นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นประธานแถลงข่าวมาตรการ “การยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking” เปิดเผยว่า มาตรการนี้เป็นความร่วมมือของกระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบรายชื่อเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และเจ้าของบัญชีธนาคาร Mobile Banking ให้ตรงกัน โดย กสทช. และ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ,สำนักงาน ปปง. , ธปท. และธนาคารพาณิชย์ได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์กว่า 120 ล้านหมายเลขแล้วเสร็จเมื่อสิ้นเดือน พฤศจิกายน 2567 จัดเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ลูกค้าที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แจ้งเป็น M คือ ชื่อเจ้าของซิม และ Mobile Banking ตรงกัน มีจำนวนประมาณ 75.8 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 63.02, กลุ่มที่ 2 ลูกค้าที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แจ้งเป็น N คือ ชื่อเจ้าของซิม และ Mobile Banking ไม่ตรงกัน มีจำนวนประมาณ 30.9 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 25.68 และ กลุ่มที่ 3 ลูกค้าที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แจ้งกลับมาเป็น P คือไม่พบชื่อเจ้าของซิม/ไม่มีข้อมูล มีจำนวน 13.5 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 11.29
โดยขั้นตอนดำเนินการต่อจากนี้ คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2568 เป็นต้นไป ธนาคารจะใช้รูปแบบแจ้งเตือน (Notification) ผู้ใช้บริการกลุ่ม N และกลุ่ม P ผ่านช่องทาง Mobile Banking ของแต่ละธนาคาร โดยผู้ที่ได้รับแจ้ง ต้องอัพเดตข้อมูลชื่อเจ้าของซิม กับชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking ให้ตรงกัน ภายใน 90 วัน (ภายในวันที่ 30 เม.ย. 2568) หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด ปปง. ธปท. และ กสทช. จะพิจารณาระงับการใช้งาน Mobile Banking เป็นการชั่วคราวต่อไป
สำหรับกลุ่ม N ซึ่งเป็นกลุ่มที่เจ้าของซิม และ Mobile Banking ไม่ตรงกัน , บัญชีต่างชาติ , กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เปิดบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 และเปิดใช้งาน Mobile Banking ก่อนปี พ.ศ. 2566 ที่มีชื่อเจ้าของซิม กับชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking ไม่ตรงกัน ผู้ใช้บริการที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะต้องไปติดต่อศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปลี่ยนเจ้าของซิม หรือติดต่อธนาคารที่ใช้งาน Mobile Banking เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผูกกับ Mobile Banking ของธนาคาร เพื่อดำเนินการให้ข้อมูลชื่อตรงกันภายในวันที่ 30 เมษายน 68 หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด บริการ Mobile Banking อาจถูกระงับการใช้งาน
ในส่วนของ กลุ่ม P ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับแจ้งว่าไม่พบชื่อเจ้าของซิม โดยเป็นกลุ่มที่เปิดบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 และเปิดใช้งาน Mobile Banking ก่อนปี พ.ศ. 2566 ที่ตรวจสอบจากค่ายมือถือแล้ว แต่ไม่พบชื่อเจ้าของซิม (ดำเนินการพร้อมกัน 2.4 ล้านเลขหมาย) โดยกรณี หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้ลงทะเบียนกับธนาคารมีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ สามารถติดต่อศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือที่ใช้บริการด้วยตนเอง เพื่อลงทะเบียนชื่อเจ้าของซิมให้ตรงกับชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking หรือ ลงทะเบียนชื่อเจ้าของซิมเป็นชื่อตามที่ประสงค์ที่เข้าเกณฑ์การจดทะเบียนซิมได้ตามเงื่อนไขของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (ธนาคารไม่สามารถดำเนินการในส่วนนี้แทนได้) พร้อมบัตรประชาชน เพื่อดำเนินการให้ข้อมูลชื่อเจ้าของซิมตรงกับชื่อที่ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด บริการ Mobile Banking อาจถูกระงับการใช้งาน