นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้ที่ลงทะเบียนในมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน จากการเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com พบว่าจนถึงเที่ยงคืน ของวันที่ 28 มีนาคม มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 8.5 ล้านคน
หลังจากนี้กระทรวงการคลัง ใช้เวลาตรวจสอบและจ่ายเงินให้ผู้ผ่านเกณฑ์ภายใน 7 วันทำการ ดังนั้น ผู้ที่ผ่านการลงทะเบียนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จะได้รับเงิน 5 พันบาทเดือนแรกภายในวันที่ 8 เมษายน
โดยเมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว จะมีข้อความแจ้งไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือ แจ้งว่าผ่านหรือไม่ ภายใน 7 วัน
แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ
1.กลุ่มผ่านเกณฑ์ จะได้รับ SMS ยืนยัน ให้รอรับเงินที่จะโอนผ่านพร้อมเพย์ หรือบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้
2. กลุ่มไม่ผ่าน จะแจ้งให้ทราบพร้อมเหตุผล และสามารถอุทธรณ์ได้
3. กลุ่มขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น กลุ่มที่ไม่ชัดเจนเรื่องสถานที่ทำงาน
ผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา ต้องผ่านคุณคุณสมบัติของกระทรวงการคลัง คือ ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม และไม่ได้รับการดูแลหรือเยียวยาจากระบบประกันสังคม คือต้องไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปี ขึ้นไป ไม่มีสถานะนักเรียนหรือนักศึกษา ณ วันลงทะเบียน ไม่เป็นข้าราชการ ไม่เป็นอาชีพเกษตรกรรม ต้องเป็นผู้มีงานทำ ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
กรณีลูกจ้างร้านหมูปิ้ง ไม่ได้มีการจดทะเบียนบริษัท ต้องมีหลักฐานว่าร้านปิดกิจการ และแสดงได้ว่าเป็นลูกจ้างร้านหมูปิ้ง เช่น รูปถ่าย หรื หลักฐานอื่นๆ ที่ระบุสถานะลูกจ้างร้าน ส่วนคนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ ต้องมีใบขับขี่สถานะมายืนยัน ส่วนคนขายอาหาร ไม่ว่าในห้างหรือแผงลอยข้างถนน ในเมื่อรัฐไม่ให้รับประทานที่ร้านแต่ซื้อกลับไปกินที่บ้าน ก็อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ ต้องมีหลักฐานมายืนยันว่าเป็นลูกจ้าง หรือเจ้าของร้าน และได้รับผลกระทบจากโควิด-19