นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เดอะมอลล์กรุ๊ป เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ชีวิตวิถีใหม่ของธุรกิจค้าปลีกห้างสรรพสินค้าจะเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เข้มงวด เพื่อให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
มาตรการขั้นสูงสุดดำเนินการในทุกมิติ ประกอบด้วย สำหรับลูกค้า 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย และสำหรับกลุ่มธุรกิจ 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย รวม 100 มาตรการ โดยกลยุทธ์สำคัญคือการสร้าง สังคมไร้สัมผัส (TMG TOUCHLESS SOCIETY) ถือเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์รูปแบบใหมตั้งแต่การขับรถเข้าในที่จอดรถ ไปถึงขั้นตอนการชำระเงินซื้อสินค้าและบริการ
ทั้งนี้ ลูกค้าทุกคนจะต้อง เช็กอิน เพื่อเข้าไปศูนย์ ทำได้ 3 รูปแบบ คือ
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น MCARD ซึ่งปัจจุบันมีระบบกว่า 7 แสนราย ลูกค้าสามารถ เช็กอินมาจากที่บ้านได้ แสดงแอปให้เจ้าที่หน้าที่และผ่านเข้าประตูได้เลยไม่ต้องรอคิวหน้าศูนย์
- การเช็กอินผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดและแอปพลิเคชั่นไลน์
- กรอกแบบฟอร์มหน้าศูนย์
ช่วงแรกประเมินว่าลูกค้าจะมาใช้บริการ ลดลงกว่าปกติ 30-40% โดยพฤติกรรมการซื้อสินค้าหลังวิกฤตโควิดได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าที่มีความจำเป็นมากกว่ากว่าการซื้อตามอารมณ์ ซึ่งจะเป็นสินค้าใช้ในครัวและใช้ในบ้านยอดขายขึ้นท็อป 5 ซึ่งปกติจะมีสัดส่วนการขายเพียง 5-10% เท่านั้น และพฤติกรรมการช้อปจะมีความรวดเร็วขึ้น มีการวางแผนล่วงหน้ามาจากบ้าน
สำหรับการปิดศูนย์การค้าไปตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายรวมหายไปถึง 70-80% เพราะเปิดบริการเพียงซูเปอร์มาร์เก็ตและช้อปออนไลน์
นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มโพเรี่ยม กรุ๊ป และกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดค้าปลีกปีนี้ จะหดตัวลง 14% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไป 5 แสนล้านบาท จากมูลค่าตลาดค้าปลีกปี 62 ประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท โดยมีผลกระทบจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัวลง, กำลังซื้อที่ลดลง และสต๊อกสินค้าที่ขาดแคลน อาทิ สินค้านำเข้าจากจีน และกำลังการผลิตที่หดตัวลง
เดอะมอลล์กรุ๊ปได้วางแผนธุรกิจเดินหน้าไปพร้อมชีวิตวิถีใหม่ซึ่งก้าวสู่ดิจิทัลอย่างเต็มตัว แต่รูปแบบของศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้ายังคงเป็นหลักอยู่ และจะทำให้แม้การช้อปออนไลน์จะเติบโตสูงมากแต่ยังถือว่าเป็นสัดส่วนน้อย โดยกลยุทธ์ต่อไปจะพิจารณาตาม 3 ประเด็นหลัก คือการเข้มงวดในการดูแลสุขภาพ, การเว้นระยะห่างทางสังคม และการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
“หลังศูนย์การค้ากลับมาเปิด จะเห็นภาพรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง พื้นที่ศูนย์การค้าจะลดลงเหลือเพียง 50% หรือหากบริหารดีๆ อาจจะได้ 70% เพราะต้องเข้มงวดในมาตรการรักษาระยะห่างหรือ social distancing และมาตรการที่เข้มงวดที่นำมาใช้เพื่อความมั่นใจให้กับลูกค้าให้มากที่สุด”