ว จังหวัดนครราชสีมา ชมรมบำเพ็ญประโยชน์และชมรมท่องเที่ยวจิตอาสาของซีพีเอฟ ฯลฯ และตลอดปี 2565 จนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.2566) มีผู้เยี่ยมชม 38 คณะ รวมมากกว่า 1,000 คน
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2023/05/1356135.jpg)
ล่าสุด ชุมชนปากน้ำประแส พร้อมด้วย นางดวงฤดี ขวัญนิยม ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ และคณะทำงานยุทธศาสตร์ป่าชายเลน จ.ระยอง ของซีพีเอฟ ให้การต้อนรับ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ รุ่นที่ 65 นำโดย คุณเมทนี บุรณศิริ หรือ คุณนีโน่ หัวหน้าหมู่ช้าง วปอ.65 นายสงวน แสงวงศ์กิจ ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง พร้อมคณะนักศึกษา วปอ.65 หมู่ช้าง ลงพื้นที่เพื่อศึกษาและเยี่ยมชมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยววิถีชุมชนตำบลปากน้ำประแส และทำกิจกรรมเวิร์คช็อป อาทิ ทำจานจากกาบหมาก ทำขนมบอบแบบ ทำแจงลอนซึ่งเป็นอาหารของท้องถิ่น ร่วมกันปลูกต้นโกงกางด้วยวิธีเลียนแบบธรรมชาติ(หย่อนฝักโกงกาง) และปลูกต้นโกงกางลงดิน รวมทั้งปล่อยปลากะพงขาว 1,500 ตัว บริเวณสะพานปลาของชุมชนปากน้ำประแส
นายตรัยกัญจนภูมิ พรนิยมสิริ ในฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ป่าชายเลนพื้นที่ภาคตะวันออก (จังหวัดระยอง) ของซีพีเอฟ กล่าวว่า ปี 2562-2566 เข้าสู่ระยะที่สองของโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน มีเป้าหมายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน พื้นที่ต.ปากน้ำประแส 614 ไร่ นอกจากนี้ ในปี 2566 ซึพีเอฟ สร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน ปลูกฝังความตระหนักร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยจัดกิจกรรมสร้างบ้านปลา บ้านปู ซ่อมแซมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กิจกรรมเก็บขยะป่าชายเลนที่มีการทำต่อเนื่องจากปี 2565 เก็บขยะป่าชายเลนและเก็บขยะชายหาดรวม 4 ครั้ง เก็บขยะได้มากกว่า 2 ,500 กิโลกรัม โดยในปีนี้ จะจัดกิจกรรม Coastal Day (เก็บขยะชายหาดสากล)เป็นปีที่ 2 ระหว่าง วันที่ 12-16 กันยายน 2566 นี้ รวมทั้งสำรวจการเติบโตของต้นไม้เพื่อวัดการกักเก็บคาร์บอน
![](https://bigkren.com/wp-content/uploads/2023/05/1356140.jpg)
นางดวงฤดี ขวัญนิยม ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน ชุมชนในพื้นที่ปากน้ำประแส มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศูนย์เรียนรู้ และตระหนักถึงประโยชน์ของทรัพยากรป่าชายเลน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศูนย์การเรียนรู้ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ปากน้ำประแส ที่เป็นทั้งแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศป่าชายเลน และแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของจังหวัดระยอง พร้อมกันนี้ ชุมชนฯผลักดันให้คนรุ่นใหม่เห็นประโยชน์ของป่าชายเลน ช่วยกันดูแล รักษา และปกป้องผืนป่าในพื้นที่ โดยที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ มีสถานีพืชและสัตว์ 9 แห่ง ประกอบด้วย สถานีต้นแสม 100 ปี, สถานีทักทายพี่ลำพูทะเล, สถานี หอยหัวใจแห่งห่วงโซ่อาหาร, สถานีกุ้งดีดขันนักดนตรีจากธรรมชาติ, สถานียลโกงกางสร้างสายใยรัก, สถานีวังมัจฉาเริงร่าวารี, สถานีปูเเสมจอมยุ่ง, สถานีสไลเดอร์ปลาตีน และสถานีแลบ้านปูก้ามดาบ ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ วันที่ 10 พฤษภาคมของทุกปี ตรงกับ “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” เป็นการย้ำเตือนให้ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันปกป้อง ดูแลรักษา ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลน ซี่งเป็นทั้งแหล่งอาหาร แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นแนวกำบังภัยธรรมชาติ ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เกิดความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพันธุ์พืชและสัตว์น้ำ และป่าชายเลนยังเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน