Home Blog Page 187

AIS ชี้ปีใหม่ยอดดาต้า 5 จี เพิ่มขึ้น 619% กระจายทุกจังหวัดทั่วประเทศ

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่การใช้งานดิจิทัลเติบโตอย่างยิ่ง จากการล็อคดาวน์ด้วยสถานการณ์โควิด ที่ทำให้วิถีการใช้ชีวิต ทั้งทำงาน หรือ เรียน ต้องอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ส่งผลถึงปริมาณการใช้งานดาต้าของลูกค้า ที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 25 กิกะไบต์ต่อเดือน สำหรับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ที่แม้จะยังอยู่ระหว่างสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการระบาดของโควิด-19 แต่ลูกค้าก็มีการเดินทางท่องเที่ยวทุกภาคทั่วประเทศมากขึ้น รูปแบบการใช้งานจึงมีการกระจายตัวจากกรุงเทพไปในแต่ละจังหวัดสูงขึ้นมากกว่า 20%  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสาน และภาคเหนือ เมื่อเทียบกับช่วงวันธรรมดา  และด้วยเครือข่าย AIS 5G  ที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากเป็นอันดับ 1  จึงสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การใช้งานดาต้าบน 5 จี จึงเติบโตสูงถึง 619% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส

ส่วนภาพรวมการใช้บริการของ ทั้งโมบาย ไวไฟ และเอไอเอส ไฟเบอร์ ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งวัน กว่า 37%  เมื่อเทียบกับปี 2564   โดยมีการอวยพรปีใหม่ ผ่านแอปพลิเคชั่นยอดฮิตอย่าง เฟซบุ๊ค ไลน์ และรับชม Video Streaming เพื่อความบันเทิงระหว่างเดินทาง หรือ พักผ่อน อยู่กับบ้านมากขึ้นอย่างชัดเจน

ออมสิน รับปีขาล ออก “สลากออมสินดิจิทัล 1 ปี ฉลองปีใหม่ 2565” ลุ้นรางวัลใหญ่ 1 ล้าน รวม 20 รางวัล

ธนาคารออมสิน ต้อนรับปีขาล มอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ลูกค้าสุดพิเศษ!

ซื้อสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี ผ่าน MyMo ได้ลุ้นโชคต่อที่ 2 เพิ่ม! รางวัลพิเศษ จำนวน 20 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาท มูลค่ารวม 20 ล้านบาท

กำหนดออกรางวัล 2 ครั้ง
• ครั้งที่ 1 วันที่ 16 มีนาคม 2565 จำนวน 10 รางวัล รวม 10 ล้านบาท
• ครั้งที่ 2 วันที่ 16 เมษายน 2565 จำนวน 10 รางวัล รวม 10 ล้านบาท
(กำหนดงวดและหมวดอักษรของรางวัลพิเศษ ทั้ง 20 รางวัล)

เปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564 – 15 มีนาคม 2565 (วงเงินรับฝาก 24,000 ล้านบาท)

หลักเกณฑ์รายละเอียด
ระยะเวลารับฝากตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
ผู้มีสิทธิเปิดบัญชีบุคคลธรรมดา อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
อายุ1 ปี (สิทธิการถูกรางวัล 12 ครั้ง)
ราคาต่อหน่วย20 บาท
รายละเอียดดอกเบี้ยฝากครบ 1 ปี ไม่ได้รับดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยกรณีผิดเงื่อนไขการฝากฝากไม่ครบ 3 เดือน หักส่วนลด 0.50 บาทต่อหน่วย
วงเงินในการรับฝาก 1. สามารถเลือกทำรายการฝากตามจำนวนเงินที่กำหนดได้ ดังนี้ จำนวนเงิน 200 /400 /1,000 /2,000 /10,000 /20,000 /100,000 และ 200,000 บาท
2. สามารถระบุจำนวนเงินที่ต้องการฝากด้วยตนเองตั้งแต่ 1,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท โดยระบุได้เฉพาะจำนวนเงินที่หารด้วย 1,000 ลงตัว
3. วงเงินการทำรายการสูงสุด 10,000,000 บาทต่อวัน (วงเงินรวมกับการโอนเงินภายในบัญชีตนเอง)4. ธนาคารไม่ออกใบสลากให้ แต่สามารถตรวจสอบรายการฝากได้ในบริการMobile Banking (MyMo)5. สามารถฝากเพิ่มในทะเบียนสลากเดิมได้โดยเป็นรายการฝากใหม่
ระยะเวลาจ่ายดอกเบี้ย
การออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน* หยุดจำหน่ายทุกวันที่ 16 ของเดือน *
การรับเงินรางวัลโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอนในวันถัดจากวันที่ออกรางวัล
เงื่อนไขหลัก1. ผู้ฝากต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอนสำหรับรับโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเมื่อสลากครบอายุ และเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝาก2. ต้องสมัครใช้บริการ Mobile Banking (MyMo) สำหรับทำรายการฝาก-ถอน ผ่านบริการ Mobile Banking (MyMo)3.  ไม่รับฝากบัญชีร่วมและบัญชีเพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์
สลากครบอายุโอนเงินสลากครบอายุและดอกเบี้ย(ถ้ามี) เข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน

สิทธิพิเศษของโครงการ 

ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564 – 15 มีนาคม 2565
วงเงินโครงการ24,000 ล้านบาท
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ1.     ต้องเป็นผู้ฝากสลากออมสินดิจิทัล 1 ปี ในระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2564 – 15 มีนาคม 2565 เท่านั้น
2.     ไม่จำกัดวงเงินรับฝากต่อราย
สิทธิพิเศษของโครงการเพิ่มรางวัลพิเศษ รางวัลละ 1 ล้านบาท จำนวน 20 รางวัล รวมเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 20 ล้านบาท โดยกำหนดงวดและหมวดอักษรของรางวัลพิเศษ ทั้ง 20 รางวัล
การออกรางวัลพิเศษออกรางวัลจำนวน 2 ครั้งครั้งที่ 1 วันที่ 16 มีนาคม 2565 จำนวน 10 รางวัล รวม 10 ล้านบาทครั้งที่ 2 วันที่ 16 เมษายน 2565 จำนวน 10 รางวัล รวม 10 ล้านบาท
การรับเงินรางวัลพิเศษโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน ในวันถัดจากวันที่ออกรางวัล

ดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ >https://bit.ly/3sAm4pW

หมอช้าง เปิด 9 บทสวดมนต์ข้ามปี รับมงคลปีใหม่ 2565

“หมอช้าง” ทศพร ศรีตุลา หมอดูทำนายราศีชื่อดัง นำบทสวดมนต์ข้ามปีมาฝาก เพื่อให้คนไทยนำไปสวดอยู่บ้านในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รับชีวิตวิถีใหม่ ปลอดภัยจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธ์ุโอไมครอนที่กำลังน่าวิตกอยู่ตอนนี้

1.คำกล่าวบูชาพระรัตนตรัย

2. บทกราบพระรัตนตรัย

3. นมัสการพระพุทธเจ้า

4. สมาทานศีล 5

5. บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย

6. บทมงคลสูตร

7. บทโพชฌังคปริตร

8. บทพุทธชัยมงคลคาถา

9. บทแผ่เมตตา

ที่มา เพจเฟสบุ็ค หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา

กรมสรรพากร​ แจ้งยกเลิกคืนภาษีผ่าน​บัตร​ e-Money​ กรณีไม่มารับเงินคืนภาษีด้วยตัวเอง

กรมสรรพากรปรับเปลี่ยนช่องทางการคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2564  สืบเนื่องจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีประกาศว่าด้วย แนวทางในการระบุตัวตนและพิสูจน์ทราบตัวตนของลูกค้า และการระบุและพิสูจน์ทราบตัวตนของผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ส่งผลให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต้อง “ยกเลิกการรับคืนเงินภาษีด้วยบัตรเงินสด e-Money กรณีผู้ขอคืนเงินภาษีไม่ได้เดินทางมารับเงินคืนภาษีด้วยตนเองที่สาขาธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ วันที่ 2พฤศจิกายน พ.ศ. 2564” เพื่อให้การพิสูจน์ยืนยันตัวตนของการมารับเงินภาษีคืนด้วยบัตรเงินสด e-Money ที่สาขาธนาคารเป็นไปตามประกาศดังกล่าว

นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน)
ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร​ เปิดเผยว่า“เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา​ ปีภาษี 2564 ที่จะมีกำหนดการยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 พร้อมขอคืนเงินภาษี​ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่​ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 กรณียื่นด้วยแบบกระดาษ​ หรือถึงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2565 กรณียื่นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ที่ www.rd.go.th โดยได้เตรียม
ช่องทางในการคืนเงินภาษีให้ดังนี้

1) การคืนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
กรมสรรพากรจะทำการโอนเงินภาษีที่ได้อนุมัติคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ สำ​หรับบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชนกับบัญชีเงินฝากธนาคาร​ และได้แจ้งความประสงค์ขอรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ขอคืนภาษีเกินกว่า
90% เลือกใช้บริการในปีภาษีที่ผ่านมา​

2) การคืนเงินผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตร​ และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรณีผู้ขอคืนเงินภาษีไม่ประสงค์รับเงินภาษีคืนด้วยการโอนเงินภาษีคืน
เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ กรมสรรพากรจะออกหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา​เป็นหลักฐานเพื่อนำไปติดต่อรับเงินคืนที่สาขาธนาคารธนาคารกรุงไทย หรือธกส. ดังนี้

  • สำหรับ กรณีผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี ที่มีคำสั่งศาล และได้รับหนังสือแจ้งคืนภาษี​ ผู้จัดการมรดก ยังคงสามารถมาขอรับเงินคืนได้ที่สาขาธนาคารกรุงไทย ในรูปแบบบัตรเงินสด e-Money ได้​ โดยแสดงคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้อง พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการมรดกมาขอรับเงินคืนที่สาขาธนาคาร

3) การคืนเงินสำหรับผู้ขอคืนที่ไม่สามารถลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก กรณี ชาวต่างชาติ ห้างหุ้นส่วนสามัญ คณะบุคคล วิสาหกิจชุมชน และกองมรดก ที่ยังไม่ได้แบ่ง​ กรมสรรพากรจะออกหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีฯ​ พร้อมเช็ค โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ตามที่อยู่บนแบบแสดงรายการให้ผู้ขอคืน เพื่อนำไปเข้าบัญชีเงินฝากที่สาขาธนาคารเท่านั้น

สำหรับผู้ขอคืนที่ได้รับหนังสือก่อน วันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ยังไม่ได้ขอคืนเงินที่สาขาธนาคาร​ และหนังสือหมดอายุ ให้ยื่นคำร้องขอออกเช็คคืนภาษีที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ กรมสรรพากรจะออกหนังสือฉบับใหม่พร้อมเช็คและจัดส่งทางไปรษณีย์ให้ผู้ขอคืนต่อไป”

โฆษกกรมสรรพากร​ กล่าวว่า “เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการขอรับคืนเงินภาษี
ขอแนะนำให้ผู้ขอคืนลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชนกับบัญชีเงินฝากธนาคาร
และแจ้งความประสงค์ขอรับเงินภาษีคืนเข้าบัญชีธนาคารดังกล่าว หากมีค าถามเกี่ยวกับวิธีการและเอกสารที่ใช้ในการขอคืนเงินภาษีผ่านสาขาธนาคาร สามารถติดต่อสาขาธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตร
และสหกรณ์การเกษตร ที่ท่านสะดวก”
หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ
หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161


พีทีที สเตชั่น ต้อนรับปีใหม่ เติมน้ำมันครบ 300 บาท รับฟรีสินค้าไทยเด็ด

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า พีทีที สเตชั่น ขอส่งมอบความสุขคืนสู่ลูกค้ากับโปรโมชั่นฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยของขวัญสุดพิเศษกว่า 2 ล้านชิ้น โดย พีทีที สเตชั่น ขอเป็นตัวกลางส่งต่อความสุขจากชุมชนด้วยการอุดหนุนสินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อยและนำมามอบเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้ลูกค้าที่มาเติมน้ำมัน ซึ่งไม่เพียงจะเติมเต็มรอยยิ้มของผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการที่ พีทีที สเตชั่น แต่ยังช่วยกระจายรายได้กลับสู่ชุมชน เติมเต็มความสุข ได้ความอิ่มใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ และผู้ได้รับ

เติมเต็มรอยยิ้มให้ชุมชนต้อนรับปีใหม่ เมื่อเติมน้ำมันครบ 300 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรี! สินค้าไทยเด็ด 1 ชิ้น มูลค่า 10 บาท อาทิ มะขามแก้ว ตราบ้านมะขาม, กล้วยตาก ตราแดดดี บานาน่า, ถั่วลายเสือคั่ว ตราคุณลุง, กล้วยตาก ตราไฮโซ และกล้วยกรอบ ตราบานาน่า โดยสินค้าจะมีความแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่

ร่วมเติมเต็มผู้คน เติมเต็มชุมชน ไปกับพีทีที สเตชั่น ศูนย์กลางของความสุข เติมเต็มรอยยิ้มทุกการเดินทาง พร้อมรับโปรโมชั่นสำหรับเทศกาลปีใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 ที่สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศที่ร่วมรายการ

ซีพี ชนะคดีผู้บริหารส.ธรรมาภิบาลไทย กล่าวหาระบบเกษตรพันธสัญญาทำเกษตรกรเป็นหนี้

รายงานข่าวจากสำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2564 เปิดเผยว่า  ตามที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอัครกฤษ นุ่นจันทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันธรรมาภิบาลไทย เป็นจำเลยในข้อหา “หมิ่นประมาทและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2563

จากกรณีที่นายอัครกฤษ นุ่นจันทร์ กล่าวหาซีพีเกี่ยวกับการทำธุรกิจเกษตรพันธสัญญาของ บมจ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) โดยอ้างว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ไก่ ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ได้รับผลกระทบจากเกษตรพันธสัญญาจนต้องล้มเลิกโครงการและมีหนี้สิน

จากการสืบพยานของศาลอาญากรุงเทพใต้ พบว่า ซีพีไม่มีพฤติกรรมในการเอาเปรียบเกษตรกรจนมีภาระหนี้สินจากการทำเกษตรพันธสัญญาตามที่จำเลยกล่าวอ้างในพื้นที่ ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม แต่อย่างใด

และตามที่จำเลยป่าวประกาศ ทั้งการอ่านข้อความแถลงการณ์ตามหนังสือร้องเรียน และถ่ายทอดสดการแถลงข่าวผ่านทางช่องทางแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กของจำเลย ในขั้นตอนการสืบพยาน ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าแม้จำเลยนำสืบว่า จำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต แต่พบว่าไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้องเสียก่อน คำพยานของจำเลยไม่อาจรับฟังได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือติชมด้วยความเป็นธรรมจึงมีความผิดตามฟ้อง

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้พิพากษาแล้วว่า นายอัครกฤษ นุ่นจันทร์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จำคุก 2 เดือนและปรับ 40,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาฉบับย่อพอได้ใจความในหนังสือพิมพ์จำนวน 5 ฉบับ จำนวน 3 วันติดต่อกัน

อนึ่ง บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ฟ้องร้องตัวแทนสถาบันธรรมาภิบาลไทย เพิ่มเติมอีก 3 คดี ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง, เกษตรพันธสัญญาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ภาคเหนือ และการรับซื้อวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล

กรมชลฯ สั่งบริหารน้ำเขื่อนให้เพียงพอ รองรับความต้องการช่วงหน้าแล้ง

กรมชลประทานเผยผลการทำนาปรังครั้งที่ 1 ลุ่มเจ้าพระยาเพาะปลูกแล้วกว่า 2 ล้านไร่ เน้นบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้เพียงพอกับทุกกิจกรรม สำรองไว้เพื่อรักษาระบบนิเวศในช่วงฤดูแล้ง

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เมื่อ 26 ธ.ค.2564 ผลการทำนาปรังปี 2564/65 ในพื้นที่เขตชลประทาน มีการทำนาปรังแล้ว 3.01 ล้านไร่ หรือ 46.86% ของแผนการทำนาปรังครั้งที่ 1 ทั่วประเทศในเขตชลประทาน 6.41 ล้านไร่ โดยลุ่มเจ้าพระยาทำนาปรังครั้งที่ 1 มากสุดจำนวน 2.08 ล้านไร่ หรือ 73.84% ของแผนที่กำหนดไว้ 2.81 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยาทำนาปรังครั้งที่ 1 สัดส่วน 31% ของการนำนาปรังทั่วประเทศ รองจากลุ่มเจ้าพระยา คือ ภาคตะวันออก มีการทำนาปรังครั้งที่ 1 แล้ว 4.2 แสนไร่ หรือ 85.91% ของแผนที่ 4.9 แสนไร่และภาคเหนือ ทำนาปรังครั้งที่ 1 แล้ว 4.1 แสนไร่ หรือ 90.25% ของแผนการทำนาปรัง ครั้งที่ 1 จำนวน 4.5 แสนไร่

“หลังประกาศเข้าสู่ฤดูแล้งอย่างเป็นทางการ เมื่อ 1 พ.ย. ทั่วประเทศทำนาปรังครั้งที่ 1 แล้วมากกว่า 3 ล้านไร่ หรือเกือบ 50% ของแผนการทำนาปรังในเขตชลประทานทั่วประเทศ ที่มากสุดคงเป็นลุ่มเจ้าพระยามีการทำนาปรังครั้งที่ 1เกือบ 31% ของพื้นที่ทำนาปรังครั้งที่ 1 ทั้งหมดและคิดเป็น 74% ของแผนเพาะปลูก แต่น้ำต้นทุนในรายภาคที่จะนำมาใช้ในลุ่มเจ้าพระยา จาก 4 เขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์  เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เหลือน้ำใช้การได้ 42% ของน้ำใช้การได้เมื่อต้นฤดู”

นายประพิศ กล่าวว่า แผนการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง (1 พ.ย.64-30 เม.ย.65) ลุ่มเจ้าพระยาปี 2564/65 ใน 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำใช้การได้ 14,281 ล้าน ลบ.ม. หรือ 57% ของปริมาณน้ำเก็บกักได้เมื่อต้นฤดูที่ 24,871 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การได้เหลือ 7,785 ล้าน ลบ.ม. หรือ 42% ของปริมาณน้ำใช้การได้เมื่อต้นฤดูที่ 18,175 ล้าน ลบ.ม. โดยเขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำเก็บกักเหลือ 8,113 ล้าน ลบ.ม. หรือ 60% ของน้ำเมื่อต้นฤดูที่ 13,462 ล้าน ลบ.ม. และปริมาณน้ำใช้การได้ 4,313 ล้าน ลบ.ม. หรือ 45% ของปริมาณน้ำต้นฤดูแล้งที่ 9,662 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักเหลือ 4,404 ล้าน ลบ.ม. หรือ 46% ของปริมาณน้ำเมื่อต้นฤดูแล้งที่ 9,510 ล้าน ลบ.ม. และปริมาณน้ำใช้การได้เหลือ 1,554 ล้าน ลบ.ม. หรือ 23% ของปริมาณน้ำใช้การได้เมื่อต้นฤดู 6,660 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำเก็บกักเหลือ 876 ล้าน ลบ.ม. หรือ 93% ของปริมาณน้ำเก็บกักได้เมื่อต้นฤดูที่ 939 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การได้เหลือ 833 ล้าน ลบ.ม. หรือ 93% ของปริมาณน้ำใช้การได้เมื่อต้นฤดูแล้งที่ 896 ล้าน ลบ.ม.และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักเหลือ 888 ล้าน ลบ.ม. หรือ 93% ของปริมาณน้ำเก็บกักได้เมื่อต้นฤดูแล้งที่ 960 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณน้ำใช้การได้ 885 ล้าน ลบ.ม. หรือ 93% ของปริมาณน้ำใช้การได้เมื่อต้นฤดูที่ 957 ล้าน ลบ.ม.

ระยะเวลาเกือบ 2 เดือน กรมชลประทานมีการบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ในฤดูแล้ง ให้เพียงพอสำหรับใช้ในกิจกรรมต่างๆ ตามปริมาณน้ำต้นทุน เมื่อ 1 พ.ย.จำนวน 7,744 ล้าน ลบ.ม. มีการจัดสรรน้ำเพื่อใช้ในฤดูแล้ง 5,700 ล้าน ลบ.ม. ในจำนวนนี้ได้มีการสำรองไว้ต้นฤดูฝน เผื่อฝนทิ้งช่วง จำนวน 3,044 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีการจัดสรรไปแล้ว 1,425 ล้าน ลบ.ม. หรือ 25% ของน้ำใช้ในฤดูแล้ง คงเหลือน้ำที่ต้องจัดสรร 4,275 ล้าน ลบ.ม. หรือ 75%ของปริมาณน้ำที่ใช้ในฤดูแล้ง

อย่างไรก็ตามน้ำที่สำรองเพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ จะถูกจัดสรร ตามลำดับความสำคัญ และปริมาณน้ำต้นทุนที่มี  คือ เพื่อทำเกษตรกรรมสัดส่วน 43% เพื่อรักษาระบบนิเวศและอื่นๆ สัดส่วน 35% เพื่ออุปโภคบริโภค สัดส่วน 20%  และเพื่ออุตสาหกรรม สัดส่วน 2%

ทิพยประกันภัย เดินหน้า ‘พลังบุญทิพยร่วมสร้างครั้งที่ 189’ วัดพระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย

วิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย นำหน่วยหนุมานทิพยจิตอาสาและกัลยาณมิตรธรรม จัดโครงการสร้างบุญมหากุศล “ พลังบุญทิพยร่วมสร้าง ครั้งที่ 189 ” โดยนิมนต์ พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอแม่สาย และเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์พระอารามหลวง จ.เชียงราย เป็นประธานสงฆ์และพระภิกษุสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และห่มผ้าองค์พระธาตุดอยตุงโดยมี พระใบฎีกาพงศ์ภัส ปภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยไคร้ใหม่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นำห่มรอบองค์พระธาตุ เพื่อน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ วัดพระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย

เคอรี่ เอ็กซ์เพรส หนุนนโยบายรัฐ​ มอบของขวัญให้ปชช.​ ให้ส่วนลดค่าส่ง 30%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวโครงการ “พาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 16 New Year Grand Sale 2022” ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยบริษัทได้มอบคูปองส่วนลดค่าจัดส่งพัสดุสูงสุด 30% เพียงดาวน์โหลด Kerry Express Application เพื่อกดรับคูปอง* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 มกราคม 2565

โออาร์ เข้าลงทุนใน “คามุ ที” รุกธุกิจอาหารและเครื่องดื่ม

นายสมยศ คงประเวช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า โออาร์ ได้เข้าลงทุนใน บริษัท คามุ คามุ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “คามุ ที” (Kamu Tea) ในสัดส่วนร้อยละ 25 ที่วงเงินไม่เกิน 480 ล้านบาท

การเข้าลงทุนดังกล่าว ถือเป็นการต่อยอดทางธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบดื่มชาและเครื่องดื่มไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ในการพัฒนา พีทีที สเตชั่น ให้เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน แต่เป็น Living Community ที่จะเชื่อมโยงสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคต้องการให้สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ช่วยเติมเต็มทุกความสุข ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทั้งคนเดินทางและผู้คนในชุมชน และให้ทุกคนรู้สึกว่า โออาร์ เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ หนึ่งในแนวทางในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของ โออาร์ คือการมองหาโอกาสและช่องทางในการลงทุนทั้งในธุรกิจใหม่และต่อยอดในสิ่งที่ โออาร์ มีในปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ตามแนวคิด ‘Retailing Beyond Fuel’ รวมทั้งมุ่งพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าด้วยสินค้าใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อแสวงหาโอกาสในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ใหม่ ๆ เพิ่มความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากนี้ การร่วมลงทุนครั้งนี้ ยังเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย โดยการขยายธุรกิจผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ถือเป็นการส่งเสริมแบรนด์สัญชาติไทย และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ โออาร์ ที่มุ่งเติมเต็มโอกาสเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน