ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ที่บริเวณท้ายเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำท่าเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานได้ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 561 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนในอัตรา 127 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ ปัจจุบันในหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนัก และมีปริมาณน้ำในลำน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 6 เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2565) ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300-500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณ ตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และอำเภอท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดอยุธยา ระดับน้ำสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร หากมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 500 ลบ.ม./วินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
กรมชลประทาน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และตรวจสอบความพร้อมของอาคารชลประทานตลอดจนสถานีสูบน้ำให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ได้ประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ท้ายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูล แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อไปยังสำนักงานชลประทานในพื้นที่หรือ โทรสายด่วน 1460